วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2566

หลวงพ่อกับของวิเศษ ประสบการณ์วัตถุมงคล .1

 เรื่องประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงปู่แก้ว สุวณฺณโชโต วัดช่องลม 

พระเทพสาครมุนี วัดสุทธิวาตวราราม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จ.สมุทรสาคร


 พระเทพสาครมุนี วัดสุทธิวาตวราราม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จ.สมุทรสาคร

หลวงพ่อกับของวิเศษ

หลวงปู่แก้ว วัดช่องลม จ.สมุทรสาคร

  ระลึกอดีต...เล่าเรื่องประสบการณ์วัตถุมงคล

  สมัยที่ข้าพเจ้าเป็นวัยรุ่น ก็ 50 ปีบวกลบเล็กน้อย ในตอนนั้นชอบเสาะหาวัตถุมงคลประเภทบู๊ๆหนังเหนียว และวัตถุมงคลทางเมตตาหานิยมมหาเสน่ห์ พอได้มาแต่ละอย่างก็อาราธนาแขวนคอแบบเดี่ยวๆไปเลย แถมยังมีเลือกใช้ตามสถานการณ์ด้วย คือ ถ้าเป็นช่วงที่ต้องเสี่ยงฝ่าดงตีนหรืออาจมีการยกพวกตีกัน ก็แขวนพระที่เชื่อว่าหนังเหนียว ถ้าจะไปจีบสาวก็เปลี่ยนเป็นวัตถุมงคลทางมหานิยมมหาเสน่ห์ เรียกได้ว่าแขวนเดี่ยวองค์เดียวจะได้รู้ชัดๆว่าวัตถุมงคลอนี้ขลังจริงหรือไม่ ก็มีประสบการณ์ดีจริงบ้าง กับมีบางอาจารย์ที่ต้องเลิกพกติดตัวประมาณว่าไม่ดีจริง และยังมีบ้างที่พบว่า ที่ในหนังสือพระเขาบอกว่ายอดเยี่ยมทางนั้นทางนี้นั้น มันไม่ใช่เลย แต่ไปดีทางด้านอื่น เช่นข่าวว่าดีทางเจ้าชู้ แต่พอทดลองใช้กลับดีทางแคล้วคลาด ที่ว่าหนังเหนียว แต่โดนตีหัวแตกซะงั้นต่อมาเมื่อข้าพเจ้ามีอายุมากขึ้น ถึงค่อยเข้าใจว่าเรื่องที่เขาพรีเซ้นต์กันนั้น ที่แท้เป็นแนวทางประชาสัมพันธ์ตามสมัยนิยมนั่นเอง

  ตอนที่เรียนมัธยมต้นและข้ามไปถึงช่วงเรียนช่างกล ข้าพเจ้าพบว่าพระสมเด็จแก้วสุทธิของหลวงปู่แก้ววัดช่องลมนั้นดีทางเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์จริงๆ ดีจนต้องอาราธนาแขวนคอองค์เดียวอยู่หลายปี มาถอดออกก็เพราะว่าพระเริ่มมีเนื้อกระเทาะและละลายตามขอบพระ สาเหตุเพราะไปเที่ยวสงกรานต์และแอ่วสาวเมืองเหนือในช่วงสงกรานต์ พระโดนน้ำที่เล่นสงกรานต์จนเริ่มกระเทาะ ข้าพเจ้ากลัวเนื้อพระจะเปื่อยชำรุด เลยถอดออกตั้งแต่นั้นมา และจำฝังใจว่าพระรุ่นนี้ของหลวงปู่แก้วนี้ มีเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ชั้นสุดยอดองค์หนึ่งที่เคยพบมา หลังจากนั้นมาจนถึงปัจจุบัน ข้าพเจ้าพบวัตถุมงคลทางเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ ที่เทียบชั้นหลวงปู่แก้วได้ไม่กี่หลวงพ่อ(จะเล่าในตอนต่อๆไป) ส่วนมากเทียบพระสมเด็จแก้วสุทธิของท่านไม่ได้เลย

