ระลึกอดีต เรื่อง พญาเต่าเรือน ที่กลายเป็น
เต่าเลือน
เรื่องของวิทยาคมมีตำรับหนึ่งเรียกว่าพญาเต่าเรือน
ตอนที่ข้าพเจ้าเห็นตำราครั้งแรกนั้นก็รู้สึกเฉยๆ แถมยังนึกขำว่า
นี่คือเต่าไม่เห็นจะน่าเกรงขามเหมือนพวก หนุมาน สิงห์ เสือ ก็เลยยังไม่ค่อยสนใจ
แต่ก็รู้จักวัตถุมงคลพญาเต่าเรือนมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมปลายแล้ว
และมีเก็บไว้ด้วย เป็นพญาเต่าเรือนตัวเล็กๆของหลวงพ่อสนิทวัดลำบัวลอย จ.นครนายก
ที่ข้าพเจ้าได้รู้จักและมีเต่าเรือนของท่านก็เพราะว่า
แถวๆบ้านเขาจัดกฐิณผ้าป่าไปถวายท่านทุกปี พอทำบุญไปก็ได้รับแจกมา
สมัยนั้นท่านยังไม่ดัง ก็ประมาณ 50ปีกว่าปีก่อน(นับถึง พ.ศ. 2566)
พญาเต่าเรือนหลวงพ่อสนิท ขนาดเท่าฝ่ามือ |
พอเรียนชั้นมัธยมก็เริ่มไปอ่านหนังสือที่หอสมุดแห่งชาติ
ได้อ่านตำรับพญาเต่าเลือน(ตอนนั้นเชื่อว่าต้องเป็นเต่าเลือน) ก็เอะใจว่าทำไมจึงมีเขียนว่าเต่าเรือนและเต่าเลือน
คือมีทั้งที่ใช้ ร เรือ และ ใช้ ล ลิง ตอนนั้นคิดไปเองว่าคำว่าเต่าเรือนที่ใช้
ร เรือ นี้ต้องเขียนผิด ที่ถูกต้องเป็นเต่าเลือน ล ลิง เพราะในตำรับบอกวิธีใช้เด่นๆเป็นเรื่องการทำความให้เลือนไป
คาถาเฉพาะก็มีพวก เลือน ลืมเลือน เลื่อนเปื้อน จึงคิดว่าเมื่อทำให้เลือนหาย
ดังนั้นต้องชื่อพญาเต่าเลือนที่ใช้เป็น ล ลิง แน่ๆ
ต่อมาเมื่อได้อ่านหนังสือปัญญาสชาดก ก็เจอชาดกเรื่องเต่าอยู่ 2
เรื่อง ชื่อชาดกเหมือนกันว่า สุวรรณกัจฉปชาดก โดยมีเรื่องหนึ่งที่เข้าเค้ากับพญาเต่าเรือน(ที่เขียน
ร เรือ) เป็นเรื่องของพญาเต่าทองโพธิสัตว์ เต่าโพธิสัตว์นั้นมีสีทอง ตัวใหญ่ขนาดยาวประมาณยี่สิบวา
กว้างก็ยี่สิบวาเท่ากัน และมีนามว่าสุวรรณกัจฉปะ
รูปร่างของพญาเต่าโพธิสัตว์ก็ประมาณเรือนใหญ่ๆ ตอนนั้นเองจึงทราบว่า
ที่แท้คำว่าพญาเต่าเลือนจะต้องเป็นพญาเต่าเรือน
เพราะในชาดกอ่านแล้วอนุมานได้ว่าความสำคัญในเรื่องส่วนหนึ่ง อยู่ที่พญาเต่าโพธิสัตว์ตัวใหญ่เท่าเรือน
จึงเรียกพญาเต่าเรือน ในสุวรรณกัจฉปชาดก
จะไม่มีใจความเกี่ยวกับเรื่องลืมเลือนอะไรเลย
ในตำรับวิทยาคมนั้นมักพบว่า
มีการใช้คำที่เสียงพ้องกันมาประกอบกับคาถาที่จะใช้
บ้างก็เป็นลักษณะตามธรรมชาติของสิ่งนั้นๆ เอามาประกอบเป็นตำรับวิทยาคม
บ้างก็เอาเหตุการณ์ในชาดกต่างๆ เช่น คาถาตัดอาถรรพ์ตัดไม้ตัดว่านอาถรรพ์ ก็ใช้คาถาสัพพาสีฯ
ที่มีเสียงว่า สับ ก็สับลงไปที่ไม้ที่คนไข้
