วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ปัดฝุ่นเรื่องเก่าไทย.๑๘ หนุมาน


หนุมาน....Hanuman


   วรรณคดีไทยเรื่องรามเกียรติ์ ความจริงแล้วมีต้นทางมาจากมหากาพย์รามยณะของอินเดีย ซึ่งเป็นเรื่องราวการอวตารปางที่ ๗ ของพระนารายณ์ เรียกว่า รามาวตาร หรือ รามจันทราวตาร แน่นอนว่าเมื่อเป็นอวตารของพระนารายณ์แล้ว ตัวเอกของเรื่องก็ต้องเป็นพระรามซึ่งเป็นพระนารายณ์อวตารนั่นเอง

   รามเกียรติ์ไทยนั้น อ่านยังไงๆก็รู้สึกว่าพระเอกตัวจริงนี้ต้องเป็นทหารเอกของพระราม ที่มีชื่อว่า หนุมาน จะนั่งอ่านนอนอ่านก็ยังต้องลงความเห็นว่า ในรามเกียรติ์นี้ พระเอกคือหนุมานอย่างชัดเจน ชัดๆจะๆ

   หนุมานนั้นบางทีคนไทยเราเรียกไปตามสำเนียงท้องถิ่น เช่น หัวระมาน หุนละมาร พญาหัวละมาน

   หนุมานเป็นทหารเอกของพระราม มีอิทธิฤทธิ์มหึมาทั้งฉลาดและมีความจงรักษ์ภักดีต่อพระรามแบบสุดๆ แต่หนุมานไทยกับหนุมานอินเดียนั้นมีความต่างกันอยู่บ้าง ข้อนี้น่าจะเป็นไปตามความคลาดเคลื่อนจากการเล่าและแปลความ หรืออาจแต่งเติมให้เรื่องสนุกขึ้นก็เป็นได้



กำเนิดหนุมาน

   ตำนานการเกิดของหนุมานนี้ ถ้าเป็นรามเกียรติ์ไทยจะจับความตั้งแต่ครั้งพระนารายณ์ปราบยักษ์นนทุก เรื่องมีว่า...ยักษ์นนทุกเป็นยักษ์เฝ้าบันใดทางขึ้นที่จะไปเข้าเฝ้าพระอิศวร มีหน้าที่ตักน้ำล้างเท้าเทวดา แต่ทำหน้าที่บริการให้เทพเทวาถึงขนาดนี้แล้ว แทนที่เทวดาทั้งหลายจะขอบอกขอบใจหรือให้รางวัลแก่ยักษ์นนทุก กลับกลายเป็นว่ายักษ์นนทุกมักถูกพวกเทวดาแกล้งโดยเทวดาจะลูบหัวอยู่เสมอ ดีไม่ดีเหล่าเทวดาอาจเขกกบาลแถมให้ด้วยก็เป็นไปได้ ประมาณว่าพวกเทวดาขี้แกล้งคงมีไม่น้อย ยักษ์นนทุกโดนเทวดาลูบหัวจนผมร่วงหัวล้าน เป็นที่ตลกขบขันของทวยเทพทั้งหลาย

   การที่ยักษ์นนทุกให้บริการล้างเท้าแก่เทวดาแล้วโดนเทวดาแกล้งลูบหัวตบกบาลนี้ สร้างความเจ็บแค้นให้ยักษ์นนทุกเป็นอย่างยิ่ง แต่ยักษ์นนทุกดันเป็นชนชั้นรากหญ้า เป็นผู้ปฏิบัติงานระดับยศศักดิ์เล็กกระจิ๋วหลิวต่ำตม จึงต้องเก็บความแค้นใจไว้ในหัวอก เพราะผู้น้อยจะไปทำอะไรผู้ใหญ่ไม่ได้มันผิดวินัยขององค์กร มิหนำซ้ำฤทธิ์เดชของตัวเองก็มีน้อยสุดที่จะน้อย จะไปแก้แค้นก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ยักษ์นนทุกจึงต้องเก็บความแค้นเอาไว้ในใจ


ยักษ์นนทกล้างเท้าเทวดาแต่โดนเทวดาแกล้ง

    ยักษ์นนทุกเจ็บช้ำน้ำใจมาก จากยักษ์รูปหล่อต้องกลายมาเป็นยักษ์หัวล้านที่เทวดาชอบเยาะเย้ยถากถางกันอย่างสนุกสนาน ดังนั้นแค้นนี้ต้องรอชำระ จนกระทั่งวันหนึ่งยักษ์นนทุกมีโอกาสได้ขอพรจากพระอิศวร พระอิศวรเห็นว่ายักษ์นนทุกได้ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าบันใดและล้างเท้าให้เทวดามานานแล้ว พระอิศวรจึงเมตตาให้พรว่า ให้ยักษ์นนทุกมีนิ้วเพชร จะชี้นิ้วใส่สิ่งใดสิ่งนั้นก็ตายวอดวายพินาศ


พระอิศวรให้พรยักษ์นนทก
   ด้วยพรที่เป็นอภิมหาวิเศษแบบนี้เอง ทำให้อยู่ๆยักษ์นนทุกด้อยฤทธิ์ที่โดนเทวดาแกล้งลูบหัวตบกบาล ก็กลับมามีฤทธิ์ในระดับมหาประลัย จากยักษ์ที่สุดต่ำตมกลายเป็นยักษ์อภิมหาอำนาจ ยักษ์นนทุกจึงไปชำระแค้นล้างแค้นเทวดา ยักษ์นนทุกที่ได้รับพลังดรรชนีนิ้วเพชรได้ไปไล่จี้เหล่าเทวดา คำว่าจี้เทวดานี้ไม่ได้หมายถึงว่าไปจี้เอวเทวดาให้ดิ้นหัวเราะ หรือไปจี้ชิงทรัพย์แต่อย่างไร แต่หมายถึงเอานิ้วชี้ๆไปที่เทวดาแบบพลังดรรชนีในหนังกำลังภายในนั่นเอง ประมาณว่ามีพลังดรรชนีกระบี่หกชีพจรหรือพลังนิ้วสุริยันแบบในนิยายของกิมย้ง

   ยักษ์นนทุกเอานิ้วเพชรจี้พลังดรรชนีถูกเทวดาตายเกลื่อน เหล่าเทวดาที่เคยแกล้งลูบหัวตบกบาลยักษ์นนทุกต่างเสียวสันหลังวาบๆ เพราะคิดว่าอีกประเดี๋ยวคงถึงคิวที่ยักษ์นนทุกต้องมาเช็คบิลล์ล้างแค้นแน่ๆ เพราะเทวดาเคยทำแสบต่อยักษ์นนทุกไว้มากนัก เหล่าเทวดาขี้แกล้งจึงพากันหนีตายไปขอให้พระอิศวรช่วย

   พระอิศวรคงเห็นว่าท่านเป็นนายเก่าของยักษ์นนทุก แล้วจะไปจัดการยักษ์นนทุกเองคงจะชอบกล พระอิศวรจึงขอให้พระนารายณ์ช่วยปราบยักษ์นนทุก


