
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
Khlong Lat Mayom Floating Market
มีปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นมาอย่างเงียบๆเป็นเวลาหลายปีแล้ว
ที่ว่าเป็นปรากฏการณ์แบบเงียบๆนั้น ก็เพราะเราจะรู้สึกคล้ายๆกับว่าเราคุ้นเคย
คล้ายๆเคยเห็นเคยผ่านหรือเคยได้ยินได้ฟังกันมา
ทั้งๆที่ช่วงอายุของคนในเจนเนอเรชั่นใหม่ๆนี้แทบไม่ทันได้เห็น แต่คนยุคใหม่นี้ยังเคยได้ยินคนรุ่นก่อนๆเล่าให้ฟัง
หรือได้เห็นรูปภาพเก่าๆ หรือในบางท้องถิ่นสิ่งที่ว่านี้เพิ่งจางหายไปไม่นาน
จึงยังพอมีคนระลึกถึงอยู่
ที่จริงแล้วปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ เคยเป็นวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างยาวนาน
พอวันเวลาผ่านไปนานเข้า ก็ค่อยๆเลือนหายไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้แทบที่จะสูญไปแล้ว
คนที่ทันยุคต้องเป็นคนในรุ่นอายุครึ่งร้อยขึ้นไป ที่ยังเคยเห็นปรากฏการณ์ที่ว่านี้
ปรากฏการณ์นี้ก็คือ การหวนคืนของตลาดยุคก่อน หรือจะเรียกง่ายๆว่าตลาดย้อนยุค
 |
ตลาดน้ำวัดไทรในอดีต |
ตลาดย้อนยุคแบบตลาดสมัยก่อนนั้น
ในปัจจุบันได้มีการรื้อฟื้นกันขึ้นมาเรื่อยๆ
นับว่าวิถีชีวิตตลาดแบบไทยๆเริ่มคืนกลับมาได้บางส่วนแล้ว
โดยเฉพาะวิถีตลาดไทยบ้านๆในบางท้องถิ่น
ที่ยังรักษาวิถีเดิมไว้ได้แต่เป็นที่รู้กันเฉพาะในแวดวงท้องถิ่น
ปัจจุบันก็มีการตื่นตัวฟื้นฟูวิถีเดิมให้มั่นคงยิ่งขึ้น กระทั่งให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ทำให้คนไทยหวนระลึกถึงวิถีชีวิตในอดีตได้ไม่น้อย
ตลาดไทยๆในสมัยก่อนนั้นมักเป็นตลาดน้ำหรืออยู่ใกล้แม่น้ำลำคลอง
เพราะเดิมนันเราใช้เส้นทางสัญจรทางน้ำเป็นหลัก
ตลาดใหญ่ๆที่มีคนคึกคักจึงมักเป็นตลาดน้ำ ตลาดน้ำเริ่มหายไปเมื่อถนนหนทางสะดวกขึ้น
และลำคลองถูกถมทำเป็นถนนไปจนแทบไม่เหลือลำคลองแล้ว
 |
ตลาดน้ำคลองสานในอดีต คลองสานนะครับ เหลือเชื่อมั๊ยครับท่าน |
เหลือเชื่อว่าในอดีตนั้น
กรุงเทพฯมีลำคลองมากขนาดเคยได้รับสมญานามว่าเป็น “เวนิชตะวันออก”
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
เมื่อประมาณปีพ.ศ.2547
ได้มีกลุ่มชาวบ้านแถบคลองลัดมะยม แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชั่น ก.ท.ม.
รวมตัวกันฟื้นฟูตลาดน้ำริมคลองลัดมะยมขึ้นมาใหม่
คลองลัดมะยมนี้เป็นคลองขุดที่เชื่อมระหว่างคลองบางพรหมกับคลองบางระมาด
คนไทยสมัยก่อนจะเรียกคลองเล็กที่ขุดเพื่อเชื่อมคลองต่างๆว่า ลัด หรือ คลองลัด
ตลาดน้ำคลองลัดมะยมยุคใหม่เกิดขึ้นจากการที่
ลุงชวน ชูจันทร์ ได้พยายามชักชวนให้ชาวบ้านนำสินค้ามาขายที่ตลาดเหมือนดังสมัยก่อน
ลุงชวนเป็นคนแถบคลองลัดมะยมนี่เอง ลุงชวนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์และปริญญาโทรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
แต่ไม่ทิ้งวิถีชีวิตเกษตรกร ลุงชวนได้พยายามฟื้นฟูตลาดน้ำที่แทบหายไปพร้อมกับลำคลองที่มีขยะ
ลุงชวนเริ่มจากการพายเรือเก็บขยะอยู่คนเดียว จนคนหาว่าบ้าเก็บขยะ ต่อมาก็พยายามชักชวนชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ลำคลอง และจัดตั้งตลาดน้ำคลองลัดมะยมยุคใหม่จนสำเร็จ
ปัจจุบันตลาดน้ำคลองลัดมะยมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนนิยมมาก
ผลงานของลุงชวนดังไปไกลจนได้รับรางวัล
ILGA จากประเทศเกาหลี นับเป็นคนไทยคนที่สองต่อจากพลตรีจำลอง ศรีเมือง
และในปีพ.ศ. 2550 ชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็ได้รับรางวัลชุมชนท่องเที่ยวดีเด่น
จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นับเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป ในปี 2554
ก็ได้รางวัลชมเชยการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ จากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร
(องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์
 |
ภาพลุงชวน จาก klonglatmayom.wordpress.com |
เที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยม
ตลาดน้ำคลองลัดมะยมเปิดในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่
9:00 – 15:00 น.
