หลวงพ่อวัดไทรน้อย วัดไทรน้อย หมู่ 1 ต.ไทรน้อย
อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน ก็เกือบๆจะ 50 ปีเข้าให้แล้ว(สะดุ้งเลย)
เป็นช่วงที่ข้าพเจ้าสอบเข้าเรียนช่างกลของรัฐได้ ซึ่งอยู่ไกลบ้านไม่น้อย
ช่วงนั้นเป็นช่วงวัยรุ่นที่เข้าวัยหนุ่มแล้ว ข้าพเจ้าเรียนช่างกลอยู่ 5 ปี คือ
ป.ว.ช. และต่อ ป.ว.ส. นับว่าเป็นช่วงชีวิตที่ฝ่าดงตีน และอบอวนด้วยความหวานชื่นจากสาวๆเป็นที่ยิ่ง
แน่นอนว่าสาวๆส่วนมากจะเป็น สาวพาณิชย์...มีวลีฮิตในครั้งนั้นว่า...หนุ่มช่างกลคู่กันกับสาวพาณิชย์
ข้าพเจ้าสนใจเสาะหาวัตถุมงคลมาก่อนยุคเรียนช่างกล
อันที่จริงเริ่มซื้อพระในกาละมังมาตั้งแต่เรียนประถมปลายแล้ว
พอจะเรียกว่าเล่นพระมาตั้งแต่เด็ก แต่หัดเช่าบูชาพระครั้งแรกก็โดนของเก๊ทันที
เป็นการรับน้องใหม่ตามธรรมเนียมวงการคนเล่นพระ ทั้งยังโดนของเก๊ตามมาอีกหลายดอก
ค่าขนมทั้งนั้น
ตอนที่เรียนช่างกล ในยุคนั้น คนเมืองนนท์เขาแนะนำว่า
พระอาจารย์สุดยอดของเมืองนนท์ต้องหลวงปู่เหรียญวัดบางระโหงกับหลวงพ่อทองสุขวัดสะพานสูง
จึงแน่นอนว่าข้าพเจ้าต้องไปกราบนมัสการ หลวงปู่เหรียญหลวงพ่อทองสุขนับเป็นพระอาจารย์รุ่นอาวุโสของเมืองนนท์
ในเมืองนนท์ท่านดังมาก่อนใครๆ
ในช่วงเรียนช่างกลชั้น ป.ว.ช. จะเป็นช่วงบู๊มากสักหน่วย
เพราะเพิ่งเป็นวัยรุ่นที่เข้ารุ่นหนุ่มต้นๆ เลือดลมมันจึงเดือดง่าย ตีกันบ่อย
ข้าพเจ้านั้นเข้าเรียนสัปดาห์แรกก็โดนตีเลย
ครั้งแรกที่ว่านี้โดนเปิดบริสุทธิ์ที่ท้ายทอยด้วยคมสิ่ว เลือดอาบเต็มเสื้อ วันนั้นแขวนเหรียญหลวงพ่อรูปหนึ่งพร้อมตะกรุดดอกเล็ก
เช่าบูชาตามที่หนังสือพระเชียร์ (ไม่ขอเอ่ยนามพระอาจารย์)
หลังจากนั้นจึงไม่ได้พกติดตัว แล้วมาเจอประสบการณ์ดีๆของจริงจากตะกรุดหลวงพ่อวัดไทรน้อย
พวกช่างกลวิทยาลัยข้าพเจ้าที่ใช้ตะกรุดหลวงพ่อวัดไทรน้อยส่วนมากจะเป็นพวกที่มีบ้านอยู่บางบัวทอง
พวกอยู่ปากเกล็ดจะใช้ของขลังหลวงพ่อทองสุขวัดสะพานสูง พวกอยู่ อ.เมือง อ.บางใหญ่
บางศรีเมือง คลองอ้อม ตลาดขวัญ ไทรม้า สนามบินน้ำ จะใช้ของขลังหลวงปู่เหรียญวัดบางระโหง
พวกไทรม้าส่วนหนึ่งจะใช้วัตถุมงคลหลวงปู่สายวัดบางรักใหญ่ ในพระอาจารย์ทั้งหมดนี้