ยักษ์นนทุกร่ายรำตามนางฟ้านารายณ์แปลง

   พระนารายณ์เห็นว่าควรจะปราบยักษ์นนทุกด้วยปัญญา ไม่ควรที่จะไปออกฤทธิ์บู๊กันตรงๆ ข้อนี้ไม่ทราบว่าจะเป็นแบบที่เขาว่าจะตีคนจ้องดูนายหรือไม่ เพราะถึงอย่างไรแล้วนายของยักษ์นนทุกก็คือพระอิศวรนั่นเอง จะตีกันตรงๆก็คงต้องเกรงใจพระอิศวรท่านบ้าง พระนารายณ์จึงใช้วิธีแปลงกายเป็นนางฟ้าแสนสวยมายั่วยวนยักษ์นนทุก ยักษ์นนทุกตะลึงที่เห็นนางฟ้านารายณ์แปลงสวยงามน่าลุ่มหลงสุดพรรณา จึงเข้าไปเกี้ยวพาราสีนางฟ้า นางฟ้านารายณ์แปลงจึงแกล้งล่อให้ยักษ์นนทุกร่ายรำตามท่ารำที่แสดงให้ดู ว่าถ้าทำได้ก็จะยอมรับเป็นแฟนกัน

   ยักษ์นนทุกหลงรักนางฟ้านารายณ์แปลงสุดหัวใจ จึงร่ายรำตามนางฟ้า ก็น่าที่จะรำแบบเก้ๆกังๆ พอรำไปรำมาก็พลาดตรงท่ารำที่ชี้นิ้วใส่เท้าตัวเอง ยักษ์นนทุกรำท่าชึ้นิ้วตรงข้อเท้าของตัวเอง พลังดรรชนีนิ้วเพชรจึงพุ่งตรงที่ข้อเท้าขาหักล้มลง นางฟ้าแปลงกลับกลายเป็นพระนารายณ์สังหารยักษ์นนทุกได้อย่างสบาย ยักษ์นนทุกตายเพราะความงามแท้ๆ


นางฟ้านารายณ์แปลงสังหาญยักษ์นนทุก
   ก่อนที่ยักษ์นนทุกจะตายนั้น ได้ต่อว่าพระนารายณ์ว่า ที่แพ้พระนารายณ์ก็เพราะตนเองมีแค่เพียงสองมือแต่พระนารายณ์มีมือตั้งสี่มือ ดังนั้นยักษ์สองมืออย่างตนเองจึงแพ้พระนารายณ์ พระนารายณ์เลยสาปยักษ์นนทุกให้ไปเกิดเป็นยักษ์มีสิบหน้ายี่สิบมือ ส่วนพระนารายณ์จะไปเกิดเป็นมนุษย์มีสองมือ แล้วมนุษย์จะปราบยักษ์สิบหน้ายี่สิบมือ ด้วยคำสาปที่พิลึกพิลั่นนี้ ยักษ์นนทุกได้ไปเกิดเป็นพญายักษ์ทศกัณฐ์มีสิบหน้ายี่สิบมือ รอการรีแมทเป็นรอบตัดสิน


จิตรกรรมรามเกียรติ์ถ่ายภาพโดยsihawatchara ทศกรรณ
    พระอิศวรสงสัยว่านางฟ้าแปลงนี้จะสวยขนาดไหนจึงทำให้ยักษ์นนทุกหลงจนตัวตายได้ พระอิศวรจึงขอให้พระนารายณ์แปลงเป็นนางฟ้าให้เห็นบ้าง พระนารายณ์จึงแปลงเป็นนางฟ้าอีกครั้ง ปรากฏว่าแม้แต่พระอิศวรเองก็ยังต้องตะลึงในความงามของนางฟ้านารายณ์แปลง ความตะลึงวาบหวามสุดยอดทำให้พระอิศวรเคลิบเคลิ้มวาบหวิว จนเผลอปล่อยหยดหยาดหฤหรรษ์ออกมาหยดหนึ่ง เข้าใจว่าในสมัยนั้นคงยังไม่มีสมุนไพรถังเช่าหรือไม่มีซุปไก่รังนกยี่ห้อดังเป็นแน่ พระองค์เลยมีความรู้สึกบางอย่างไวไป หลังจากน้ำหฤหรรษ์เล็ดออกมาแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียของดี พระองค์เลยรีบคว้าเก็บไว้ก่อนเผื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคต

   เมื่อพระนารายณ์อวตารเป็นพระรามไปปราบพญายักษ์ทศกัณฐ์ พระอิศวรจึงคิดสร้างทหารเอกให้พระรามไว้เป็นกำลังสำคัญ จึงให้พระพายนำเทพศาสตรา ๓ อย่างพร้อมทั้งกำลังกายาพระอิศวร ซึ่งก็คือหยาดหยดน้ำหฤหรรษ์ นำไปซัดใส่ปากนางสวาหะ เทพศาสตรา ทั้ง ๓ อย่างคือ จักรเพชรให้เป็นศีรษะ คทาเพชรให้เป็นสันหลังตลอดหางทำให้เหาะได้ ตรีเพชรเป็นกายกรบาทาและใช้เป็นอาวุธได้ พระพายรับบัญชาไปปฏิบัติการจนสำเร็จ นับเป็นวิธีการที่ใกล้เคียงกับการผสมเทียมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังนับเป็นเทคโนโลยีชีวภาพผสมกับอาวุธมหาประลัย นับเป็นเทคโนโลยีพันธุกรรมแบบชีวอาวุธครั้งแรกในจักรวาล


ถ่ายภาพโดยsihawatchara หุ่นกระบอกหนุมานในพิพิธภัณฑ์

    นางสวาหะตั้งท้องอยู่ถึง ๓๐ เดือนจึงคลอดออกมาเป็นวานรหนุมาน หนุมานถือกำเนิดในวันอังคาร เดือน ๓ ปีขาล เมื่อเกิดก็กระโดดออกมาจากปากของนางสวาหะ โดยมีตัวโตขึ้นมามีขนาดเท่ากับมีอายุ ๑๖ ปีทันที มีกุณฑล(ตุ้มหู)ติดตัวโดยไม่ต้องไปซื้อหา มีขนเพชรเขี้ยวแก้ว พอเกิดมาแล้วก็แสดงอิทธิฤทธิ์ทันที โดยแผลงฤทธิ์เป็นสี่พักตร์แปดกรเหาะขึ้นฟ้าหาวเป็นดาวเป็นเดือน หนุมานเกิดมาก็มีเครื่องประดับติดตัวมาด้วยคือ กุณฑล และมี ขนเพชร(คือมีเส้นขนตามร่างกายเป็นเพชร ไม่ใช่ขนเพชรแบบที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะบางอย่าง) มีเขี้ยวแก้ว ในรามเกียรติ์ไทยไม่ได้บอกไว้ว่า ทำไมถึงมีของดีเหล่านี้ติดตัว หรือว่าข้าพเจ้าผู้เขียนนี้อาจจะอ่านรามเกียรติ์แล้วไม่เจอเรื่องนี้เองก็ได้

   ตำนานหนุมานแบบรามเกียรติ์ไทยให้พระพายเป็นบิดามีนางสวาหะเป็นมารดา แต่ถ้าตรวจดีเอ็นเอแล้ว สงสัยว่าน่าจะตรงกับดีเอ็นเอของพระอิศวรมากกว่า