แต่ที่จริงแล้วตั้งร้านกันตั้งแต่เช้าและเก็บร้านตอนเย็นๆ
เวลาจึงมีเผื่อได้พอสมควร
การเดินทางไปตลาดน้ำคลองลัดมะยมนับว่าสะดวกมาก
ยิ่งถ้าไปด้วยรถส่วนตัวแล้วจะสะดวกสุดๆ ไม่ว่าจะมาจากทางฝั่งถนนบรมราชชนนี(ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี)
หรือมาทางฝั่งถนนเพชรเกษม ก็จะสามารถมุ่งไปเข้าเส้นทางไปตลาดน้ำคลองลัดมะยมได้ โดยตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะอยู่บนถนนบางระมาด
ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนน พุทธมนฑลสาย 1 และ ถนนกาญจนาภิเษก(ถ.วงแหวน)
ปากทางทั้งสองฝั่งมีป้ายบอกทางไปตลาดน้ำคลองลัดมะยมอย่างชัดเจน บริเวณตลาดน้ำมีที่จอดรถหลายโซน
ถ้ามาจากทางถนนบรมราชชนนีเลี้ยวเข้าถนนพุทธมณฑลสาย
1 ให้สังเกตทางซ้ายมือจะผ่านโรงเรียนโพธิสารพิทยากร ให้เลยโรงเรียนไปกลับรถใต้สะพานที่สอง โดยนับจากโรงเรียน
พอกลับรถโผล่ออกมานิดเดียวจะเจอถนนบางระมาดอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นถนนซอยเข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมอยู่ซ้ายมือพอดี มีป้ายใหญ่สีเขียวบอกทางลัดไปถนนกาจนาภิเษก และมีป้ายบอกทางว่าไปตลาดน้ำคลองลัดมะยม 800 เมตร คือเป็นเส้นทางเดียวกัน
 |
ภาพจากgoogle โรงเรียนโพธิสารพิทยากร |
 |
เห็น 7-11 แล้วชะลอรถเตรียมยูเทิร์นใต้สะพานข้างหน้า |
 |
ก่อนถึงยูเทิร์นเป็นทางแยกซ้ายไปวัดประดู่ ให้เลยตรงไปกลับรถใต้สะพาน |
ถ้ามาจากทางถนนพุทธมณฑลสาย 1
ที่มาจากฝั่งบางแค ให้สังเกตว่าพอข้ามสะพานที่ข้ามถนนตัดใหม่(ที่ไปออกสามแยกไฟฉาย)
แล้วข้างหน้าจะมีสะพานแรกอยู่ใกล้ๆเรียกว่าสะพานข้ามคลองบางพรหม พอลงสะพานก็เจอถนนบางระมาดอยู่ซ้ายมือ จะมีป้ายใหญ่สีเขียวบอกว่าเป็นทางลัดไปถนนกาญจนาภิเษกเลี้ยวให้ซ้ายเข้าไปเลย
 |
ลงสะพานเจอทางแยกใกล้ๆทันที ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป(ทางเดียวกันกับที่ต้องกลับรถมา) |
ถ้ามาจากฝั่งถนนกาญจนาภิเษก สังเกตทางเข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเป๊ะๆกับสมาคมชาวปักษ์ใต้
จะเป็นช่วงตีนสะพานลอยยูเทิร์น ตึกสมาคมชาวปักษ์ใต้จะคล้ายๆโดมแปลกกว่าตึกอื่น ปากทางมีป้ายบอกชื่อถนนบางระมาด บอกทางไปโรงเรียนโพธิสารพิทยากร และบอกทางไปตลาดน้ำคลองลัดมะยม
 |
ทางเข้าฝั่งถ.กาจนาภิเษก เห็นสมาคมชาวปักษใต้อยู่ฝั่งตรงข้าม |
ความจริงแล้วถ้ารู้เส้นทางของฝั่งธนฯ ก็เป็นเส้นทางที่น่าขับรถเที่ยวซอกแซกไปตามเส้นทางเก่า ที่ผ่านไปตามบ้านเรือนผ่านวัดเก่าแก่มากมาย ทางไปตลาดนัดคลองลัดมะยมแบบซอกแซกไปเรื่อยๆนั้น สามารถเข้าทางถนนบางขุนนนท์ไปทางตลาดน้ำตลิ่งชันก็ได้ หรือจะใช้ทางซอยจรัล 35 ก็ได้ หรือจะเข้าทางซอยจรัล 13(ซ.พาณิชยการธนบุรี) ทั้งสามซอยนี้ความจริงต่อเชื่อมถึงกันได้ จะเป็นถนนซอยรุ่นเก่าของทางฝั่งธนบุรี ซึ่งคดเคี้ยวเลี้ยวลดไปเรื่อย จะแปลกตาสำหรับท่านที่ยังไม่เคยใช้เส้นทางเก่าของชาวฝั่งธนฯ