หลวงพ่อวัดไทรน้อยอาวุโสน้อยกว่าท่านอื่น แต่ดังได้
สมัยนั้นข้าพเจ้าได้ยินชื่อของหลวงพ่อวัดไทรน้อยมาก่อนแล้ว แต่หลวงพ่อวัดไทรน้อยอ่อนอาวุโสกว่าเยอะ ประมาณว่าท่านเป็นรุ่นลูกศิษย์
ข้าพเจ้าจึงยังไม่สนใจยังไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อวัดไทรน้อย
เมื่อเรียนช่างกลแน่นอนว่าข้าพเจ้ามีแฟนเป็นสาวพาณิชย์
เธอคนหนึ่งเป็นคนพิเศษที่สุด กว่าจะจีบได้ก็ใช้เวลาเป็นปี บางครั้งต้องฝ่าดงตีนไปรับเธอที่โรงเรียนเธออีกด้วย
เธอเป็นสาวชาวสวนนนท์ขนานแท้ บ้านอยู่ในคลองค่อนข้างลึก เวลาไปส่งเธอที่บ้านต้องนับว่าทุลักทุเลยิ่ง
และที่บ้านริมคลองของเธอนี่เอง ที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องรีบไปกราบหลวงพ่อวัดไทรน้อย
เรื่องมีอยู่ว่า...
พ่อของสาวพาณิชย์(อันเป็นที่รัก) ท่านเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านติดต่อกันหลายปี
ความเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นขาลุยอยู่แล้ว...ข้าพเจ้าทราบเป็นนัยๆอยู่แล้วว่า
ท่านหวงลูกสาว คนย่านนั้นไม่กล้าจีบลูกสาวท่าน แต่เราไม่กลัว ก็จะจีบลูกสาวแกนี่นะ
ขนาดดงตีนเรายังฝ่ามาบ่อยๆเพื่อหาสาวคนนี้ แค่ผู้ใหญ่ดุๆกำนันหวงลูกสาว
เราชนะใจได้แน่
เมื่อพ่อของเธอเมตตาเอ็นดูข้าพเจ้า ก็คุยกันได้ถูกคอ
วันหนึ่งข้าพเจ้าไปค้างที่บ้านสวนของเธอที่รัก
ได้ถามพ่อเธอว่า...พ่อเป็นระดับกำนันผู้ใหญ่บ้าน
พ่อใช้ของขลังอะไรติดตัว...แกหัวเราะว่า มันต้องมีบ้างซิเว๊ย
แล้วแกก็ถลกเสื้อให้ดูตะกรุดโทนที่เอว เป็นตะกรุดดอกใหญ่ดูหนาหนักถักเชือกสีเขียว
พ่อแกว่า...นี่ๆ ตะกรุดโทนอาจารย์เมียงวัดไทรน้อย เหนียวดีชะมัด
พ่อของสาวพาณิชย์ที่รักท่านเล่าให้ฟังว่า
แกมีประสบการณ์หนังเหนียวหลายครั้ง โดนมีดบาดไม่เข้าบ้าง
เผลอเหยียบมีดพร้าเหยียบตะปูไม่เข้าเนื้อ เผลอใช้มีดพร้าหวดตัดหญ้าพลาดมาโดนแข้งขาก็ไม่เข้าเนื้อ
ลูกบ้านบางคนโดนแทงไม่เข้า...พ่อแกว่า...อาจารย์เมียงลงตะกรุดขลัง
เราเรียนช่างกลเดี๋ยวเจอพวกโรงเรียนคู่อริดักตี
ไปขอตะกรุดอาจารย์เมียงมาไว้คุ้มครองสิ...เมื่อพ่อแกบอกขนาดนี้
ก็ต้องรีบไปกราบหลวงพ่อเมียง ซึ่งก็คือหลวงพ่อประสิทธิ์ หรือที่นิยมเรียกว่า
