ผีกระสือ
Ghost - Krasue (Head Ghost)
![]() |
ภาพจากละคร กระสือ |
ผีกระสือ
ผีที่เป็นตำนานในระดับต้นๆของไทยนั้นต้องนับเอาผีกระสือรวมอยู่ด้วย
แต่ผีกระสือในความเข้าใจของคนยุคปัจจุบันนั้น
ความจริงแล้วผิดเพี้ยนไปจากผีกระสือดั้งเดิมมาก ผิดไปขนาดว่าถ้าผีกระสือยุคเก่ามาเห็นผีกระสือยุคนี้
ผีกระสือยุคเก่าคงต้องงงว่านี่มันผีอะไรวะ ผีกระสือระดับบรรพบุรุษของผีกระสือยุคนี้
ถ้าได้โคจรมาเจอกันเข้า ผีกระสือโบราณคงต้องอึ้งทึ่งตะลึงไปกับผีกระสือยุคใหม่
อาจขำกลิ้งหรือวิ่งหนีป่าราบ
ตำนานผีกระสือยุคใหม่ซึ่งความจริงในสมัยนี้ก็ไม่ใหม่แล้ว
เพราะเรื่องมันผ่านมาก็ร่วมๆจะ ๕๐ ปีเข้าไปแล้ว
ตำนานผีกระสือดังกล่าวนี้ทำให้คนไทยเราเชื่อว่า ผีกระสือเป็นผีผู้หญิง รูปร่างก็ดูแปลกประหลาดดูน่ากลัวสยองน่าตกอกตกใจ
เพราะมีแต่หัวกับกระเพาะลำไส้ นับว่าเป็นผีที่มีรูปร่างน่ากลัวแบบครึ่งๆกลางๆไม่ครบตัว ไม่ต้องเน่าเฟะอะไรเลย แค่มีหัวกับเครื่องในแค่นี้ไม่ต้องทำอะไรก็สยองขวัญมากแล้ว
เชื่อกันว่า
ผีกระสือนี้ต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์เป็นผีกระสือได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เพราะข้อนี้สิทธิสตรีมีสูงกว่าบุรุษ ผู้ชายจะไปเป็นผีกระสือไม่ได้อย่างเด็ดขาด ที่ผู้ชายเป็นได้ก็คือเป็นผีกระหัง
ซึ่งเป็นเพื่อนรักของผีกระสือ แต่ผีกระหังนี่ลำบากหน่อยตอนแปลงกาย เพราะกว่าที่จะแปลงกายเป็นผีกระหังได้นั้น
ต้องหากระด้งมาทำปีก หาสากตำข้าวเอามาทำเป็นหาง
![]() |
กระสือยายสาย ป้า น้ำเงิน บุญหนัก |
![]() |
ภาพ ละครกระสือ |
ตามความเชื่อเรื่องผีกระสือใช้ชั้นหลังนั้น
เชื่อว่าผีกระสือเป็นผู้หญิง โดยเป็นผีไปในแบบที่ยังไม่ได้ตายไปจริงๆ แต่จะกลายเป็นผีกระสือได้ทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่
ทำนองครึ่งผีครึ่งคน ในตอนกลางวันก็เป็นคนธรรมดาๆ
แต่พอถึงเวลากลางคืนก็จะกลายเป็นผีกระสือ วิธีที่กลายเป็นผีกระสือก็คือต้องถอดศีรษะแยกออกมาจากร่าง
ตอนที่ถอดศีรษะออกมานั้น จะมีหลอดอาหารติดศีรษะออกมาด้วย
ซึ่งจะลากเอากระเพาะอาหารและลำไส้ออกมาด้วย ดังนั้นเวลาผีกระสือจะไปหากิน
ก็จะมีหัวกับกระเพาะลำไส้ติดตามไปด้วย น่าสยองยิ่งนัก
ผีกระสือนั้นเป็นแล้วเป็นเลย ถึงจะแก่สักเท่าไรก็ไม่ตายอย่างเด็ดขาด
ถ้าเบื่อความเป็นผีกระสือเกิดอยากตายขึ้นมาก็ยังตายไม่ได้ ถึงร่างที่เป็นมนุษย์จะเจ็บไข้ได้ป่วยหนักเท่าไรก็ไม่มีทางตาย
นอกจากจะหาคนมาเป็นผีกระสือแทนตัวเองได้แล้วเท่านั้น จึงจะสามารถตายได้
คือต้องหาคนมาเป็นทายาทกระสือ รับเอาความเป็นผีกระสือของตนเองให้ได้ก่อน เมื่อถ่ายทอดความเป็นผีกระสือให้ทายาทกระสือแล้วถึงจะตายได้