ถ้าใช้เส้นทาง 3 ซอยนี้ ปัจจุบันภายในซอยมีป้ายบอกเส้นทางเป็นระยะ ในที่สุดก็จะไปออกถนนราชพฤกษ์ ต่อเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1 แล้วจะถึงตลาดน้ำคลองลัดมะยมได้เอง แต่เดิมนั้นเส้นทางนี้คนฝั่งธนฯใช้เดินทางไปออกถึงพุทธมณฑลกันเลย แถมสมัยก่อนเส้นทางนี้ยังเป็นสวนร่มรื่นมาก
ในสามเส้นทางที่ซอกแซกนี้ ง่ายที่สุดคือเข้าทางซอยจรัล 35 เพราะวิ่งในซอยตลอดจนไปเจอถนนบางพรหมที่อยู่แยกซ้ายมือ ตรงแยกนี้จะเป็นถ.แก้วเงินทองกับถ.บางพรหม (ถ้าเข้ามาทางถ.บางขุนนนท์ก็จะมาจนถึงถ.แก้วเงินทองแล้วเลี้ยวเข้าถ.บางพรหมตรงแยกนี้) เข้าถนนบางพรหมไปโผล่ถนนราชพฤกษ์ก็เป็นช่วงลอดใต้สะพานยูเทิร์นแล้ว พอเลี้ยวยูเทิร์นออกมานิดเดียวก็เข้าซอยซึ่งก็เป็นถนนบางพรหมที่ถูกถนนราชพฤกษ์ตัดนั่นเอง จากถนนบางพรหมของช่วงนี้ต่อไปออกถนนพุทธมณฑลสาย 1 ถึงถนนพุทธมณฑลสาย 1 ก็พอดีเป็นช่วงยูเทิร์นใต้สะพานข้ามคลองบางพรหม ยูเทิร์นออกมาแล้วหน่อยเดียวมองทางซ้ายมือก็เจอถนนบางระมาดที่เป็นปากทางเข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยม
ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็ใช้บริการรถแท็กซี่ได้ เพราะในวันที่มีตลาดนัดนั้นจะมีรถแท็กซี่เข้าออกมาก
หรือถ้าจะให้เด็ดจริงๆแบบบ้านๆ ก็ใช้บริการรถสองแถวแดงจากด้านหลังโรงพยาบาลศิริราชฝั่งวัดอมรินทร์คลองบางกอกน้อย
เดิมต้นทางรถสองแถวตรงนี้คือท่าน้ำรถไฟนั่นเอง แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีท่ารถไฟแล้ว
ถ้าจะมาขึ้นรถสองแถวก็ต้องนั่งเรือข้ามฝากจากท่าพระจันทร์ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เมื่อข้ามมาฝั่งศิริราชแล้วก็เดินเลี้ยวเข้าไปโรงพยาบาล
เดินตามถนนเลียบแม่น้ำไปจนสุดทางก็จะเจอคิวรถสองแถวซึ่งมีหลายสาย เราต้องดูป้ายรถคันที่ไปปู่เถร(วัดปู่เถรปัจจุบันบันคือวัดตะเข้)สมาคมปักษ์ใต้
 |
ด้านหลังโรงพยาบาลศิริราชภาพเก่าไปหน่อย ตอนนี้ตึกเสร็จแล้ว รถสองแถวแดงออกจากตึกมาทางนี้ |
 |
รอสองแถวแดงสายปู่เถรสามคมชาวปักษ์ใต้ตรงใต้สะพานอรุณอมรินทร์ก็ได้ |
หรือจะมาดักขึ้นรถสองแถวที่ในซอยบางขุนนนท์ก็ได้
รถสองแถวที่ไปตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะต้องวิ่งเข้าถนนหรือซอยบางขุนนนท์อยู่แล้ว จะต้องเป็นรถสายที่ไปวัดปู่เถรและสมาคมปักษ์ใต้
จะมีป้ายติดไว้ที่รถชัดเจน ความเร็วรถสองแถวประมาณพอๆกับจักรยาน แต่รู้สึกว่าผู้เขียนขี่จักรยานจะเร็วกว่ารถสองแถวสายนี้อีก รถวิ่งเรื่อยเฉื่อยนั่งคุ้มค่ารถมากสำหรับคนใจเย็น
ถ้าไม่กลัวเสียเวลาเดินทางด้วยวิธีนี้มากไปจนเวลาเที่ยวน้อยลง ก็ควรเดินทางแต่เช้า