หลวงพ่อวัดไทรน้อย
สมัยเมื่อเกือบห้าสิบปีก่อน
ถ้าจะไปกราบหลวงพ่อวัดไทรน้อยนั้น การเดินทางยังไม่สะดวกนัก ต้องลงเรือข้ามฟากจากท่าน้ำนนท์ไปฝั่งบางศรีเมือง
แล้วนั่งรถเมลเล็กที่ท่าน้ำบางศรีเมืองไป อ.บางบัวทอง
แล้วต้องต่อเรือหางยาวจากบางบัวทอง ไปตามคลองพระพิมล ไปขึ้นท่าน้ำวัดไทรน้อย
แล้ววัดดวงว่าหลวงพ่อจะอยู่วัดหรือไม่
ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าไปกราบหลวงพ่อวัดไทรน้อย ท่านมีอายุได้สัก 50ปีกว่านิดๆ
ท่านถามว่ามาจากไหนรึไอ้หนุ่ม ก็ตอบท่านว่าเลิกเรียนเลยรีบมากราบหลวงพ่อ
ท่านเห็นว่าเป็นเด็กช่างกลของจังหวัดท่านก็มีเมตตา ในวันนั้นมีคนมากราบขอตะกรุดโทนของท่านด้วย
แต่ท่านตอบว่า...คราวหน้าค่อยมาเอา...ข้าพเจ้าได้ยินจึงนึกว่าเราก็คงจะอดได้ตะกรุดโทนเหมือนกัน
หลวงพ่อคงจะไม่ให้เพราะเรายังวัยรุ่นเพิ่งเป็นรุ่นหนุ่มแค่นั้นเอง
พอผู้ใหญ่ที่มาขอตะกรุดแต่หลวงพ่อว่าให้มาเอาทีหลังกลับไปแล้ว
ท่านก็ถามข้าพเจ้าว่า...ไอ้หนุ่ม
เอ็งจะเอาตะกรุดโทนของข้ารึ...ข้าพเจ้าก็กราบเรียนว่า..ครับ...ท่านถามว่ารู้จักข้าได้ยังไงทำไมถึงอยากได้ตะกรุด...ข้าพเจ้าจึงกราบเรียนหลวงพ่อไปว่า...เห็นพ่อแฟนที่ในคลองแกโชว์ตะกรุดหลวงพ่อให้ดู
ก็เลยคิดว่า ขนาดระดับกำนันผู้ใหญ่บ้านยังคาดตะกรุดหลวงพ่อ
ดังนั้นหลวงพ่อต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เลยรีบมากราบขอตะกรุดสักดอกหนึ่ง
ตอนนั้นในใจนึกว่าเรามาหาหลวงพ่อครั้งแรก แถมเป็นวัยรุ่น
หลวงพ่อคงจะยังไม่ให้ละมัง
แต่แล้ว...หลวงพ่อวัดไทรน้อยท่านพูดง่ายๆว่า..หนุ่มรอเดี๋ยว
ข้าจะประสิทธิ์ให้...แล้วท่านก็ลุกเดินเข้าห้อง พอออกมาก็มีตะกรุดโทนดอกโตถักเชือกไนล่อนสีเขียว
ท่านให้สำรวมจิตยืนมือมารองรับตะกรุด แล้วท่านก็กำตะกรุดในมือท่าน
ภาวนาเสกปลุกตะกรุดสำทับลงไป สักพักท่านตัวสั่นมือที่กำตะกรุดสั่นและแกว่งซ้ายขวาเล็กน้อย
แล้วก็ปล่อยตะกรุดโทนลงบนฝ่ามือของข้าพเจ้า
ตะกรุดโทนดอกโต |
หลวงพ่อท่านบอกว่า ตะกรุดโทนดอกใหญ่ทำยาก ท่านลงอักขระด้วยตัวท่านเอง ในปีหนึ่งๆทำได้ไม่มาก ไม่ค่อยให้ใครง่ายๆ ท่านว่า..ข้าเห็นหนุ่มเรียนช่างกล เดี๋ยวยกพวกตีกัน เดี๋ยวปาระเบิด ข้าเลยให้ไว้คุ้มตัว...ข้าพเจ้าดีใจที่ท่านเมตตาให้ตะกรุดโทนดอกโต(เรียกกันอย่างนั้น) รีบกราบท่าน