หนุมานแบบอินเดีย
ตำนานหนุมานอินเดีย

   กำเนิดหนุมานของอินเดียต่างกับหนุมานไทย หนุมานอินเดียมีบิดาเป็นพญาวานรชื่อ เกสรี มีแม่ชื่อนางอัญชนา และยังนับให้พระพายกับพระอิศวรหรือพระศิวะเป็นพ่อด้วย ประมาณว่าเป็นคุณพ่ออุปถัมภ์

   สาเหตุการกำเนิดของหนุมานก็มาจากการที่นางฟ้าปุญชิกาสถาลาโดนฤๅษีสาปให้หมดสภาพนางฟ้า ให้ไปเกิดใหม่แล้วมีลูกเป็นลิง นางฟ้าจึงตกสวรรค์ไปเกิดใหม่เป็นนางอัญชนา ได้แต่งงานกับราชาพญาวานรชื่อเกสรี ตามเนื้อเรื่องเล่าว่านางอัญชนารู้ตัวว่าตนเองจะเป็นผู้ให้กำเนิดร่างอวตารของพระศิวะ จึงบำเพ็ญเพียรสร้างตบะชำระกายใจให้บริสุทธิ์นาน ๑๒ ปี จึงได้มีลูกเป็นลิง ซึ่งก็คือหนุมานนั่นเอง

   การเกิดของหนุมานนั้นไปเกี่ยวกับพระศิวะด้วย ประมาณว่าคล้ายๆกับรามเกียรติ์ไทย คือพระศิวะแบ่งกำลังจิตเสี้ยวหนึ่ง ให้พระพายนำไปมอบให้นางอัญชนากับพญาวานรเกสรี ต่อมานางอัญชนาจึงตั้งครรภ์แล้วคลอดลูกเป็นลิงที่แปลกประหลาดอัศจรรย์ เพราะเติบโตอย่างรวดเร็ว แถมยังมีกำลังมาก มีกุณฑล(ตุ้มหู)และสร้อยศอ ซึ่งนางอัญชนามองเห็นได้เพียงผู้เดียว ดังนั้นถึงวานรน้อยตัวนี้จะตัวโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นางอัญชนาก็จะจำลูกได้ เพราะจะมีตุ้มหูสร้อยคอให้เห็น

   ในตอนที่หนุมานเกิดใหม่ๆนั้นยังไม่ได้ชื่อว่าหนุมาน แต่มีชื่อว่า มุรติหรือมารุติ ส่วนชื่อหนุมานนั้นได้เมื่อไปแผลงฤทธิ์กับพระอินทร์

หนุมานอินเดีย

อิทธิฤทธิ์หนุมาน

   หนุมานมีอิทธิฤทธิ์ตั้งแต่เกิด พอเกิดมาก็เหาะขึ้นฟ้าแผลงฤทธิ์เป็นหนุมานสี่พักตร์แปดกร หาวเป็นดาวเป็นเดือน หนุมานมีฤทธิ์อยู่ยงคงกระพันชาตรีล่องหนหายตัวได้ ทั้งยังแปลงกายได้สารพัด ย่อตัวขยายตัว ยืดหางให้ยาวเฟื้อยเป็นโยชน์ก็ได้ มีเวทมนต์มาก หนุมานยังกล้าหาญฉลาดเฉลียวมีสติปัญญา ไม่ใช่ว่ามีแต่ดีทางบู๊อย่างเดียว

    หนุมานตอนยังเป็นเด็กก็มีฤทธิ์มากแล้ว ขนาดว่าวันหนึ่งหิวมองเห็นพระอาทิตย์ว่าเป็นผลไม้ลูกใหญ่ จึงเหาะขึ้นไปจะจับพระอาทิตย์กิน ขณะนั้นพระราหูคู่ปรับของพระอาทิตย์กำลังจะอมพระอาทิตย์อยู่พอดี หนุมานมองเห็นพระราหูใหญ่กว่าพระอาทิตย์ จึงเปลี่ยนใจมาไล่จับจับพระราหูเพื่อเอามากินแก้หิว พระราหูตกใจต้องหนีไปหาพระอินทร์ พระอินทร์สงสัยว่าใครสามารถทำให้พระราหูที่มีฤทธิ์มากต้องหนีมาทุลักทุเลถึงเพียงนี้ พระอินทร์จึงขี่ช้างเอราวัณออกมาดู หนุมานเห็นช้างเอราวัณเป็นผลไม้ลูกใหญ่กว่าพระราหู จึงเข้ามาจะจับช้างเอราวัณกิน พระอินทร์ตกใจจึงเอาวัชระตีหนุมานซึ่งยังเป็นแค่ทารกตกจากฟ้า

   ทารกหนุมานโดนพระอินทร์ตีด้วยวัชระตกลงมาจากฟ้ากระแทกแผ่นดินจนสลบ ช่วงกระแทกพื้นนั้นเอาคางลงพอดี คางของหนุมานจึงหักแต่แปลกที่ไม่ตาย นับแต่นั้นจึงได้ชื่อว่า หนุมาน ซึ่งแปลว่าคางหัก แต่บางสำนวนท่านแปลว่าคางแข็ง เพราะร่วงจากบนฟ้าเอาคางกระแทกพื้นแล้วยังไม่ตาย จึงหมายถึงมีคางแข็งโคตรๆ อีกสำนวนหนึ่งว่าคางแตกเป็นแผล

ภาพหนุมานบริเวณระเบียงวัดพระแก้ว


   ในรามเกียรติ์ไทยไม่ได้กล่าวถึงอิทธิฤทธิ์มหึมาของหนุมานว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพียงแต่เล่าถึงกำลังกายาพระอิศวรและอาวุธวิเศษสามอย่าง กับเล่าว่าหนุมานเรียนวิชาและได้รับพรจากพระอิศวรให้ไม่ตาย ให้พระพายพัดมาถูกตัวแล้วฟื้นคืนชีพได้ แต่ในรามเกียรติ์อินเดียมีรายละเอียดมากกว่า ถึงขนาดมีการแตกแขนงเรื่องรามยณะไปเป็นคัมภีร์เรื่องของหนุมานโดยเฉพาะ ชื่อคัมภีร์ว่า หนุมานนาฏกะ

   ในรามเกียรติ์อินเดียกล่าวถึงอิทธิฤทธิ์หนุมานว่า นอกจากหนุมานจะได้รับพรและกำลังจากพระศิวะแล้ว ยังได้รับพรและพลังจากคณะเทพอีกหลายองค์ เช่น พระพรหม พระนารายณ์ พระอินทร์ พระพาย พระอัคนี พระวรุณ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระกาล จึงไม่แปลกที่หนุมานจะมีอิทธิฤทธิ์มหึมา รวมพรต่างๆที่ได้รับมาแล้วน่าที่จะเก่งไปกว่าเทพที่ให้พรมาด้วย