การเดินทางไปตลาดน้ำคลองลัดมะยมที่ง่ายมากอีกทางหนึ่งก็คือ ให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีบางหว้า หรือสุดทางที่ฝั่งธนบุรี แล้วเรียกแท๊กซี่ต่อไปตลาดน้ำคลองลัดมะยมได้เลย ค่าแท๊กซี่ไม่น่าเกิน 100 บาท ส่วนขากลับก็แค่รอรถสองแถวแดงที่วิ่งผ่านตลาดน้ำ นั่งรถสองแถวไปลงที่โรงพยาบาลศิริราชได้ หรือจะนั่งรถสองแถวที่ไปออกทางฝั่งถนนกาญจนาภิเษกเพื่อเรียกรถแท๊กซี่ได้ง่าย
เท่าที่สังเกตเห็นเส้นทางบางขุนนนท์ไปถนนบางระมาดเข้าสู่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
จะมีผู้นิยมขับขี่จักรยานไปเที่ยวกัน และยังต่อจากตลาดน้ำไปเที่ยวถึงพุทธมณฑลได้
เพราะแต่เดิมเส้นทางสายนี้เป็นถนนเก่าวิ่งผ่านเข้าไปตามสวน
สมัยก่อนยังไม่มีถนนพุทธมณฑลสาย 1 ไม่มีถนนวงแหวนมาตัดผ่า ผู้เขียนก็เคยใช้เส้นทางนี้ตั้งแต่สมัยที่ยังมีแต่สวนร่มรื่น
ถ้ามีเวลาและศึกษาเส้นทางมาก่อน การเข้าทางถนนบางขุนนนท์ยังมีอ๊อปชั่นให้แวะตลาดน้ำตลิ่งชัน ต่อด้วยตลาดน้ำคลองลัดมะยม และสุดท้ายยังไปตลาดน้ำวัดสะพานได้ ตลาดน้ำวัดสะพานนั้นอยู่ทางฝั่งถนนกาญจนาภิเษก
การเดินทางอีกวิธีหนึ่งไปได้โดยไปลงเรือหางยาวที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน ค่าเรือรู้สึกว่าเห็นป้ายบอกแว๊บๆว่า 90 บาท เป็นการลงเรือชมตลาดน้ำได้ถึง 3 แห่ง คือตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำคลองลัดมะยม และตลาดน้ำวัดสะพาน การเดินทางแบบนี้เหมาะกับคนไม่มีเวลา และดูตลาดแบบไม่ละเอียดนัก แต่ก็เพลินไปอีกแบบที่ได้สัมผัสชีวิตริมคลองยาวพอสมควร
 |
ถึงแล้วตลาดติดกับที่จอดรถเลย |
เมื่อถึงตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็จะรู้เองว่าใช่ที่นี่แน่
เพราะจะมีคนมาเที่ยวมากมีรถจอดเต็มไปหมด ขอแนะนำว่าถ้าเห็นมีที่จอดรถตรงไหนก็ตาม
อย่าคิดว่าเดี๋ยวเดินไกล ให้รีบเข้าไปจอดทันทีอย่าเลือกที่มาก
เดี๋ยวอาจต้องวนรถนาน เพราะที่นี่มีคนมาเที่ยวมากอย่างเหลือเชื่อ
แถวๆทางเข้าที่จอดรถจะเห็นมีที่ให้ซื้ออาหารเลี้ยงแพะแกะและกระบือ(ควาย)ด้วย
 |
มีของขายติดที่จอดรถของโซนนี้เลย |
เริ่มเดินเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยมโดยจอดรถฝั่งไหนก็เที่ยวฝั่งนั้นก่อน
ตลาดจะเดินต่อถึงกันได้ถ้ามีแรงเดิน
ทีแรกผู้เขียนนึกว่าตลาดน้ำคลองลัดมะยมนี้คงเล็กๆ แต่ที่ไหนได้เดินจนขาลาก
ตลาดดูไม่น่าที่จะใหญ่นัก แต่เพราะมีที่ให้เดินชมเดินชิมมากร้าน จึงเดินกันจนเมื่อยกันเป็นแถว ถ้าจะเที่ยวชมให้ละเอียดทุกซอกทุกมุม
โดยเฉพาะชิมอาหารของที่นี่แล้ว รับรองว่ามาตลาดน้ำคลองลัดมะยมแค่ครั้งเดียวไม่พอแน่
 |
ภาพโดยsihawatchara ทางเข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมด้านหนึ่ง มีดนตรีบรรเลงด้วย |
ทางเข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะมีหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่ตั้งโชว์อยู่
เราเดินเข้าไปเที่ยวได้เลย
ถ้าเดินมาจากที่จอดรถด้านไหนก็เข้าตลาดทางที่จอดรถด้านนั้น
เพราะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆก็ต้องวนไปวนมาทุกโซนอยู่ดี ถ้าจอดรถทางด้านร้านไอศกรีมโบราณ
ก็ขอให้ทราบไว้เลยว่า นี่คือร้านของลุงชวนผู้ริเริ่มตลาดน้ำคลองลัดมะยม ไอศกรีมอร่อยมากควรที่จะต้องแวะชิม
 |
ร้านขายสมุนไพร |
เริ่มเข้าตลาดก็จะพบว่ามีของขายหลายหลาก จะเป็นของที่ระลึกบ้างเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆบ้าง
มีไปจนถึงเสื้อผ้ารองเท้าเครื่องใช้ไม้สอยจุกจิกต่างๆ แบบตลาดสมัยก่อน
ไฮไลท์ของตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็คือของกิน
ที่มีสารพัดตั้งแต่กินเล่นๆไปจนถึงกินกันอิ่มพุงกางกันเลยทีเดียว
พืชผักผลไม้มีให้เลือกซื้ออยู่มาก
 |
ร้านแถวที่จอดรถ |
 |
ภาพโดยsihawatchara ทางเข้าสวนเจียมตน และต่อไปที่อื่นได้ |
 |
ภาพโดย sihawatchara ฝรั่งมาเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยม |
ตลาดน้ำที่นี่ไม่ได้หมายความว่าเป็นตลาดที่มีแต่เรือพายมาขายของอยู่ริมคลองมากๆ
แต่เป็นตลาดแบบตลาดริมน้ำ พื้นที่ขายสินค้าจะตั้งอยู่เรียงรายไปตามคลองลัดมะยม
และแผ่เข้ามายังฝั่งสวนเดิม คือเป็นตลาดบกมากกว่า แต่ก็ยังมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขายของริมคลองอยู่พอสมควร
เพราะวิถีชีวิตแถบนี้ยังมีวิถีชาวบ้านริมคลองแบบสมัยก่อนอยู่มาก
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าที่กรุงเทพมหานครนี้ ยังมีสภาพแวดล้อมที่ย้อนยุคแบบนี้เหลืออยู่
 |
เข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมได้หลายช่อง จะต่อถึงกันได้ |
 |
ขนมปังกรอบอบเนยที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมเจ้านี้อร่อยจริง |
 |
สวยๆทั้งนั้น |
 |
เดินตรงไปจะเจอคลองลัดมะยม |
 |
อาจนึกว่าสุดตลาดแล้วแต่ไม่ใช่ นี่มันเพิ่งเข้าตลาดน้ำริมคลอง |
 |
เห็นแล้วคลองลัดมะยม มีที่นั่งรับประทานอาหารเรียงไปตามริมคลอง |
 |
ขนมจีนน้ำยาน้ำพริกแกงไก่ หอมมากๆหอมสุดๆ |
เมื่อเห็นพ่อค้าแม่ค้าผู้สูงวัยพายเรือมาขายของ
แล้วยังใส่งอบซึ่งเป็นหมวกแบบไทยแท้ดั้งเดิม ก็ทำให้ระลึกถึงอดีตครั้งวัยเด็กที่เห็นพ่อค้าแม่ค้าหาบของมาขายที่หน้าบ้าน
ยุคนั้นพ่อค้าแม่ค้ายังใส่งอบกันเป็นธรรมดา จะเห็นงอบได้ทุกวัน โดยมากจะพ่อค้าแม่ค้าจะข้ามมาจากทางฝั่งธนบุรีเพราะเป็นฝั่งสวน
ส้มสูกลูกไม้ผักหญ้าต่างๆนั้น แทบทั้งหมดเป็นของสวนทางฝั่งธนบุรี ในยุคนั้นจะรู้เลยว่าแม่ค้าคนนี้อยู่บางมดเพราะขายส้มเขียวหวาน
แม่ค้าคนนี้อยู่บางขุนนนท์เพราะขายทุเรียน แม่ค้าคนนี้ต้องอยู่ตลาดพลูเพราะขายขนม
ถ้ามังคุดกับส้มโอก็มักจะมาจากบางกอกน้อย
แม่ค้าสมัยนั้นสวมงอบหาบของขายกันทั้งนั้น
 |
คุณตาคุณยายมาขายของ |
 |
สองคนตายาย |
เท่าที่สังเกตเห็นพ่อค้าแม่ค้าหรือชาวบ้านที่มาขายของนั้น
ถ้ามีงอบใส่จะเป็นชาวบ้านรุ่นเดอะเป็นส่วนใหญ่ ยังแต่งตัวแบบที่เห็นแล้วก็รู้ได้เลยว่าเป็นชาวสวนแน่ๆ