หลังจากวันนั้น ถ้าว่างก็เดินทางไปกราบท่าน ซึ่งต้องนั่งเรือหางยาวทุกครั้ง ความจริงถนนไป อ.ไทรน้อยก็มี แต่นานโคตรๆจึงจะมีรถโดยสารเล็กวิ่งมาสักคัน สู้เดินทางด้วยเรือหางยาวไม่ได้ เรือมีหลายเที่ยวมากกว่า
ข้าพเจ้าเคยพาเพื่อนช่างกลไปขอตะกรุดโทนดอกโต ท่านก็มอบให้ ส่วนข้าพเจ้าคราวนี้ท่านมอบตะกรุดโทนดอกกลางให้ 1 ดอก เพราะเคยได้ดอกโตไปแล้ว ท่านว่าท่านชอบพวกช่างกลมันห้าวดี ช่างกลบ้านเราต้องไม่เสียทีคนอื่น คือท่านหมายถึงพวกข้าพเจ้าเป็นช่างกลของจังหวัด ท่านมองว่าเป็นพวกบางเดียวกันเป็นลูกหลานท่าน
ตอนที่ข้าพเจ้าเรียนช่างกลนั้น พอรับของดีจากหลวงพ่อแล้วจะถวายเงิน ท่านไม่รับ ท่านว่า เอ็งยังเรียนหนังสือ เก็บสตางค์ไว้กินขนมกินข้าวเถอะวะ เอาไว้ทำงานแล้วค่อยมาทำบุญ
เมื่อกราบเรียนสอบถามประวัติการสร้างตะกรุดของท่าน ท่านเล่าว่าตะกรุดรุ่นแรกนั้นคือที่ท่านทำไว้ใช้เอง ตอนนั้นท่านอยู่ที่วัดสุธาโภชน์ ริมคลองลำปลาทิว เขตลาดกระบัง สาเหตุที่ท่านทำตะกรุดครั้งนั้นฟังท่านเล่าแล้วฮามาก ท่านว่าท่านกลัวผี เลยอยากหาของขลังไว้กันผีและคุ้มครองตัว เลยทดลองทำตะกรุดตามตำรา จะใช้คุ้มครองป้องกันภัยและกันผี ทำแล้วแบ่งกับพระเพื่อนคนละ 1 ดอก ตะกรุดที่ทำในครั้งแรกจะลงยันต์บนแผ่นตะกั่ว แล้วหลอมเป็นแท่ง พกตะกรุดหล่อทั้งอย่างนั้นติดตัวปรากฏว่าประสิทธิ์ดี ท่านจึงทำตะกรุดตลอดมา แต่ทำเป็นแผ่นแล้วม้วนเหมือนตะกรุดทั่วไป
พระกันผี
ส่วนเรื่องกันผีนั้น หลวงพ่อท่านเล่าว่า พอทำตะกรุดหล่อตันเสร็จ ก็เลิกกลัวผี มีเกร็ดเรื่องของดีกันผีของหลวงพ่อที่คนไม่ค่อยรู้ เรื่องนี้หลวงพ่อเล่าให้ขัาพเจ้าฟังเอง ของดีทางกันผีกันอาถรรพ์ที่ท่านทำไว้เฉพาะ จะเป็นพวกพระไม้แกะ เป็นพิมพ์สมเด็จ นางพญา แม่นางกวัก ท่านว่าแบบนี้กันผีกันอาถรรพ์เป็นพิเศษ ท่านยังเมตตามอบให้ภรรยาข้าพเจ้าอย่างละองค์ ที่มอบให้เพราะช่วงนั้นที่ทำงานภรรยา(ตอนนั้นยังเป็นแฟนยังไม่ได้แต่งงาน) มีปรากฏการณ์ผีชนิดของจริง ขนาดนางพยาบาลเจอพร้อมๆกัน 3-4 คน ผู้ป่วยอีกต่างหาก เรื่องมีอยู่ว่า...