   หนุมานในวัยเด็กก็มีฤทธิ์มากโคตรๆ จะไปที่ใดก็เหาะไปง่ายๆ แต่ถึงมีฤทธิ์มากก็ยังต้องซวยเพราะความเป็นเด็กที่ไม่รู้ความ ในรามเกียรติ์ไทยว่า หนุมานเหาะเที่ยวไปซนในสวนสวรรค์ของพระแม่อุมา ไปรื้อสวนเล่นเอาดื้อๆ พระแม่อุมาจึงสาปให้ฤทธิ์หนุมานลดลงกึ่งหนึ่ง แต่แล้วพระแม่อุมาก็สงสารจึงให้พรว่า จะพ้นคำสาปมีฤทธิ์เหมือนเดิมได้ ก็ต้องให้พระนารายณ์อวตารเอามือลูบหลังตลอดหาง คำสาปนี้หมดไปก่อนหนุมานข้ามมหาสมุทรไปกรุงลงกา เป็นตอนที่หนุมานแอบขโมยตัวท้าวมหาชมพูมาหาพระราม แล้วพระรามเอามือลูบหัวลูบหลังหนุมาน หนุมานจึงกลับมีฤทธิ์มหึมาโคตรๆดังเดิม

ถ่ายภาพโดยsihawatchara จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์


   ในรามเกียรติ์อินเดียซึ่งเป็นต้นฉบับกล่าวถึงตอนหนุมานเสื่อมฤทธิ์ว่า เด็กน้อยหนุมานไปแก้ปัญหาเรื่องการเชื่อมแม่น้ำคงคาเข้ากับสายน้ำอื่นๆ แต่เพราะความบังเอิญทำให้น้ำท่วมไปดับกองไฟบูชาเทพที่ฤๅษีสรัทหรือฤๅษีสมรัทก่อไว้ เป็นการทำลายพิธีของฤๅษีตนนี้ ฤๅษีสรัทจึงโกรธสาปให้หนุมานลืมอิทธิฤทธิ์ของตนเอง ลืมพรต่างๆที่คณะเทพประทานให้ ดังนั้นอิทธิฤทธิ์ของหนุมานจึงเสื่อมถอยลง

   พอฤๅษีสรัทรู้ความจริงว่าเหตุน้ำท่วมนั้นเป็นความบังเอิญที่เกิดจากหนุมานไปเชิญพระแม่คงคา ฤๅษีสรัทจึงให้พรแก้ว่าเมื่อถึงเวลาปฏิบัติหน้าที่ให้พระราม ก็ให้จำอิทธิฤทธิ์ที่ลืมไปได้ให้มีฤทธิ์ดังเดิม ผลจากคำสาปนี้ทำให้หนุมานต้องเอ๋อไปช่วงหนึ่ง ลืมว่าตนเองมีฤทธิ์ระดับปราบสามโลก ลืมพรวิเศษต่างๆที่ได้รับจากคณะเทพ ประมาณว่าจากวานรเด็กที่เรืองอิทธิฤทธิ์ กลับกลายเป็นวานรน้อยที่เอ๋อๆอัลไซเมอร์อยู่หลายปี ลืมอิทธิฤทธิ์ไปหลายอย่าง จนต้องไปเรียนวิชาต่างๆจากพระอาทิตย์ แต่แค่นี้หนุมานก็มีฤทธิ์มากแล้ว

ถ่ายภาพโดยsihawatchara จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์


   หลังจากหนุมานกลับมามีอิทธิฤทธิ์ดังเดิม ก็เริ่มค้นหาว่านางสีดาหายไปอยู่ที่ไหน ในรามเกียรติ์ไทยว่าหนุมานสุครีพองคตไปเจอนกสัมพาทีบอกทาง นกสัมพาทีให้พญาวานรทั้งสามขึ้นหลัง บินข้ามมหาสมุทรไปถึงภูเขาคันธสิงขรอยู่กลางมหาสมุทร ซึ่งเริ่มใกล้กรุงลงกาแล้ว สุครีพองคตกลับไปแจ้งข่าว ส่วนหนุมานแผลงฤทธิ์เหาะข้ามมหาสุมทรตรงไปกรุงลงกา แต่ในรามเกียรติ์อินเดียเล่าว่าพอหนุมานและเหล่าวานรค้นหาไปจนสุดแผ่นดิน ก็เจอมหาสมุทรขวางกั้น ไม่สามารถไปต่อได้เพราะมหาสมุทรกว้างใหญ่เกินกว่าที่จะโดดข้าม แต่แล้วเหล่าวานรก็นึกได้ว่า ถ้าหนุมานมีฤทธิ์ดังเดิมแล้ว ย่อมเหาะข้ามมหาสมุทรได้อย่างสบายๆ เหล่าวานรจึงพยายามเล่าเรื่องที่หนุมานโดนสาปให้ลืมอิทธิฤทธิ์และลืมพรของเหล่าทวยเทพ


   ในรามเกียรติ์ไทยนั้น ช่วงที่หนุมานค้นหานางสีดา ได้พบกับ นางบุษมาลี ซึ่งเป็นนางฟ้าที่ถูกพระอินทร์สาปให้มาอยู่ในเมืองร้าง โดยนางบุษมาลีจะพ้นจากคำสาปได้ก็ต่อเมื่อทหารเอกของพระรามที่หาวเป็นดาวเป็นเดือนโยนนางกลับขึ้นไปบนสวรรค์


   เมื่อหนุมานได้เจอนางบุษมาลีก็ได้เสียเป็นผัวเมีย เสพสมแล้วจึงค่อยแสดงอิทธิฤทธิ์โยนหรือขว้างนางบุษมาลีกลับขึ้นไปอยู่บนสวรรค์

   ในที่สุดหนุมานก็พ้นคำสาปกลับมามีมหาอิทธิฤทธิ์เหมือนเดิม จึงแผลงฤทธาเหาะข้ามมหาสมุทรไปยังกรุงลงกา ระหว่างทางเจออุปสรรคคือเจอยักษ์ผู้เฝ้าสถานที่ต่างๆ ต้องรบกันปรากฏว่าหนุมานชนะอย่างง่ายๆ จนกระทั่งเข้ากรุงลงกาแล้วไปรบกับลูกของทศกัณฐ์หลายตน หนุมานชนะและสังหารยักษ์ไปมาก


ถ่ายภาพโดยsihawatchara จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์


   ตอนที่หนุมานเข้ากรุงลงกาไปสืบหานางสีดานั้น หนุมานแสดงฤทธิ์สะกดให้คนทั้งเมืองหลับไปก่อน แล้วจึงเดินค้นหาไปตามห้องหับในวัง เข้าไปถึงห้องนอนของพญาพิเภก กุมภกรรณ อินทรชิต ทศกัณฑ์ พญายักษ์ผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายถูกมนต์สะกดของหนุมาน ต่างหลับใหลหมดท่าไม่ได้สติ


ถ่ายภาพโดยsihawatchara จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์

   หนุมานค้นหานางสีดาจนพบว่าอยู่ในสวน จึงแสดงตนแล้วถวายแหวนของพระรามเพื่อยืนยัน หนุมานจะเชิญนางสีดากลับไปพร้อมกัน แต่นางสีดาเห็นว่าโดนยักษ์ลักพามา แล้วจะให้ลิงนำกลับไปนั้นไม่เป็นการสมควร จึงต้องการให้พระรามมารับด้วยตัวเอง