ส่วนพ่อค้าแม่ค้ารุ่นใหม่ๆก็แต่งตัวตามสบายแบบไปรเวทตามยุคสมัย
 |
นี่แหละคือคลองลัดมะยม |
 |
นั่งรับประทานกันริมคลอง |
 |
ผักผลไม้ของชาวสวนมาเอง ใหม่สดทั้งนั้น |
 |
ลูกฟักข้าว สีสวยมาก |
อาหารการกินกับข้าวกับปลาที่มีขายที่ตลาดนัดคลองลัดมะยมนี้
พอเห็นแล้วมันได้บรรยากาศเก่าๆหวนคืนกลับมาไม่น้อย
กับข้าวหรือขนมบางอย่างไม่เห็นมานานจนลืมไปแล้ว ก็มาเจอที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
อย่างเช่นปลาทูต้มเค็ม ปลาตะเพียนต้มเค็มที่เคยเห็นกันง่ายๆ
แล้วก็ค่อยๆหายไปเพราะทำยากและคนที่รับประทานเป็นมีน้อยลง
พอมาเห็นปลาทูกับปลาตะเพียนต้มเค็มของที่นี่ เห็นปุ๊บก็รู้ได้เลยว่า
นี่มันสูตรโบราณชัดๆ
เหมือนเปี๊ยบกับที่เคยรับประทานเมื่อห้าสิบปีก่อน(เอ..ทำไมมันนานอย่างนี้วะ)
 |
ปลาตะเพียนต้มเค็ม แบบนี้กระดูกเปื่อยนุ่มไปเรียบร้อย |
 |
ปลาทูแบบนี้หักหัวทิ้ง มาแต่เนื้อๆ |
เดินดูกับข้าวที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมแล้วจะตาลายเอาง่ายๆ
เพราะมันเยอะมากๆเยอะจริงๆ เยอะจนไม่มีปัญญาชิมให้ทั่ว
จะซื้อให้มากๆก็ไม่มีปัญญาถือกลับบ้าน อาหารต่างๆทำกันเดี๋ยวนั้นเลย
ผู้เขียนเดินผ่านร้านขายไก่ย่างแบบสมัยก่อน ที่เป็นไก่ย่างแบบแบนๆหนีบไม้ แค่เดินผ่านก็ต้องสะดุ้ง
เพราะไม้ที่ใช้หนีบไก่ย่างซึ่งเอาไก่ออกแล้วนั้น
ปรากฏว่ามีไม้หนีบเป็นกองพะเนินเทินทึก แสดงว่าต้องขายดีมากๆ
กับข้าวแต่ละอย่างมีร้านขายซ้ำๆกันหลายเจ้า
เท่าที่เขาให้ชิมดูก็ต้องขอบอกว่ารสชาติไม่ห่างกันเลย
ซื้อร้านไหนก็ได้เอาที่เราสะดวกซื้อ ปลาเผาบางเจ้านั้นเห็นคิวที่รอแล้วต้องถอดใจเพราะคิวเยอะจัด
ต้องเลี่ยงไปซื้อเจ้าที่อยู่ข้างในตลาดลึกๆหน่อย เพราะแบบนี้คนเดินไปไม่ทันถึงก็แวะซื้อเจ้าแรกๆก่อนแล้ว
ถ้าอยากได้เร็วๆก็ต้องเดินเข้าไปตลาดชั้นใน ของเขาอร่อยเหมือนๆกัน
 |
เดินรอดใต้สะพานไปอีกฝั่ง มุมนี้ให้ความรู้สึกว่าเรานี้ก็ตัวสูงมาก |
ผู้เขียนซื้อขนมหลายกล่องที่ตลาดชั้นในกะว่าจะเอาไปเป็นของฝาก ที่ไหนได้พอลองชิมแล้วปรากฏว่าเผลอรับประทานที่บ้านจนเกลี้ยงไม่มีเหลือไปฝากใครเลยสักกล่อง
ทั้งๆที่ผู้เขียนเป็นคนไม่ชอบขนมยังเผลอฟาดเรียบ
กุ้ง
หอย ปู ปลา ที่นี่มีครบเครื่อง อาหารทะเลนี้ก็ซื้อกันง่ายๆได้ที่นี่เลย
ซื้อแล้วขับรถไปเที่ยวที่อื่นต่อแล้วค่อยเอากับข้าวของที่นี่มารับประทานแบบไปปิ๊กนิ๊กได้สะดวกมากๆ
สนนราคาเท่าที่สอบถามดูก็เป็นราคาที่คบกันได้
อาหารการกินคาวหวานมีสารพัด
น้ำพริกแปลกๆก็มีให้เลือกซื้อจนแทบเลือกไม่ถูก มีให้ชิมจนพอใจแล้วค่อยซื้อ
ขนมไทยจีนแขกฝรั่งมีครบ น้ำผลไม้ชนิดที่หาดื่มได้ยากทีนีก็มีหลายอย่างเช่น
น้ำลูกฟักข้าวที่หายากมาก ที่นี่ก็มีเพราะยังมีสวนปลูกลูกฟักข้าวอยู่แถวๆนี้
 |
จะมีเรือมาขายของเป็นระยะๆ เห็นขายหมดทั้งนั้น เรือบางลำมีเครื่องท้ายด้วย |
 |
ตรงที่ให้เลี้ยงปลา มีอาหารปลาขายอยู่ใกล้ๆราคาถูก |