ที่โรงพยาบาลบนตึกชั้นที่แฟนข้าพเจ้าทำงานอยู่ มีคนไข้ถึงแก่กรรมบนเตียง ตอนแรกก็รู้กันเฉพาะนางพยายาบาลประจำกะนั้น พอเปลี่ยนกะรับเวรต่อ นางพยาบาลกะใหม่ไม่รู้เรื่องคนไข้ที่ถึงแก่กรรมนี้ เพราะเขาย้ายศพออกไปแล้ว
และแล้วก็เกิดเรื่อง วันถัดไปตอนดึกหลังเที่ยงคืน นางพยาบาลเห็นคนไข้เดินมาขอยา โดยบอกว่าอยู่เตียงด้านโน้น บอกแล้วก็เดินกลับไป พอพยาบาลเดินไปที่เตียงคนไข้เตียงที่ว่า มีคนไข้นอนอยู่แต่หน้าไม่เหมือน พอถามดูคนไข้ก็บอกว่านอนอยู่เฉยๆไม่ได้เดินไปไหนเลย นางพยาบาลก็งงๆแต่ยังไม่เฉลียวใจ
วันต่อมาหลังเที่ยงคืนเวลาเดิม คนไข้คนเดิมซึ่งก็คือผี ยังเดินมาขอยาอีก นางพยาบาลบางคนก็เจอว่าขอน้ำดื่ม พยาบาลเอาไปให้ที่เตียงก็ไม่เจอ พอเช็ครายชื่อผู้ป่วยก็พบว่า คนไข้ผู้นี้เสียชีวิตไปแล้ว เลยกลัวผีกันทั้งพยาบาลทั้งคนไข้รายอื่นๆที่อยู่ชั้นนั้นด้วย
ผีตนนี้ยังปรากฏอีกเป็นครั้งคราวและหลายวัน บางคนเห็นตัว บางทีได้ยินเสียงรองเท้าแตะดัง ตุบ ๆ ๆ ๆ เหมือนคนเดิน แล้วเสียงเดินนี้ดังตรงไปที่เคาน์เตอร์พยาบาลเสียด้วย ภรรยาข้าพเจ้าเล่าว่า เสียงเดิน ตุบ ๆ ๆ เข้ามาหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์ทุกครั้ง ไม่มีใครกล้ามอง ผู้ป่วยคนอื่นก็กลัวเพราะรู้แล้วว่า...มีผี
เมื่อหลวงพ่อวัดไทรน้อยเมตตามอบพระไม้แกะย้อมสีดำ 3 องค์ให้แฟนข้าพเจ้า แฟนก็พกติดตัวไปทำงาน พอเข้าเวรกะดึกก็ได้ยินเสียงเดืน ตุบ ๆ ๆ เสียงเดินเข้ามาถึงที่นางพยาบาลนั่งกลัวกัน ปรากฏว่าเสียงเดินไม่เข้ามาถึงเคาน์เตอร์ แต่เป็นเสียงหยุดชงักไป....หลังจากวันนั้นเหตุการณ์ผีไม่รู้ตัวว่าตายแล้วก็ไม่มีอีกเลย
อภินิหารตะกรุดโทนดอกโต
วันหนึ่งข้าพเจ้าและเพื่อนอีกคนนั่งรถเมล์สาย 32 ไปเรียนที่วิทยาลัย พอผ่านสะพานพุทธฯก็มีนักเรียนอาชีวะกลุ่มหนึ่งกรูกันขึ้นมาบนรถ
ตรงเข้ามารุมตีข้าพเจ้าและเพื่อน มีไม้มีมีดทั้งตีทั้งฟัน
ข้าพเจ้าได้แต่ปัดป้องด้วยสมุดบ้างใช้เหล็กฟุตฟาดกลับไปบ้าง
รู้สึกว่าคล้ายจะโดนคมมีดที่ท่อนแขนอยู่บ้าง ส่วนเพื่อนนั้นข้าพเจ้าเห็นชัดๆเลยว่า
มันไม่สู้แล้วโดนมีดสับลงบนกระบาน พอเพื่อนโดนฟันเข้าที่หัวเท่านั้น
พวกอาชีวะกลุ่มนี้ก็รีบวิ่งลงจากรถเมล์
ข้าพเจ้ารีบเข้าไปดูเพื่อน นึกในใจว่า..ห่าเอ๊ย
โดนฟันกระบานจังๆอย่างนี้มึงหัวแบะแน่ๆ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลแล้ว