ภาพจากmug.shainsingh.com

   หลังจากที่หมดอำนาจของมนต์สะกดแล้ว ทศกัฯฐ์ถึงได้รู้ตัวว่ามีศัตรูบุกเข้ามาถึงในวัง จึงส่งทหารยักษ์และบุตรของทศกัณฐ์หลายตนมาจับหนุมาน แต่ยักษ์สู้หนุมานไม่ได้ จนทศกัณฐ์ต้องส่งบุตรชื่อสหัสกุมารไปปราบหนุมาน แต่สหัสกุมารกลับถูกหนุมานสังหาร เมื่อยักษ์แพ้หนุมานไปแล้ว(รามเกียรติ์ไทยว่าบุตรพันตนของทศกัณฐ์) ทศกัณฐ์จึงส่งอินทรชิตไปจับหนุมาน หนุมานสามารถเอาชนะอินทรชิตได้แต่แกล้งยอมให้จับ เพราะเห็นว่าศรที่อินทรชิตแผลงมาเป็นศรของพระพรหม หาควรไม่ที่หนุมานจะทำลายศรของพระพรหม หนุมานจึงยอมให้มัดตัวไปพบทศกัณฐ์


ถ่ายภาพโดยsihawatchara ยักษ์เอาหนุมานใส่ครกตำ แต่ยักษ์เสียท่าให้หนุมาน

   ทศกัณฐ์ให้ทหารยักษ์ฆ่าหนุมานแต่ทำหนุมานอยู่ยงคงกระพัน ทำอะไรหนุมานไม่ได้ ทศกัณฐ์จึงเอาไฟเผาหนุมาน ในรามเกียรติ์ไทยว่าเป็นไฟที่เกิดจากหอกแก้วสุรกานต์ของทศกัณฐ์ หนุมานแกล้งวิ่งไปรอบกรุงลงกาเพื่อให้ไฟไหม้ เมื่อกรุงลงกาเกิดไฟไหม้แล้ว  หนุมานจึงดับไฟที่ติดหางแล้วเหาะกลับไปหาพระราม


ถ่ายภาพโดยsihawatchara ทศกรรณใช้หอกจุดไฟจะเผาหนุมาน

ภาพจาก mug.shainsingh.com

   ทศกัณฐ์วางแผนที่จะให้พระรามเลิกตามนางสีดา จึงให้ นางเบญกาย ซึ่งเป็นลูกของพิเภกแปลงกายเป็นนางสีดาตายลอยน้ำมา ทำให้พระรามที่ได้พบศพเสียใจ แต่หนุมานเห็นว่าศพนี้ไม่ใช่นางสีดาตัวจริง จึงให้พิสูจน์ด้วยการใช้ไฟเผา นางเบญกายทนร้อนไม่ไหวก็กลายร่างจากนางสีดามาเป็นตนเอง

นางเบญกาย

    พระรามให้พิเภกผู้เป็นพ่อนางเบญกายเป็นผู้ลงโทษเอง พิเภกให้ประหารชีวิตเพื่อพิสูจน์ความจงรักภักดี แต่พระรามเห็นใจจึงยกโทษให้ และให้หนุมานพากลับไปส่งที่กรุงลงกา หนุมานกับนางเบญกายเกิดได้เสียเป็นผัวเมียกันอีก ภายหลังนางเบญกายคลอดบุตรชื่อ อสุรผัด เป็นครึ่งลิงครึ่งยักษ์


   เมื่อพระรามจองถนน(สร้างถนน)จะไปกรุงลงกา ทศกัณฐ์ส่งลูกสาวเป็นนางเงือกชื่อนางสุพรรณมัจฉามาทำลายถนน ปรากฏว่านางสุพรรณมัจฉาเสร็จหนุมานอีกราย โดนหนุมานจับทำเมีย ภายหลังนางสุพรรณมัจฉาคลอดลูกชื่อ มัจฉานุ เป็นครึ่งลิงครึ่งปลา แต่เรื่องมัจฉานุของรามเกียรติ์ไทยนั้น ต่างจาเรื่องกรามยณะอินเดีย

หนุมานกำลังบีบอะไรบางอย่างของนางสุพรรณมัจฉา บีบแล้วปล้ำเป็นเมีย


   ในคราวที่รบกับวิรุณจำบัง หนุมานได้เมียเพิ่มอีกคือได้นางวารินทร์ นางวารินทร์เดิมทีเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ คอยดูแลโคมไฟบนเขาไกรลาส แต่วันหนึ่งเกิดทำโคมไฟดับ พระอิศวรจึงลงโทษให้ต้องมาอยู่ที่เขาอังกาศ และมีหน้าที่รอคอยเพื่อบอกที่ซ่อนของวิรุณจำบังให้แก่หนุมาน

   เมื่อพระรามรบกับวิรุณจำบัง วิรุณจำบังแพ้จึงหนีไปซ่อนตัว หนุมานติดตามจัดการวิรุณจำบัง แต่วิรุณจำบังมีเวทวิเศษหายตัวได้  จึงเป็นการยากที่หนุมาณจะหาวิรุณจำบังพบ หนุมานไปพบกับนางวารินทร์ที่เขาอังกาศ นางวารินทร์จึงบอกว่า วิรุณจำบังหนีไปซ่อนตัวอยู่ในฟองน้ำที่แม่น้ำสีทันดร หนุมานจึงตามไปสังหารวิรุณจำบังได้สำเร็จ

   หนุมาณได้นางวารินทร์เป็นเมีย แล้วจึงส่งนางวารินทร์กลับไปเป็นนางฟ้า

หนุมานจับวิรุณจำบัง


   ทศกัณฐ์รบกับพระรามจนลูกหลานยักษ์ตายไปมาก นางมณโฑบอกทศกัณฐ์ว่าตนเองได้เรียนรู้วิชาน้ำมมต์กายสิทธิ์ ที่สามารถประพรมแล้วเหาะเหินเดินอากาศและฟื้นคืนชีพได้ ทศกัณฐ์จึงขอร้องให้นางมณโฑทำพิธีปลุกเสกน้ำมนต์

     นางมณโฑทำน้ำมนต์ให้ทศกัณฐ์นำไปใช้ พวกยักษ์ก็กลับมีฤทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีก แต่พิเภกที่อยู่กับพระรามได้บอกวิธีทำลายพิธีนางมณโฑ คือในระหว่างที่ทำพิธีนี้ห้ามพูดห้ามร่วมหลับนอนเป็นเวลา 7 วัน


   หนุมานได้แปลงกายเป็นทศกัณฐ์เพื่อไปทำลายพิธี โดยหลอกนางมณโฑว่ารบชนะพระรามแล้ว ให้นางมณโฑเลิกทำพิธี หนุมาณในร่างทศกัณฐ์เล้าโลมนางมณโฑจนได้เสียกัน พิธีจึงถูกทำลาย นางมณโฑจึงเป็นเมียของหนุมานด้วย