ผลไม้และผักนี้จะได้อารมณ์คนซื้อว่าสดมากๆ เพราะชาวสวนพายเรือมาขายกันเอง
มีคนแวะซื้อผักผลไม้กันเยอะ ขนาดว่าเราเดินมาเห็นแล้วเล็งเอาไว้ว่าเดี๋ยวขากลับจะแวะมาซื้อ
ปรากฏว่าพอเดินกลับมาของขายหมดไปแล้วก็มี
ถ้าจะรับประทานอาหารที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็สะดวกพอสมควร มีโต๊ะเก้าอี้จัดบริการไว้เป็นจำนวนมาก
แต่ก็มักมีคนนั่งเต็มตลอด
ข้อนี้ไม่ต้องตกใจเพราะคนที่มาเที่ยวตลาดน้ำต่างก็รู้หน้าที่
คือส่วนใหญ่จะรับประทานเสร็จแล้วจะรีบลุกจากที่นั่งทันที จะทำความสะอาดให้เท่าที่จะทำได้
พวกที่นั่งแช่ไม่ยอมลุกก็มีบ้าง แบบนี้จะเป็นพวกมนุษย์ป้าซึ่งมีแทรกซึมอยู่ในทุกวงการอยู่แล้ว
 |
ตลาดน้ำคลองลัดมะยมคนแน่นจริง |
 |
ดูสิ มีของขายเพียบ |
 |
ทั้งฝรั่งทั้งไทยเดินเที่ยวกันแบบแฮปปี้ |
การเดินเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยมหนีไม่พ้นเรื่องเมื่อยขา
เหตุเพราะมีของให้เลือกซื้อมาก
ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ไม่ต้องออกแรงเดินเองแต่ตัวไหลไปได้ด้วยนั้น
จะยิ่งทำให้เราเมื่อยสุดๆ ข้อนี้จึงพอเป็นเหตุผลให้อภัยท่านที่ชอบนั่งแช่นั่งรากงอก
เพราะอาจหมดแรงเดินจริงๆ
 |
กับข้าวปิ้งย่างทอดแบบนี้มีหลายเจ้าเหมือนๆกัน |
 |
ลูกชุบเจ้านี้มีวุ้นเคลือบมาด้วย |
 |
รูปนี้ขอสารภาพว่า ความจริงจะถ่ายรูปน้องเสื้อดำกางเกงยีนส์เพื่อเป็นต้นแบบแม่นางกวัก |
ท่านที่อยากสัมผัสอารมณ์แบบชีวิตชาวสวนริมคลอง
ก็มีบริการนั่งเรือชมลำคลอง ค่าบริการคนละ 20 บาท ระยะเวลาไปกลับราวๆเกือบ45นาที จะเป็นเรือพายแบบหนึ่งแรงคน
เรือลำหนึ่งรองรับได้ไม่เกินสิบคน เท่าที่เห็นเขาจะรับแค่ประมาณแปดคนนั่งกันสบายๆ
ท่าลงเรือพายอยู่ริมคลองลัดมะยมบริเวณที่มีโต๊ะเก้าอี้นั่งรับประทานอาหารนั่นเอง
จะมีคนนั่งรอคิวลงเรืออยู่ไม่ขาด เรือที่มารับก็เป็นเรือของชาวบ้านแถวๆนั้น
เรือจะพาเราชมชีวิตริมคลองไปตามคลองลัดมะยม
ออกไปถึงคลองบางพรหมผ่านสี่แยกศาลแม่โพสพเก่าแก่
แล้วแวะเข้าไปในสวนบัวซึ่งก็แล้วแต่โอกาสว่าจะมีบัวมากน้อยวัดดวงเอา จากนั้นจึงย้อนกลับทางเดิม ระยะทางที่นั่งเรือไปกลับนี้กำลังดีไม่มากไม่น้อย เพราะการนั่งเรือสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยนั้น
ขอบอกว่าถ้านั่งนานแล้วเมื่อยชะมัด
 |
ตรงที่น้องกางเกงขาสั้นขวามือ เป็นทางลงเรือพายชมคลอง |
ตอนที่เรานั่งเรือนั้นสามารถสอบถามพูดคุยกับคุณลุงคุณป้าที่พายเรือ
รับรองว่าจะได้ยินเรื่องชีวิตชาวสวนริมคลองมาประดับสติปัญญา ขนาดต้นไม้ใบหญ้าตามบ้านริมคลองที่เราผ่าน
รับรองว่าต้องมีที่เราไม่รู้จักชื่อรวมอยู่ด้วยทุกคน บางอย่างยังไม่เคยเห็นอีกด้วย
เรือลำที่ผู้เขียนใช้บริการเป็นเรือของลุงหนู
ลุงหนูแกเล่าประวัติของคลองแถบนี้ให้ฟัง และประวัติการจัดตั้งตลาดน้ำคลองลัดมะยม