เอาเคล็ดว่าสับฟันสิ่งร้ายให้หายไป และเรื่องพญาเต่าเรือนกลายเป็นพญาเต่าเลือนก็คงทำนองเดียวกัน
เมื่อคำว่า เรือน ออกเสียงเป็น เลือน คล้ายกันที่สุด ก็เลยกำหนดเป็นอาคมทางเลือนหายจากภัย
ดังเช่นที่พญาเต่าเรือนโพธิสัตว์ ท่านเห็นมนุษย์ที่เรือแตกมาติดเกาะได้รับความทุกข์อยาก
ถึงกับจะฆ่ากันให้ตายเพื่อเอาเนื้อมากิน พญาเต่าเรือนสงสารอยากช่วยมนุษย์ให้พ้นทุกข์
พญาเต่าเรือนจึงขึ้นไปบนยอดเขาแล้วกลิ้งตัวตกลงมายังพื้นหลายครั้ง จนกระทั่งพญาเต่าเรือนโพธิสัตว์ถึงดับขันธ์”ป
แล้วพญาเต่าสุวรรณกัจฉปะได้ช่วยให้ทุกข์เลือนหายไปจากเหล่ามนุษย์ที่เรือสำเภาแตกเหล่านั้นได้
คือมนุษย์ได้อาศัยเลือดเนื้อของพญาเต่าเรือนเป็นอาหาร
ใช้กระดองเต่าที่มีขนาดใหญ่เหมือนเรือนหลังใหญ่ๆ
ทำเป็นสำเภาแล่นกลับบ้านเมืองได้
แล้วพวกมนุษย์ที่รอดตายจากเรือสำเภาแตกไปติดเกาะ
ก็ได้เล่าเรื่องถึงบุญคุณพญาเต่าเรือนโพธิสัตว์ให้ประชาชนทั้งหลายได้ฟัง
ในเมื่อทุกข์เลือนหาย
แล้วออกเสียงเลือนคล้ายกับเรือน จึงมีการจำพญาเต่าเรือนว่าเป็นพญาเต่าเลือน
![]() |
ตัวนี้ของข้าพเจ้าเอง เคยพ่นน้ำหลายครั้ง |
หลวงพ่อสนิทท่านดังเรื่องพญาเต่าเรือนมาก เรียกได้ว่าตั้งแต่หลัง พ.ศ. 2500
หลวงพ่อสนิทดังทางเต่าเรือนมาก่อนใครๆ เต่าเรือนของท่านมีทั้งตัวเล็กเท่าหัวแหวน
มีขนาดต่างๆไปจนถึงเท่าเต่าตัวจริง เต่าของท่านจะแกะจากหิน
ในยุคสุดท้ายของท่านจึงมีเต่าแบบโลหะ นอกจากนี้ท่านยังดังเรื่องเครื่องรางจรเข้โทน
หลวงพ่อสนิทท่านเล่าว่า พญาเต่าเรือนของท่านใช้ในทางเมตตาโชคลาภคุ้มครอง
นอกจากนี้ยังมีคุณวิเศษในด้านเสี่ยงทายเตือนภัย ถ้าเป็นเต่าเรือนที่ใส่ไว้ในขวดน้ำมันหอม
ให้สังเกตดูว่าถ้าน้ำมันหอมมีสีขุ่นๆเมื่อใด ให้ระมัดระวังตัว ให้มีสติพิจารณาการกระทำกิจใดๆให้ดี
![]() |
ภาพจากเพจ สืบสานวัตถุมงคล หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก |
ตำรับพญาเต่าเรือนนี้ขลังจริง ข้าพเจ้าเคยเห็นคุณวิเศษทางเลือนคดีความความจากพรรคพวก คือ มีรุ่นน้องคนหนึ่งทำการทุจริต ต่อมาบริษัทจับได้จึงเตรียมการไล่ออก ได้ทำการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายชดเชย มีหลักฐานผูกมัดชัดเจนจนดิ้นไม่หลุดแน่ๆ
รุ่นน้องคนนี้ร้อนใจกลัวแพ้คดี
จึงบูชาพญาเต่าเรือนของหลวงพ่อสนิทเอามาพกติดตัว
เป็นเต่าเรือนตัวเล็กๆใส่ในขวดน้ำมันจันทร์