หนุมานปลอมเป็นทศกัณฐ์แล้วร่วมรักนางมณโฑ


   หนุมานช่วยพระรามรบกับยักษ์มากมาย ครั้งที่หนุมานเป็นพระเอกมากๆมีหลายครั้งเช่น ตอนพระลักษณ์ถูกหอกโมกขศักดิ์ แต่พญายักษ์พิเภกที่อยู่ฝ่ายพระรามรู้วิธีแก้ไข คือต้องแก้ไขก่อนที่พระอาทิตย์ฉายแสง จะต้องเอาสมุนไพรที่ชื่อสังกรณีตรีชวาและน้ำจากปัญจมหานที เอามาผสมเป็นยาแก้ให้พระลักษณ์ฟื้น หนุมานจึงเหาะไปฉุดรถพระอาทิตย์แล้วขอให้พระอาทิตย์หยุดโคจรก่อน พระอาทิตย์ช่วยโดยวิธีเลี่ยงเข้าไปในกลีบเมฆ ต่อจากนั้นต้องไปหาสมุนไพรสังกรณีและตรีชวาที่ภูเขาสรรพยา หนุมานต้องแปลงกายใหญ่โตและใช้หางค่อยๆม้วนวนรอบภูเขาเพื่อไล่ต้อนจับสมุนไพร พอได้สมุนไพรแล้วก็เหาะไปยังกรุงอโยธยา เพื่อขอน้ำปัญจมหานที งานนี้หินไม่น้อย ในที่สุดก็สามารถรักษาพระลักษณ์จนฟื้นได้


ถ่ายภาพโดยsihawatchara จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์


   สำหรับสมุนไพรสังกรณีและตรีชวานั้น ไม่ได้หมายถึงสมุนไพรชื่อสังกรณีกับตรีชวา ความจริงคือสังกรณีอย่างหนึ่ง และสมุนไพรสามอย่างที่เรียกรวมว่าตรีชวา ซึ่งเป็นทำนองเดียวกันกับตำรับยาแผนโบราณขนานหนึ่งที่ใช้สมุนไพรสามอย่าง คือ สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม เอามารวมกันเรียกว่า ตรีผลา
  
   อีกตอนที่หนุมานเด่นมากๆก็ตอนบุกไปเมืองบาดาลของพญายักษ์ไมยราพ หนุมานต้องบุกด่านต่างๆสู้รบกับยักษ์รักษาด่าน ล่องหนหายตัวผ่านด่าน จนไปสู้กับมัจฉานุซึ่งเป็นลูกของหนุมาน กระทั่งฆ่าไมยราพแล้วช่วยพระรามพระลักษณ์กลับมาได้


ถ่ายภาพโดยsihawatchara ไมยราพสะกดทัพ


   มัจฉานุในรามเกียรติ์ไทยนั้นว่า หนุมานไปปล้ำนางสุพรรณมัจฉาที่มาทำลายการสร้างถนนกลางมหาสมุทร ปล้ำไปปล้ำมาเลยได้เสียเป็นเมียผัว ภายหลังนางสุพรรณมัจฉาจึงคลอดลูกมาเป็นมัจฉานุ

   ในรามยณะอินเดียกลับเล่าว่า มัจฉานุเกิดจากเหงื่อของหนุมาน คือ ในตอนที่หนุมานเผากรุงลงกาแล้วเหาะข้ามมหาสมุทรกลับไปหาพระรามนั้น บังเอิญเหงื่อหยดลงไปในมหาสมุทรหยดหนึ่ง นางจระเข้ได้กินเหงื่อของหนุมานเข้าไป แล้วเกิดตั้งท้องคลอดออกมาเป็นมัจฉานุ

   นางจระเข้นี้เดิมเป็นนางฟ้าชื่อติโลตมา แต่ถูกสาปให้กลายเป็นจระเข้ จะพ้นคำสาปได้ต้องได้เหงื่อของพระศิวะอวตาร และกำเนิดบุตรของพระศิวะอวตารด้วย ซึ่งพระศิวะอวตารก็คือหนุมานนั่นเอง นางฟ้าจระเข้ต้องสาปนี้ไปๆมาๆก็ไม่ได้พบกับหนุมานเลย แต่มีลูกได้ด้วย

   ในรามยณะเรียกมัจฉานุลูกของหนุมานตนนี้ว่า มกรวัจ




   ในการรบครั้งที่พระรามพระลักษณ์ต้องศรพรหมาสตร์ของอินทรชิตที่แปลงกายเป็นพระอินทร์ พิเภกได้แก้พระรามฟื้นขึ้นมา แล้วบอกถึงวิธีแก้พิษศรพรหมาสตร์ คือต้องไปนำยาสมุนไพรที่เขาอาวุธ แต่ที่ยอดเขาอาวุธมีกงจักรหมุนอยู่ ให้หนุมานบอกว่า เป็นทหารพระราม จะมาเอายาไปรักษาพระลักษมณ์ กงจักรก็จะหายไป


     หนุมานเหาะไปถึงเขาอาวุธ ก็บอกว่าเป็นทหารพระราม จะมาเอาสรรพยา กงจักรจึงหายไป เทวดาที่ดูแลเขาอาวุธบอกว่า หากจะเอายาไปใช้ ก็ต้องยกภูเขาไปทั้งลูก หนุมานจึงแผลงฤทธิ์แบกเขาอาวุธยกเอาไปทั้งลูก พอถึงจุดที่พระลักษณ์ถูกศร จึงเอาภูเขาไปวางไว้ทางทิศที่อยู่เหนือลมให้ลมพัดเอาละอองยาไปถูกตัวพระลักษมณ์กับทหารวานรจนฟื้น


ภาพจาก mug.shainsingh.com

   หนุมานช่วยพระรามรบกับบรรดายักษ์ร้ายจนกระทั่งจบสงคราม พระรามปูนบำเหน็จให้ครองอโยธายา แต่หนุมานไม่ยอมรับ พระรามจึงสร้างเมืองให้ใหม่ โดยแผลงศรไปตกที่ใดก็จะสร้างเมืองที่นั้น 

   เรื่องพระรามสร้างเมืองให้หนุมานนี้ ไปๆมาๆกลายเป็นตำนานเมืองลพบุรีที่ไทยสยามได้อย่างไรก็ไม่ทราบ ตำนานว่าดังนี้


ตำนานเมืองลพบุรี

  เมื่อพระรามจะสร้างเมืองให้หนุมานครอง ได้แผลงศรไปตกในที่ห่างไกล ศรมาตกยังที่แห่งหนึ่ง หนุมานเหาะตามมาดูตำแหน่งที่ศรตก ประมาณว่าคือบริเวณเมืองลพบุรีของไทยสยาม เมื่อหนุมานพบตำแหน่งศรแล้ว ก็เลยจะช่วยพระรามให้สร้างเมืองได้ง่ายขึ้น หนุมานจึงเอาหางกวาดเป็นวงเพื่อปรับหน้าดินให้เรียบ แต่ภายหลังโดนพระรามต่อว่าๆทำการเกินคำสั่ง

  เนื่องจากศรที่พระรามแผลงมาตกลงบนแผ่นดินนั้นมีฤทธิ์มาก ฤทธิ์ของศรพระรามจึงทำให้ดินสุกกลายเป็นดินขาว ที่เรียกว่า ดินสอพอง ที่ลพบุรีจึงกลายเป็นแหล่งดินสอพอง