ปรากฏว่าพอดูหัวกระบานมันแล้ว..กลายเป็นมันโดนฟันอย่างจังๆแต่ฟันไม่เข้า
หัวไม่มีแผล หัวไม่แตก ทั้งเนื้อทั้งตัวมันมีตะกรุดโทนดอกโตของหลวงพ่อวัดไทรน้อยคาดเอวเพียงดอกเดียว
ส่วนข้าพเจ้าก็ไม่มีรอยแผลอะไร แต่ไม่แน่ใจว่าข้าพเจ้าโดนฟันด้วยมีดหรือไม่
เพราะข้าพเจ้าใช้สมุดเล่มหนาปัดป้องตัว พร้อมทั้งใช้เหล็กฟุตฟาดตีกลับไปด้วย
จึงไม่แน่ใจว่าที่โดนๆบ้างนั้นเป็นแค่ไม้หรือไม่ แต่เพื่อนนั้น
มันโดนมีดสับกระบานเห็นจะๆต่อหน้าต่อตา เพื่อนมีตะกรุดหลวงพ่อวัดไทรน้อย
ข้าพเจ้ามีลูกกลองหลวงปู่เหรียญและตะกรุดโทนดอกโต ที่หลวงพ่อวัดไทรน้อยมอบให้ครั้งที่ไปกราบท่านครั้งแรก
อีกครั้งหนึ่งข้าพเจ้านั่งรถเมล์สาย 203 จากสนามหลวงไปเรียนที่วิทยาลัย
ไปกับเพื่อนอีก 2 คน
พอรถวิ่งไปถึงป้ายรถเมล์หน้าวัดปากน้ำนนท์...เจอช่างกลโรงเรียนคู่อริปิดถนน(ปิดถนนจริงๆ)
แล้วกรูขึ้นรถมารุมตีพวกข้าพเจ้า พวกช่างกลโรงเรียนนี้ตีกับสถาบันข้าพเจ้าบ่อยๆ
วันนั้นประมาณว่ามากันสิบกว่าคน พวกข้าพเจ้ามีแค่ 3
เพื่อนข้าพเจ้าคนหนึ่งโดนฟันเข้าที่หัว เห็นชัดเจนเลยว่าโดนฟันด้วยมีดปังตอ
อีกคนโดนตีหัวด้วยไม้ ส่วนข้าพเจ้าไม่โดนอะไรเลย(ได้ไง)
เพื่อนที่โดนฟันด้วยมีดปังตอนั้น ปรากฏว่าฟันไม่เข้า
เห็นเป็นรอยช้ำๆนูนๆ ส่วนคนทีโดนไม้ตีหัวนั้นมันหัวแตก
ไอ้คนที่โดนมีดปังตอฟันไม่เข้ามีตะกรุดโทนหลวงพ่อวัดไทรน้อยดอกเดียว
คนที่โดนตีหัวแตกไม่มีของขลังอะไรเลย ไอ้เพื่อนที่โดนมีดปังตอนั้น
ผ่านไปอีกวันหัวมันโนบวมปูด เขียวช้ำ ต้องทายาอยู่หลายวัน
ตะกรุดขนาดกลาง |
ในช่วงที่เรียนช่างกลอยุ่ 5 ปี
ก็แวะไปกราบหลวงพ่อวัดไทรน้อยหลายครั้ง
หลวงพ่อประสิทธิ์เหรียญพระเครื่องให้หลายอย่าง เมตตามอบตะกรุดแบบอื่นๆให้ด้วย
ยุคนั้นที่วัดไม่มีตู้วัตถุมงคล ใครอยากได้อะไรต้องเอ่ยปากกราบเรียนบอกท่าน
ท่านจะหยิบมามอบให้ ไม่มีการตั้งราคาอะไรเลย
ถ้าอยากจะเช่าบูชาตามใจชอบ ก็ต้องรอถึงวันทำบุญงานวัดประจำปี
จึงจะมีโอกาสเลือกเช่าบูชาได้ เพราะทางวัดจะเอาวัตถุมงคลออกมาให้บูชาแค่ปีละครั้งเท่านั้น
ตะกรุดไม้ไผ่ตัน |
หลังจากที่ข้าพเจ้าเรียนจบทำงานแล้ว
ก็ยังแวะเวียนไปกราบหลวงพ่อวัดไทรน้อย ได้กราบเรียนสอบถามถึงยันต์ในตะกรุดบ้าง
เอาบุหรี่ญี่ปุ่นไปถวายบ้าง ทำบุญบ้าง
ข้าพเจ้าสังเกตได้ว่า