การถ่ายทอดความเป็นผีกระสือก็ทำได้ง่ายๆคือ
ให้ผู้รับเป็นทายาทกระสือกินน้ำลายของผีกระสือ
แค่นี้ก็กลายเป็นผีกระสือรับช่วงต่อไปได้ ส่วนผีกระสือตนเดิมก็จะตายไป
![]() |
ละครกระสือ คุณ รชนีกร พันธุ์มณี |
อาหารของผีกระสือจะเป็นของเหม็นๆคาวๆ เช่นเครื่องใน เลือด ผีกระสือที่ออกมาล่าเหยื่อนั้น จะกินแค่เครื่องในเท่านั้น ส่วนเนื้อดีๆเช่น เนื้อสันใน คอหมูย่าง คากิ หมูกรอบ ทีโบน อย่างนี้ผีกระสือไม่ชอบไม่กิน ผีกระสือจะกินแต่ของคาวๆของเน่าเหม็นเป็นอาหาร ถ้าผีกระสือหาอะไรกินไม่ได้จริงๆแล้ว ก็จะไปแอบกินอุจจาระตามส้วม
อาหารที่ผีกระสือชอบเป็นที่สุดก็คือรกเด็ก
โดยจะแอบไปกินรกของเด็กแรกเกิด พอคนรู้ว่าผีกระสือชอบกินรกเด็กแรกเกิด
ก็เลยหาทางป้องกันโดยการเอาเถาวัลย์ประเภทที่มีหนามมาสุม
เพื่อป้องกันผีกระสืบแอบเข้ามากินรกเด็ก หรือสุมไม้ที่มีหนามเอาไว้ที่คอกสัตว์
เพื่อป้องกันผีกระสือเข้ามากัดกินสัตว์เลี้ยง เชื่อว่าผีกระสือจะไม่กล้าบุกเข้ามา เพราะจะโดนหนามเกี่ยวลำไส้ให้ติดคากับดัก
![]() |
กระสือยายสายกำลังถอดหัว |
![]() |
กระสือกำลังถอดหัว กระสือตนนี้สวย |
เมื่อผีกระสือถอดศีรษะออกจากร่างได้แล้ว ก็จะลอยไปแบบมีศีรษะพร้อมมีกระเพาะลำไส้ห้อยโตงเตงไปด้วย โดยจะลอยไปลอยมาพร้อมมีแสงกระพริบคล้ายหิ่งห้อยตัวใหญ่ยักษ์ แสงของกระสือนี้เล่ากันว่ามีทั้งแสงสีแดงสีเขียว จะเห็นลอยกระพริบสูงประมาณไม่เกินยอดไม้
![]() |
ภาพยนตร์ กระสือสาว ป้าพิศมัย วิไลศักดิ์ |
ลีลาการล่าเหยื่อกัดกินเหยื่อของผีกระสือก็น่ากลัวไม่น้อย
ผีกระสือจะกัดที่คอให้เลือดไหลจนตาย แล้วจึงกัดที่ท้องให้ท้องแตกฉีกมีลำไส้ไหลออกมา
อย่างนี้ก็จะกินเครื่องในได้อย่างง่ายๆและเอร็ดอร่อย
แต่ถ้าเป็นสัตว์ใหญ่เช่นวัวควาย ผีกระสือก็จะกัดที่รูก้น
แล้วกระชากลากเอาลำไส้ออกมาทางก้น จากนั้นจึงกิน
ผีกระสือที่กินอิ่มแล้วก็จะกลับบ้านพร้อมใบหน้าที่เปรอะเปื้อนคราบจากซากที่กิน
ถ้าผีกระสือลอยผ่านไปทางบ้านที่ตากผ้าทิ้งไว้
ผีกระสือก็จะแวะเข้าไปใช้ผ้าที่ตากนั้นเช็ดปาก พอตอนเช้าเจ้าของบ้านจะมาเก็บผ้า
ก็จะเห็นคราบสปรกที่ผ้านั้น ถ้าอยากรู้ว่าใครเป็นผีกระสือก็ใช้วิธีง่ายๆคือ
เอาผ้าที่ผีกระสือเช็ดปากไปต้มในน้ำเดือด ผีกระสือตนนั้นจะร้อนปากจนปากพอง
ทำให้สังเกตได้ว่าใครเป็นผีกระสือ
ความจริงแล้วนั้น
ผีกระสือในแบบที่มีแต่หัวกับลำไส้ลอยไปลอยมานี้ เป็นเรื่องที่จินตนาการแต่งขึ้นโดยนักเขียนการ์ตูนรุ่นเก่ามากๆท่านหนึ่ง
ท่านผู้นี้ใช้นามปากกาว่า ทวี วิษณุกร นามจริงว่า คุณทวี เย็นฉ่ำ โดยเขียนเป็นการ์ตูนเรื่องยาวชื่อเรื่องว่า กระสือสาว เป็นการ์ตูนฮิตในหนังสือการตูนหนูจ๋า ตัวเอกของเรื่องที่เป็นผีกระสือนั้นมีชื่อว่า บัวคลี่