  เมตตามหานิยมมหาเสน่ห์แบบของหลวงปู่แก้วนั้น จะไม่ใช่แบบเสน่ห์สะกดให้ผู้หญิงหลงยอมให้เราอึ๊บๆมีเพศสัมพันธ์ง่ายๆอะไรอย่างนั้น มหาเสน่ห์แบบของท่านออกไปในทางเป็นที่นิยมรักใคร่รับไมตรีมีไมตรีต่อกันได้ง่ายขึ้น จากนั้นเราก็ค่อยๆจีบสานความรักต่อไป หึๆๆๆ

  ประสบการณ์ทางเมตตามหานิยมในช่วงที่อาราธนาพระสมเด็จแก้วสุทธิติดตัว จะขอเล่าตามความทรงจำ เล่าบางเรื่องนะ

  ตอนเรียนมัธยมต้นตอนนั้นเริ่มแตกเนื้อหนุ่ม ก็อาราธนาพระสมเด็จแก้วสุทธิเลี่ยมสแตนเลสติดตัวแค่องค์เดียว และในเมื่อเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม เพื่อนๆในกลุ่มรวมทั้งข้าพเจ้าก็เริ่มริอ่านจีบหญิง จีบนักเรียนหญิงต่างห้องกันเป็นที่ครึกครื้น ข้าพเจ้าออกจะยังอายๆไม่ค่อยกล้าเท่าพวกเพื่อนๆ แต่ค่อยๆสังเกตเห็นว่า เอ..ตอนที่ไปกับเพื่อนร่วมแกงค์ไปแซวหญิงนั้น ผู้หญิงมักจะชวนข้าพเจ้าคุยก่อนอยู่เสมอ บางทีก็เหมือนบังเอิญได้กลับบ้านด้วยกันได้ไงก็ไม่รู้ คือตอนรอรถสองแถวมักจะเจอกันบ่อยๆ และเจอหญิงหลายคนสลับกันไปตามช่วงเวลา แถมตอนลงรถยังชิงตัดหน้าออกค่ารถให้ข้าพเจ้าบ่อยครั้ง ต่อมาก็นัดกันไปเที่ยว สมัยนั้นต้องไปเที่ยวราชดำริอาเขต ส่วนสยามสแควร์นั่นมาดังทีหลัง ฮิตฮอตสุดๆต้องราชดำริอาเขต 

พระสมเด็จแก้วสุทธิ องค์ประสพการณ์

ด้านหลัง

   ข้าพเจ้าแอบควงเพื่อนนักเรียนหญิงสลับกันไปเที่ยว แต่ความเป็นวัยรุ่นใหม่ๆและทางบ้านอบรมมาดี ก็เลยควงหญิงโดยไม่มีอะไรเลยเถิดเกินงาม แค่เดินคล้องแขนกันแค่นี้ ไอ้พวกเพื่อนๆก็อิจฉากันตัยห่ะแล้ว

  ความที่มีนักเรียนหญิงหลายคนมาชอบคุยกับข้าพเจ้าง่ายๆ มีไมตรียิ้มหวานมันแปลกจนข้าพเจ้าเอะใจ มิหนำซ้ำพวกเธอยังไม่รู้จักกันด้วย เลยไม่มีกรณีรถไฟชนกัน คำว่าพวกเธอนี้ถ้านับเฉพาะที่เคยไปเที่ยวด้วยกันบ่อยก็มีอยู่...เดี๋ยว นึกก่อน...1,2,3,4 อ้อ  5 คนที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน และอีก 2คนอยู่โรงเรียนอื่น นี่เฉพาะตอนเรียนมัธยม

  พอเรียนช่างกลชั้น ป.ว.ช. ที่นี้ก็จีบสาวพาณิชย์ สาวโรงรียนสตรี สาวโรงเรียนการเรือน และที่แปลกสุดก็คือ สาวแถวบ้านที่อยากจะจีบมาตั้งหลายปีแล้ว เห็นน้องตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนผูกคอซองประถมปลาย ตอนนั้นยังเห็นน้องเป็นเด็กเป็นเล็ก ยังไม่สนใจ ข้าพเจ้ามาปิ๊งตอนน้องเรียนมัธยมแล้วข้าพเจ้าเรียนช่างกล