พอข้าพเจ้าเรียนจบและเข้าสู่วัยทำงานแล้วมีเงินเดือนแล้ว
คราวนี้พอถวายเงินให้หลวงพ่อ ท่านก็รับ ถ้าคุยกับท่านเรื่องยันต์ต่างๆ
ท่านก็ให้รายละเอียดมากยิ่งขึ้น มากกว่าตอนที่ข้าพเจ้ายังเรียนช่างกล
ตะกรุดหนังเสือ |
เมื่อข้าพเจ้าทำงานไปได้สัก 10 ปี วันหนึ่งลูกน้องถามว่า...มีของขลังที่ดีจริงทางคุ้มครองบ้างไหม จำเป็นต้องหามาติดตัว ข้าพเจ้าถามสาเหตุ พอลูกน้องมันบอกก็ต้องสะดุ้ง..เพราะ..พ่อของลูกน้องเป็นกำนันทางภาคใต้ โดนหุ้นส่วนหลอกไปยิงทิ้งตายคาที่...มีวี่แววว่าเรื่องจะบานปลาย ลูกน้องเลยมาขอของขลัง จึงพาไปหาหลวงพ่อวัดไทรน้อย ท่านก็มอบตะกรุดโทนดอกโตให้คุ้มครองตัว
และแล้ว เรื่องก็บานปลายจริงๆ เจ้าลูกน้องรายงานว่า
ตะกรุดหลวงพ่อวัดไทรน้อยเหนียวจริง ยังพาพวกไปกราบหลวงพ่อ ขอตะกรุดไว้คุ้มครองตัวด้วยเหมือนกัน....เรื่องจะบานปลายอย่างไร
ก็บานปลายแบบในหนังไทยยุคเก่า หรือหนังจีนกำลังภายใน ลองคิดจินตนาการเอาเอง
หลวงพ่อวัดไทรน้อยทำตะกรุดไว้หลายแบบ ที่ดังกว่าแบบใดก็คือตะกรุดโทนดอกโต จะยาว 4 นิ้วกว่าๆ เป็นตะกรุด 2 ดอกม้วนรวมกัน ลงยันต์ทั้งด้านหน้าด้านหลัง มียันต์นวหรคุณ ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ยันต์เพชชสี่ด้าน และนะอุด ตะกรุดโทนดอกโตลงยันต์เยอะทำยาก หลวงพ่อจึงต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมสำหรับคนที่มาขอ ตะกรุดโทนดอกโตทำจากตะกั่วจึงหนักมาก ขนาดว่าเอาตะกรุดขว้างโดนหัวแตกหรือสลบได้เลย
ตะกรุดดอกเล็กแบบทายางรัก |
มีเรื่องที่หลวงพ่อท่านว่าเป็นวิบากกรรม
เรื่องเกิดในบั้นปลายชีวิตท่าน ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังระดับต้นๆของเมืองไทย ในตอนที่หลวงพ่อชราภาพมากแล้ว
มีกลุ่มมิจฉาชีพเข้าไปกราบท่าน ภายหลังแอบเอายานอนหลับให้ท่านฉัน
แล้วจัดฉากถ่ายรูปผู้หญิงขึ้นคล่อมหลวงพ่อ ให้ดูเหมือนว่ากำลังร่วมเพศ
กลุ่มนี้เอารูปภาพมาขู่รีดไถเงินจากหลวงพ่อ
แทนที่หลวงพ่อวัดไทรน้อยจะกลัวเสียชื่อเสียงแล้วยอมจ่ายเงิน
ท่านเห็นว่าท่านไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านพร้อมจะพิสูจน์ความจริง
จึงได้แจ้งความพร้อมทั้งรูปถ่าย...หลวงพ่อวัดไทรน้อยบริสุทธิ์
แต่เพราะท่านพร้อมพิสูจน์ความจริง เลยกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
แต่ผลก็คือ...