ทั้งลุงหนูยังพายเรือไปพร้อมชี้ให้ดูไม้ดอกไม้ยืนต้นต่างๆ
ที่ผู้เขียนและท่านที่ร่วมทางในเรือต่างไม่รู้จักเลย
ทำให้เราอดแปลกใจตัวเองไม่ได้ว่า ของใกล้ตัวแค่นี้ทำไมเราถึงไม่รู้
 |
ลุงหนู เรือพายหนึ่งแรงคน |
ตอนที่นั่งเรือนั้นถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ
ยังไม่ได้เข้าไปในสวนลึกๆ
เพียงแค่นี้ก็ยังได้อารมณ์ของความสงบแบบวิถีชาวบ้านริมคลองดั้งเดิม เท่าที่สังเกตเห็นก็พบว่า
ทุกท่านที่มานั่งเรือชมลำคลองต่างมีอารมณ์ผ่อนคลาย
และรับรู้ได้ถึงความสงบร่มรื่นของสวนฝั่งธนฯ หลายๆท่านรวมทั้งผู้เขียนนี้รู้สึกเหมือนนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปครั้งวัยเด็ก
ที่อารมณ์สงบร่มรื่นแบบนี้ยังมีมาก แทบไม่น่าเชื่อว่าที่กรุงเทพมหานครยังมีสถานที่แบบนี้หลงเหลืออยู่
แถมยังอยู่ไม่ไกลอีกด้วย
 |
เริ่มชมคลองก็มีเรือสวนกลับมาพอดี |
 |
ลุงหนูบอกว่าเริ่มมีเรือหางยาวเข้ามาแล้ว |
 |
ในคลองมีทางแยกด้วย |
 |
แยกนี้มีศาลแม่โพสพ |
 |
ศาลแม่โพสพนี้เคยบูรณะขึ้นมาใหม่แต่ก็นานมาแล้ว
|
 |
ตรงนี้เป็นคลองบางพรหม จะไปออกที่คลองชักพระ |
 |
ด้านหลังลุงหนูเป็นคลองบางพรหมฝั่งที่ไปออกคลองทวีวัฒนา |
 |
ชาวบ้านแถวนี้ยังรับไปรษณียทางน้ำ |
 |
ลืมชื่อว่าต้นอะไรไปแล้ว |
 |
จะมีบัวเป็นระยะๆแล้วแต่ช่วงที่บัวติดดอก |
 |
สระบัวแต่เป็นช่วงที่เขาเก็บดอกบัวไปแล้ว |
 |
ดอกบัวริมตลิ่ง |
 |
บัวน้อยลอยชูช่ออรชร |
 |
น้ำกลิ้งบนใบบัว |
 |
ช่วงนี้ลัดเลาะไปข้างๆบ้านคน เจอสาวพม่าสวยมาก |
 |
มีคนชมคลองอยู่เรื่อยๆ |
 |
เหลืองๆนี่น้ำเต้าทอง ม่วงๆนี่ลืมแล้ว |
 |
เริ่มกลับเข้าคลองลัดมะยม |
 |
นั่งเรือยังเจอฝรั่ง |
 |
คลองซอยเล็กๆดูร่มรื่น เขาว่าเดินเข้าไปเที่ยวสวนได้ |
 |
คลองลัดมะยมมองจากมุมสูงหน่อย |
 |
ขึ้นไปยืนถ่ายรูปมุมสูงบนสะพานนี้แหละ |
 |
คู่นี้ขายกุ้งเผา ขายดีมาก |
 |
ส่วนใหญ่พอชมคลองแล้วก็กลับมานั่งรับประทานต่ออีกครั้ง |
หลายๆท่านขึ้นจากเรือแล้วก็ยังแวะซื้อของแวะนั่งรับประทานอาหารกันอีก บางคนหอบของกันพะรุงพะรังเพราะมีของให้ซื้อมากจริงๆ ซึ่งถ้าเรามีกำลังซื้อก็ควรช่วยซื้อสินค้าของชาวบ้าน ซื้อกันคนละเล็กคนละน้อยก็ยังดี ชาวบ้านที่รวมตัวกันมาขายของที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะได้มีกำลังใจทำตลาดต่อไป
 |
ผู้เขียนจบทริปนี้ด้วยการซื้อโอเลี้ยงดื่ม เขาต้มโอเลี้ยงกันเป็นกา รสชาติสุดยอด |
ตลาดน้ำคลองลัดมะยมนี้ต้องขอเรียนให้ทราบว่า ไม่ใช่แค่ควรไปเที่ยว ที่จริงแล้วต้องใช้คำว่าต้องไปเที่ยว
ต้องไปเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยมให้ได้
ภาพชุดตลาดน้ำคลองลัดมะยมอนุญาตให้นำไปใช้ได้ ผู้เขียนขี้เกียจพิมพ์ชื่อบอกไว้ให้ครบทุกภาพ ส่วนภาพคลองเก่าลืมชื่อแหล่งที่มา เป็นภาพในอินเตอร์เน็ต ขออนุญาตท่านเจ้าของภาพไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