  วันหนึ่งเห็นน้องเดินอยู่อีกฝั่งถนน ตอนนั้นคิดพิเรนทร์เอามือจับระสมเด็จแก้วสุทธิขึ้นมาว่า หลวงพ่อผมอยากคุยกับน้องคนนี้จังเลย อยู่แถวบ้านแท้ๆแต่ไม่เคยคุยกัน แล้วก็ขำตัวเอง

   สาวรุ่นน้องคนนี้สวยน่ารักมาก  เห็นกันรู้จักหน้ากันว่าเป็นคนแถวบ้าน แต่ไม่มีเหตุให้ได้รู้จักกันจริงๆจังๆ ประมาณว่าเป็นแค่คนคุ้นหน้าบางเดียวกันเฉยๆ แต่แล้วพอข้าพเจ้าอาราธนาพระองค์นี้ติดตัว ก็มีเหตุบังเอิญให้ได้คุยกัน..แหม มันเหมือนนิยายน้ำเน่าจริงๆ คือ

  วันหนึ่งข้าพเจ้าจะไปวิทยาลัยเร็วกว่าปกติตามที่อาจารย์สั่งธุระ ทีแรกจะขึ้นรถเป้ายหน้าบ้าน แต่อยู่ๆก็นึกอยากเดินไปขึ้นรถอีกป้ายหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ใช้ป้ายนี้ ก็รีบไปที่ป้ายรถเมล์ ตอนเดินไปสักครู่ยังคิดอยู่เลยว่าเราเดินมาทำไมวะ พอรถเมล์มาจอดก็มีนักเรียนสาววิ่งมาจากด้านหลังข้าพเจ้า แล้วรีบก้าวขึ้นรถซึ่งมีคนแน่น ข้าพเจ้าเกาะราวบันใดรถเมล์แบบที่วัยรุ่นยุคนั้นชอบทำกัน พอรถเมล์ออกตัวกระชากเร็วไปหน่อย นักเรียนสาวก็ร่วงลงมาตกจากรถ ข้าพเจ้ารีบคว้าเอวมากอดช่วยไว้ได้ พอมองดูก็ร้องว่า..อ้าว น้องเอง ส่วนน้องก็มองแล้วว่า..อ้าว พี่เอง แล้วน้องก็ขอบคุณที่ช่วยไม่ให้ตกจากรถ วันนั้นเลยไปส่งน้องถึงโรงเรียนได้ไงก็ไม่รู้ หลังจากนั้นก็ได้รู้จักกันจริงๆจังเสียที ต่อมาได้ไปคุยกับน้องถึงในบ้าน มีความสัมพันธ์ที่ดีตลอดมา ข้าพเจ้ายังนึกแบบงมงายเลยว่าเหตุการณ์วันนี้เป็นการดลใจของหลวงพ่อแก้ว ให้เราเดินมาตรงนี้แน่ๆ พระของหลวงพ่อแก้วดีจริงๆ

  ต่อมากก็มีประสบการณ์ทางเมตตามหานิยมรู้จักสาวๆได้ง่าย จนกระทั่งไปเที่ยวสงกรานต์เมืองเหนือ ไปแอ่วสาว 2 คน แล้วพระสมเด็จแก้วสุทธิเปียกน้ำจนเนื้อพระละลาย ก็เลยถอดพระเก็บไว้บนหิ้ง แล้วชีวิตช่วงต่อจากนั้น เป็นช่วงวัยฝ่าดงตีน จึงเปลี่ยนไปแขวนพระหลวงพ่อองค์อื่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องหนังเหนียวคุ้มครอง ข้าพเจ้าผ่านการตีรันฟันแทงหลายครั้ง มีทั้งเลือดหัวกระจาย และคงกระพันหนังเหนียวของจริง

  พระสมเด็จแก้วสุทธิของหลวงปู่แก้ววัดช่องลม ท่าฉลอม ที่ข้าพเจ้าพบประสบการณ์สุดยอดเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ ก็คือองค์ตามรูปนี่แหละ ยังเก็บไว้เป็นที่ระลึกจนถึงเดี๋ยวนี้

  เล่าเรื่องอภินิหารพระสมเด็จแก้วสุทธิของหลวงปู่แก้ว แล้วทำให้หวนระลึกถึงพวกเธอสาวๆในเรื่อง ยังระลึกถึงความทรงจำดีๆในครั้งนั้น





















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น