หนังสือพิมพ์เอาเรื่องหลวงพ่อวัดไทรน้อยนอน(หมดสติ)มีผู้หญิงขึ้นคล่อม
เอามาเล่นเรื่องว่า เกจิอาจารย์ใหญ่ปาราชิก เล่นข่าวอยู่หลายวัน
หลวงพ่อวัดไทรน้อยเสื่อมเสียชื่อเสียงสุดๆ ศรัทธาศิษย์ตกฮวบฮาบ มีการขายทิ้งวัตถุมงคลของหลวงพ่อ
เสียงก่นด่ามาก่อน โดยที่ไม่พิจารณาเลยว่า หลวงพ่อชราภาพและอาพาธ
ทางวัดก็อธิบายแล้วว่าหลวงพ่อโดนวางยา แต่ข่าวมีแต่ว่าหลวงพ่อไปในทางร้าย
ตอนข้าพเจ้ารู้ข่าวก็รีบไปเยี่ยมหลวงพ่อ
ท่านถามว่าเรื่องดังอย่างนี้แล้วเอ็งยังนับถือข้าอยู่อีกรึ ข้าพเจ้ากราบเรียนว่า
รู้ว่าหลวงพ่อไม่ได้ทำผิด หลวงพ่อโดนจัดฉากแบล็คเมล์ชัดๆ และข้าพเจ้ายังพูดอีกว่า
ถ้าหลวงพ่ออึ๊บๆจริง ก็ยิ่งต้องรีบมากราบหลวงพ่อ เพราะขนาดอายุ 80 แล้วยังอึ๊บไหว
ต้องมียาโด๊ปเจ๋งแน่ๆจะได้ขอสูตร หลวงพ่อฟังแล้วท่านหัวเราะลั่นชอบอกชอบใจ
หลายปีต่อมา หลวงพ่อชนะคดี ยืนยันว่าหลวงพ่อวัดไทรน้อยเป็นผู้บริสุทธิ์
แกงค์มิจฉาชีพรับสารภาพสิ้นว่า ได้วางยาหลวงพ่อแล้วจัดฉากถ่ายรูปเพื่อรีดไถเงิน
พอหลวงพ่อชนะคดี ปรากฏว่าหนังสือพิมพ์ที่เคยเล่นข่าวหลวงพ่อเป็นข่าวใหญ่หลายวัน กลับลงข่าวแบบเหมือนไม่ลงข่าวหลวงพ่อวัดไทรน้อยชนะคดีเป็นผู้บริสุทธิ์ แค่ลงข่าวเป็นแบบข่าวแทรกเล็กๆแค่ไม่กี่บรรทัด บางฉบับลงข่าวแค่ไม่กี่วรรค น้อยคนที่จะได้เห็นข่าวที่แสดงความยุติธรรมให้หลวงพ่อนี้
หลวงพ่อท่านสร้างตะกรุดไว้หลายแบบ ที่ดังสุดก็คือตะกรุดโทนดอกโต ยาว 4 นิ้วกว่าๆ ที่แจกมากที่สุดคือตะกรุดดอกเล็ก ยาวประมาณ 1นิ้วครึ่ง ที่ แจกแทนตะกรุดดอกโตก็เป็นตะกรุดขนาดกลาง
ลงไว้ด้วยยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ และนะอุด บางทีหลวงพ่อเรียกนะแคล้ว วัตถุมงคลแบบอื่นก็มีเหรียญรูปท่าน รูปหล่อ พระกริ่ง พระบูชา พระผงรูปเหมือน พระพิมพ์สมเด็จ กระดาษยันต์รูปท่าน ธงมหาราช แม่นางกวัก พระปิดตา
เรื่องจากความทรงจำที่ได้รู้จักหลวงพ่อวัดไทรน้อย
ภาพวัตถุมงคลของข้าพเข้าเอง
ขอขอบคุณภาพหลวงพ่อวัดไทรน้อย จากอินเทอเน็ต(ไม่สามารถสืบหาต้นตอแรกเริ่ม)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น