ถ่ายภาพโดย sihawachara


 ตำนานเมืองลพบุรีอีกเรื่องหนึ่ง

  ครั้งที่พระรามรบกับท้าวกกขนาก(ท้าวอุณราช) พระรามแผลงศรจะฆ่าท้าวกกขนากอย่างไรก็ไม่ตาย ศรพระรามต้องหลุดจากอกของท้าวกกขนากทุกครั้ง จนกระทั่งพระฤๅษีโคศภบอกความลับว่า ถ้าจะปราบท้าวกกขนาก จะต้องใช้ต้นกกมาแทนลูกศร พระรามจึงเอาต้นกกยิงใส่ท้าวกกขนากเข้าที่อก ท้าวกกขนากถูกศรต้นกกจึงปลิวกระเด็นไปไกล 

ถ่ายภาพโดย sihawatchara ท้าวกกขนากต้องศรพระราม


  ท้าวกกขนากปลิวมาตกลงที่เมืองลพบุรีโดยโดนศรต้นกกตรึงไว้ในถ้ำ เท่านั้นยังไม่พอ พระรามสั่งให้ไก่แก้วคอยเฝ้าดูท้าวกกขนากว่า ถ้าศรต้นกกคลอนแคลนจะหลุดเมื่อใด ให้ไก่แก้วรีบขันให้หนุมานได้ยิน หนุมานจะเหาะมาเอาพะเนินเหล็กตอกศรให้แน่นเหมือนเดิม

   เนื่องจากหนุมานมีฤทธิ์มีกำลังมาก พอตอกศรทีไรก็แรงจนเกิดประกายไฟกระเต็นไปตกในเมืองลพบุรี ไฟจึงไหม้เมืองลพบุรีบ่อยๆ และความร้อนของสะเก็ดไฟจากการตอกศรนี้ ยังทำให้ดินเมืองลพบุรีสุกจนกลายเป็นดินสอพอง

ถ่ายภาพ sihawatchara จิตรกรรมที่วัดพระแก้ว เป็นนนทรีตอกศร ไม่ใช่หนุมาน

   แต่ศรต้นกกนี้แพ้ทางมวยให้น้ำส้มสายชู คือถ้าเอาน้ำส้มสายชูไปรดที่ศรต้นกก ศรนั้นก็จะหลุดออกมาได้

   ท้าวกกขนากมีลูกสาวชื่อนางวงพระจันทร์หรือศรีประจันต์ นางวงพระจันทร์จะช่วยพ่อ จึงพยายามหาซื้อน้ำส้มสายชูในตลาดลพบุรีมาช่วยท้าวกกขนาก แต่ประชาชนสังเกตเห็นว่านางวงพระจันทร์ไม่มีแววตา แสดงว่าต้องเป็นยักษ์แน่ๆ จึงไม่ยอมขายน้ำส้มสายชูให้ เพราะกลัวว่าจะเอาไปรดศรต้นกก เดี๋ยวศรหลุดแล้วท้าวกกขนากจะจับคนลพบุรีกินหมด

   เท่านั้นยังไม่พอ ประชาชนยังพร้อมใจกันเกลียดชังนางวงพระจันทร์ ไม่ยอมคบค้าสมาคม ไม่ขายเครื่องอุปโภคบริโภค ทำให้นางวงพระจันทร์ได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส

   ปู่เจ้าเขาเขียวเป็นสหายรักของท้าวกกขนาก ได้เห็นนางวงพระจันทร์เดือดร้อนแสนสาหัส โดยมีสาเหตุมาจากความกตัญญูของนางที่มีต่อบิดา ปู่เจ้าเขาเขียวจึงสงสารเลยส่งลูกสาวให้มาช่วยเหลือนางวงพระจันทร์ ลูกสาวของปู่เจ้าเขาเขียวก็คือแม่นางกวักนั่นเอง

   แม่นางกวักนี้เป็นสาวสวยผู้มีอิทธิฤทธิ์ในทางด้านมหาโชคมหาลาภค้าขายมหานิยมมหาเสน่ห์เป็นที่สุด อิทธิฤทธิ์ที่พิเศษมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งก็คือ มหาโชคมหาลาภมหาเสน่ห์ของแม่นางกวักนี้ มีฤทธิ์แรงขนาดว่ายังเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างได้ด้วย คือแม่นางกวักไปอยู่ที่ไหน คนในที่นั้นก็พลอยได้รับมหาโชคมหาลาภสักการะตามแม่นางกวักไปด้วย

   แม่นางกวักออกจากถ้ำแก้วภูเขาเพชรกูฏซึ่งเป็นที่อยู่ แล้วไปอยู่เป็นเพื่อนนางวงพระจันทร์ อิทธิฤทธิ์ของแม่นางกวักทำให้มีผู้คนแห่กันมาหาแม่นางกวัก เอาของมีค่าเพชรนิลจินดาโภชนาอาหารมาให้แม่นางกวัก และยังให้เผื่อแผ่ไปถึงนางวงพระจันทร์ด้วย ทั้งยังหายโกรธแค้นนางวงพระจันทร์อีกด้วย โดยกลับมารักใคร่นางวงพระจันทร์กันทุกๆคน

   นางวงพระจันทร์จึงเริ่มมีความสุขความยินดี และคิดได้ว่าควรจะทอผ้าจีวรไว้รอถวายพระศรีอาริยะเมตตัย เพื่อให้อานิสงส์นี้ช่วยท้าวกกขนากให้พ้นทุกข์
  


  

  เสร็จศึกกรุงลงกาแล้ว พระรามให้รางวัลโดยหนุมานได้ครองอโยธากึ่งหนึ่งแต่หนุมานไม่รับ พระรามจึงสร้างเมืองนพบุรีให้ พร้อมนางสนมอีก 5,000 นาง แต่หนุมานก็ไม่ได้ครองเมืองจริงๆจังๆเพราะชอบปลีกวิเวกไปบำเพ็ญตบะในป่า

   เรื่องราวของหนุมานยังมีต่อไปจนถึงครั้งนางสีดาน้อยใจหนีพระราม จึงเกิดการผจญภัยครั้งใหม่ เรื่องรามเกียรติ์ในช่วงหลังๆนี้คนไทยเราไม่ค่อยสันทัดกันสักเท่าไร จึงรู้บ้างไม่รู้บ้าง ประมาณว่า 13 ปีต่อมา นางสีดาหนีพระรามไปอยู่ในป่า ขณะนั้นตั้งครรภ์พอดี นางสีดาได้ไปอยู่กับพระฤๅษีวัชมฤค

   นางสีดาคลอดบุตรตั้งชื่อว่าพระมงกุฎ ต่อมาพระฤๅษีเขียนรูปแล้วลบด้วยมนต์กลายเป็นเพื่อนเล่นของพระมงกุฎชื่อพระลบ