และมีพญาเต่าเรือนขนาดเท่าฝ่ามือตั้งบูชาไว้ที่บ้าน วิธีบูชานั้น
หลวงพ่อสนิทท่านให้เอาพญาเต่าเรือนวางไว้ในถาดที่มีก้อนหินหรือก้อนอิฐวางตรงกลางถาด
เอาน้ำเทลงไปให้เหมือนก้อนหินนั้นเป็นเกาะ
แล้วจึงเชิญพญาเต่าเรือนวางไว้บนก้อนหินนั้น ให้บูชาด้วยผักบุ้ง ถั่วฝักยาว
รุ่นน้องเล่าให้ฟังว่า บางวันมองเห็นว่า ตรงข้างๆถาดด้านหน้าพญาเต่าเรือน
จะมีน้ำเป็นหยดใหญ่หลายหยด จนต้องเช็ดให้แห้ง
แล้วก็มักจะเป็นเหมือนเดิมคือมีน้ำหยดเปียกอีก ต่อมาจึงทราบจากผู้หลักผู้ใหญ่ว่า
ถ้าพญาเต่าเรือนของหลวงพ่อสนิทพ่นน้ำ ก็จะมีโชคสำเร็จกิจที่คิดไว้
รุ่นน้องจึงเกิดความมั่นใจฮึดสู้คดี โดยตัดสินใจเข้าไปคุยกับบริษัท กะว่าจะขอเจรจาเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย
แล้วเกิดความแปลกประหลาด
หรือเรียกอภินิหารเลือนคดีความ จากเดิมที่บริษัทเอาจริงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ผลปรากฏว่า
บริษัทเปลี่ยนใจไม่ฟ้องดำเนินคดี ไม่เรียกค่าเสียหายชดใช้ ไม่ทำหนังสือไล่ออก
โดยให้ทำหนังสือลาออกไปแบบเงียบๆเท่านั้น
ประมาณว่าบริษัทกลัวว่าเรื่องจะเป็นข่าวฉางโฉ่ เลยอยากทำให้เรื่องเงียบซะงั้น
![]() |
ภาพจากเพจ สืบสานวัตถุมงคล หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก |
พญาเต่าเรือนที่ข้าพเจ้าได้จากหลวงพ่อสนิทนั้น แรกๆขนาดตัวเล็กมีเยอะ แต่โดนขอไปซึ่งเสียดายถึงบัดนี้ และมีพญาเต่าเรือนตัวเท่าฝ่ามือ เคยมีปรากฏการณ์น้ำหยดทางด้านหน้าพญาเต่าเรือน สังเกตว่าช่วงไหนที่มีหยดน้ำ ช่วงนั้นมีโชคลาภ จะเป็นเรื่องเงินทอง บางทีมีคนเอาข้าวของเครื่องใช้มามอบให้ หรือมีลาภปากเช่นมีคนพาไปเลี้ยงอาหาร หรือติดต่อการงานก็สำเร็จ
ข้าพเจ้ายังพบว่าเพื่อนหลายคนที่พกพญาเต่าเรือนหลวงพ่อสนิท
สามารถเลือนความโมโหโกรธาจากเมียที่เตรียมแพ่นกบาลผัวตัวดี ที่แอบไปเที่ยวอาบอบนวด
ไปอึ๊บสาว แต่พอเมียเห็นผัวกลับลืมเรื่องผัวเจ้าชู้ไปซะงั้น
เรื่องนี้เองที่ตอนหลังพรรคพวกที่ไม่มีพญาเต่าเรือนหลวงพ่อสนิท
มันมาขอพญาเต่าเรือนจากข้าพเจ้า จนทุกวันนี้เหลือแค่ตัวเดียว
ขอบคุณภาพจาก เพจ สืบสานวัตถุมงคล หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก
ภาพพญาเด่าเรือน เป็นพญาเต่าเรือน ล.พ.สนิท ตัวใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือ ที่ข้าพเจ้ายังเก็บไว้ในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น