เป็นคนดีแต่มีกรรมเก่าที่ต้องมาเป็นผีกระสือ การ์ตูนเรื่องกระสือสาวนี้มีอายุเก่าแก่
ไปๆมาๆคนในชั้นหลังเลยคิดกันไปว่า ผีกระสือต้องมีแต่หัวกับลำไส้ลอยไปลอยมา
เรื่องผีกระสือที่มีแต่หัวกับไส้นั้นมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง ต่อมาคุณทวี วิษณุกร ต้องแจ้งความดำเนินคดีเรื่องละเมิดสิทธิ์
เรื่องผีกระสือที่มีแต่หัวกับไส้นั้นมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง ต่อมาคุณทวี วิษณุกร ต้องแจ้งความดำเนินคดีเรื่องละเมิดสิทธิ์
ผีกระสือรุ่นเก่ากว่าและเป็นอีกคติหนึ่งนั้น
จะไม่ยืนยันว่าเป็นผีกระสือที่มีแต่หัวกับกระเพาะลำไส้
แต่จะเป็นผีกระสือที่เป็นว่านชนิดหนึ่ง เรียกกันว่าว่านโพงหรือว่านกระสือ
เล่ากันว่าว่านโพงหรือว่านกระสือมีวิญญาณสิงสู่อยู่
พอถึงกลางคืนก็จะเกิดเป็นอาถรรพ์ขึ้น
โดยที่วิญญาณที่สิงอยู่ในว่านจะลอยออกมาเป็นดวงไฟ จะออกไปล่าเหยื่อมากินเป็นอาหาร
วิธีกินส่วนใหญ่จะใช้วิธีกัดเหยื่อแล้วสูบเลือด ซึ่งคล้ายแดร๊กคูล่าผีดิบฝรั่งมาก
ผีกระสือแบบที่เป็นผีที่สิงอยู่ในว่านกระสือหรือว่านโพงยังพิสดารอีก
คือผีกระสือแบบนี้ถ้าลอยผ่านบ้านคนหรือผ่านคนบ่อยๆ ก็จะเกิดปฏิกิริยาแปลกพิศวงขึ้นมา
โดยดวงไฟผีกระสือจะกลายเป็นใบหน้าคนขึ้นมาได้ ยิ่งถ้าเป็นว่านกระสือหรือว่านโพงที่มีคนเลี้ยงไว้ด้วยแล้ว
ดวงไฟกระสือจะขึ้นเป็นใบหน้าของเจ้าของต้นว่านนั้นเอง ผีกระสือแบบนี้เห็นดวงแสงเป็นใบหน้าได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย
ไม่จำเพาะว่าจะต้องเป็นใบหน้าผู้หญิงเพียงเพศเดียว
ภาพ magnolia.com ว่านโพงแบบที่มีผู้เลี้ยงไว้ |
เรื่องจริงจากพระธุดงค์
พระอาจารย์รูปหนึ่งของผู้เขียนเคยเล่าให้ฟังว่า
สมัยที่ท่านยังหนุ่มยังแข็งแรง ท่านมักออกเดินธุดงค์บ่อยๆ
ครั้งหนึ่งท่านเดินธุดงค์ผ่านไปทางเทือกเขาภูพานซึ่งยังเป็นป่าดงดิบรกทึบ
ท่านผ่านไปถึงใกล้ลำธารที่มีความร่มรื่นเงียบสงัด มีทำเลดีมากมีน้ำท่าบริบูรณ์ ท่านจึงอธิษฐานจิตปักกลดที่บริเวณนั้น
ท่านอยู่บำเพ็ญจิตในที่บริเวณนี้หลายวัน แล้วท่านก็สังเกตเห็นว่า
ในตอนกลางคืนมักมีแสงลอยเป็นดวง
โดยที่แสงนี้จะสว่างบ้างสลัวบ้างคล้ายกับว่าแสงกระพริบ
ท่านเห็นแสงดวงนี้ลอยผ่านไปหลายครั้ง จึงนึกถึงคำที่คนโบราณว่าเป็นแสงจากผีกระสือ
คืนหนึ่งท่านออกจากสมาธิได้สักครู่ แสงจากผีกระสือนี้ก็ลอยมาให้เห็นอีก
ด้วยความอยากรู้พระอาจารย์จึงลุกออกจากกลด แล้วเดินตามแสงผีกระสือไป
แสงผีกระสือก็ลอยหนีไปเรื่อยๆ จนในที่สุดแสงนี้ก็ไปลอยอยู่เหนือบริเวณดงไม้รกๆแล้วดับหายไป