   รามเกียรติ์ช่วงหลังนั้นพระพรตพระสัตรุตมีบทบาทบ้าง หนุมานก็ยังช่วยพระรามและน้องๆพระรามรบกับยักษ์ พร้อมทั้งตามหานางสีดาไปจนพบ พระรามได้คืนดีกับนางสีดา และอยู่ร่วมกันที่กรุงอโยธยาจนถึงวาระสุดท้ายที่พระรามเสร็จกิจบนโลกมนุษย์ ต้องกลับคืนสู่ร่างพระนารายณ์องค์จริง เป็นการจบยุคที่เรียกว่า ไตรดายุค

พระนารายณ์


   ในรามยณะ หนุมานช่วยพระรามปราบยักษ์จนราบคาบ จนกระทั่งพระรามกลับเข้าสู่ไวยกูณฐ์ไปแล้ว เป็นอันว่าสิ้นยุคนารายณ์อวตารของสมัยไตรดายุค แต่หนุมานก็ยังคงอยู่ต่อมาจนถึงสมัยทวาปรยุค ที่พระนารายณ์อวตารมาเป็นพระกฤษณะ และต่อเนื่องไปถึงช่วงสงครามมหาภารตะ

  ในมหาภารตะยุทธ หนุมานยังมีบทบาทช่วยทางฝั่งพวกปาณฑพ คราวนี้หนุมานมีน้องร่วมพ่อพระพายด้วยกันชื่อว่า ภีมะ หนุมานรับปากช่วยพี่น้องปาณฑพโดยหนุมานไปสถิตอยู่ในธงประจำรถศึกของอรชุน รถศึกของอรชุนจึงรอดปลอดภัยจากอาวุธต่างๆ

ภาพจาก scoopwhoop'com ธงหนุมานบนรถศึกของอรชุณ


   เมื่อจบมหาภารตะยุทธไปได้สักพัก พระกฤษณะจบกิจจะกลับไวยกูณฐ์ ซึ่งเป็นการจบสมัยทวาปรยุค กำลังจะต่อเนื่องเป็นกลียุค หนุมานก็ยังคงอยู่เป็นอมตะ

  หลังจากพระกฤษณะจบภาคนารายณ์อวตารแล้ว เหล่าพี่น้องปาณฑพและนางเทราปติก็ถึงคราวกลับสู่สวรรค์เช่นกัน ทั้งหมดได้แต่งตั้งให้ทายาทคือราชาปรีกสิตครองราชย์สืบต่อไป

  ความจริงแล้วกลียุคจะเริ่มตั้งแต่พระกฤษณะจบภาคอวตาร แต่กลียุคต้องเลื่อนออกไป เพราะราชาปรีกสิตทรงคุณธรรมยิ่ง ดังนั้นกาลีปุรุษซึ่งเป็นเจ้าแห่งห้วงกลียุค จึงหลอกให้ราชาปรีกสิตอนุญาตให้กลียุคอยู่ได้ในสถานที่ห้าประการ คือ

   ๑.สถานที่มีการพนัน
   ๒.สถานที่มีสุราเมรัย
   ๓.สถานที่มีการค้าขายเรือนร่าง
   ๔.สถานที่ๆไร้กฏเกณฑ์
   ๕.ทองคำ

   นับแต่นั้นมากาลีปุรุษเจ้าแห่งห้วงกลียุคก็ได้แผ่อาณาเขตกลียุค

  หนุมานของพวกเราก็ยังคงอยู่แม้ในกลียุค ซึ่งกลียุคนี้ก็คือช่วงเวลาที่ยาวนานมาถึงยุคปัจจุบันและต่อไปถึงอนาคต แต่หนุมานมีความเป็นอมตะจึงยังคงอยู่ต่อไปอีก

   ตำนานหนุมานของอินเดียว่า หนุมานจะปกป้องคุ้มครองเหล่าสาวกให้ผ่านพ้นช่วงโหดร้ายของกลียุคนี้ไปได้ ดังนั้นในอินเดียจึงมีหนุมานเป็นเทพเจ้าผู้คุ้มครองปกปักรักษา เป็นเทพหนุมานผู้เป็นอมตะทรงอิทธิฤทธิ์มหึมา ชาวอินเดียที่เป็นสาวกของหนุมานจะบูชาหนุมานทุกวันเสาร์

   ตำนานหนุมานอินเดียว่าไว้ ผู้ใดเคารพบูชาหนุมาน จะไม่ถูกคราสพระเคราะห์ใดๆ แม้แต่คราสเคราะห์ของพระเสาร์อันร้ายแรง ก็ไม่สามารถทำอะไรผู้บูชาหนุมาน หนุมานผู้เป็นอมตะย่อมจะต้องคุ้มครองผู้บูชาหนุมานอยู่ตลอดไป แม้แต่ในห้วงกลียุคนี้ กาลีปุรุษเจ้าแห่งกลียุค ก็ยังต้องหลีกลี้ไปจากอิทธิฤทธิ์มหึมาของหนุมาน ตำรับหนุมานนับเป็นมหาวิเศษไร้เทียมทานอย่างแท้จริง



     หนุมานไทยกับหนุมานแขกนี้ออกจะต่างกันบ้าง หนุมานไทยมีเมียเยอะ แต่หนุมานแขกนั้นกลับครองตัวเป็นพรหมจรรย์ หนุมานไทยมีอาวุธเป็นตรีเพชร หนุมานแขกถือตะบองหัวฟักทองอันเบ้อเร่อ เที่ยวเอาตะบองทุบหัวยักษ์บ้างทุบพุงกะทิยักษ์บ้าง แต่ที่หนุมานไทยและหนุมานแขกมีตรงกันก็คือ ต่างภักดีต่อพระรามเป็นที่สุด

ภาพถ่ายโดย sihawatchara

   อิทธิฤทธิ์มหึมาของของหนุมานได้กลายมาเป็นอักขระเลขยันต์มนต์คาถามากมาย ทางอินเดียมี Hanuman Yantra ทางไทยเรายิ่งมีมาก เช่น คาถาหนุมานคลุกฝุ่น คาถากำลังหนุมาน ยันต์หนุมานแบบต่างๆ เครื่องรางรูปหนุมาน แม้แต่ในมวยไทยของเรายังมีท่าแม่ไม้มวยไทยเป็นชื่อหนุมานอยู่หลายท่า



ภาพจากนิตยสารลานโพธิ์

ภาพจากนิตยสารพระเกจิ

ภาพจากนิตยสารลานโพธิ์

ภาพจากนิตยสารลานโพธิ์

   วีรกรรมความกล้าหาญชาญชัยของหนุมานมีมากมาย จนประทับใจขนาดที่ทำให้คิดไปว่า วรรณคดีรามเกียรติ์ไทยนี้ พระเอกต้องเป็นหนุมาณอย่างแน่นอน












เรื่องเรียบเรียงจาก

ความทรงจำครั้งเรียนวิชาอ่านเอาเรื่อง  พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
บ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖
หนังสือ อมนุษย์นิยาย ของ ส.พลายน้อย

ภาพจากwebที่ได้แจ้งไว้ตามรูป ,ภาพจิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์ วัดพระแก้ว ถ่ายภาพเอง
ภาพยันต์หนุมานจากนิตยสารลานโพธิ์,นิตยสารพระเกจิ

อนุญาตให้นำเรื่องและรูปที่ข้าพเจ้าถ่ายไว้ ให้นำไปใช้ได้