พระอาจารย์จึงทำเครื่องหมายไว้ตรงที่แสงผีกระสือหายไป จากนั้นจึงเดินกลับไปที่กลด
พอรุ่งเช้าพระอาจารย์ได้เดินสำรวจไปตามทิศทางที่เห็นแสงผีกระสือ
เมื่อถึงจุดที่แสงผีกระสือหายไป
ท่านยืนยันว่าจำได้แม่นเพราะมีเครื่องหมายที่ท่านทำไว้
พอพิจารณาดูก็เห็นเป็นดงว่านชนิดหนึ่งเรียกว่าว่านโพงหรือว่านโพลง
ซึ่งบางที่เรียกว่านกระสือ
ภาพ magnolia.com ว่านโพงเหล็ก |
พระอาจารย์ท่านเห็นชัดๆเลยว่ากอว่านตรงจุดที่แสงผีกระสือหายไปนั้น
มีรอยเลือดสีแดงซึ่งแห้งคล้ำแล้วติดที่ต้นว่าน
ซึ่งเป็นไปตามตำนานที่คนโบราณเล่าขานกัน แต่ต้นว่านกระสือจะมีวิญญาณสิงจริงหรือไม่
ท่านว่าอย่าไปสนใจเพราะไม่มีประโยชน์
พระอาจารย์ปักกลดอยู่หลายวัน
ทั้งยังคงเห็นแสงผีกระสือลอยไปที่กอว่านดังกล่าวเหมือนเดิม
จนกระทั่งท่านถอนกลดแล้วเดินธุดงค์ต่อไป ปัจจุบันท่านชราภาพแล้วจึงกลับไปอยู่ที่วัดในจ.มุกดาหาร
ตำนานผีกระสือเป็นตำนานยอดฮิตของผีไทยตำนานหนึ่ง
มีคนกลัวผีกระสือกันมากโดยเฉพาะคุณผู้ชายที่มีเมีย เน้นแบบที่เมียชอบกินอาหารดิบๆหรือไม่ค่อยสุกดีนัก
ตำนานนี้เล่ากันไปทั้งเป็นเรื่องตลกขบขันและเรื่องจริงสำหรับคนกลัวผี ทั้งยังเป็นเรื่องที่คนอยากเปลี่ยนเมียตั้งใจยอมเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
คือ
เล่ากันว่าถ้าสังเกตเห็นว่าผัวหรือเมียชอบกินอาหารที่ดิบๆหรือครึ่งสุกครึ่งดิบ
อย่างนี้ให้ระมัดระวังตัวไว้ก่อน ให้สังเกตดูว่าผัวหรือเมียที่กินอาหารแบบนี้มีอากัปกริยาเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่
เช่น มีใบหน้าหมองคล้ำ ไม่ชอบแสงแดด ไม่สบตาคน ไม่ค่อยพูดจา
ถ้าเป็นแบบนี้ให้สงสัยว่าอาจโดนผีกระสือสิงร่างไปแล้ว ต้องพิสูจน์ด้วยวิธีสุดท้าย
วิธีพิสูจน์ขั้นสุดท้ายว่าเป็นผีกระสือหรือรวมทั้งผีกระหังด้วยก็คือ
เวลานอนตอนกลางคืนให้นอนหันหลังให้กัน และห้ามเผลอหลับไปอย่างเด็ดขาด
เพราะถ้าขืนเผลอหลับเป็นต้องตายอย่างแน่นอน
ที่ให้นอนหันหลังก็เพราะเป็นการอ่อยเหยื่อผีกระสือนั่นเอง โดยให้ยอมเสี่ยงว่าผัวหรือเมียจะเอามือมาจับที่ก้นเราหรือไม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งล้วงจับตรงรูก้น ถ้าปรากฏว่าผัวหรือเมียเอามือมาจับเมื่อไร
แสดงว่ากำลังจะล้วงก้นเพื่อลากลำไส้เราออกมากินนั่นเอง
ตำนานอย่างหลังนี้มีคนเชื่อกันจริงๆจังๆเสียด้วย
โดยเฉพาะคนที่อยากเปลี่ยนผัวเปลี่ยนเมีย
อย่างไรก็ตามตำนานผีกระสือก็ยังเป็นตำนานผียอดฮิตของไทยอยู่เสมอ และ ตลอดไป
ขอขอบคุณภาพประกอบจากละครโทรทัศน์เรื่องกระสือ ภาพยนตร์ชุดกระสือเวอร์ชั่นต่างๆ ภาพจากเว็บไซต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น