วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568

หลวงพ่อกับของวิเศษ 12.หลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ.4

 


หลวงพ่อพรหม ติสฺสเทโว วัดขนอนเหนือ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

หลวงพ่อพรหมกับกระดาษม้วนเล็กๆม้วนหนึ่ง

  วันนี้วันครูของปี พ.ศ.2568 ระลึกถึงครูอาจารย์ทั้งพระทั้งฆราวาส อยู่ๆก็ระลึกถึงหลวงพ่อพรหม ติสฺสเทโว วัดขนอนเหนือ ระลึกถึงความเมตตาของหลวงพ่อพรหมที่มีต่อลูกศิษย์ และท่านเมตตาไปถึงผู้ที่ยังไม่ได้เป็นศิษย์ รวมถึงผู้ที่กำลังจะเป็นลูกศิษย์

  วันหนึ่งของราวๆ 40 ปีก่อน ข้าพเจ้าแวะไปกราบหลวงพ่อพรหมที่กุฏิ นั่งสนทนาสัพเพเหระกับท่านไปเรื่อยๆ แล้วก็มีลูกศิษย์หลวงพ่อแวะเข้ามากราบท่าน ทั้งร่วมวงสนทนากันแบบบ้านๆ ศิษย์ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนต่างคุยกันอย่างสนิทสนม หลวงพ่อท่านก็รินน้ำชาให้ข้าพเจ้ายกไปแจกเหล่าลูกศิษย์

  ระหว่างที่กลุ่มลูกศิษย์สนทนากับหลวงพ่อนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้าประตูกุฏิแล้วค่อยๆหมอบคลานเข้ามานั่งด้านหลังสุด กลุ่มลูกศิษย์ต่างก็ขยับที่ให้ผู้มาใหม่ เพื่อให้เข้าไปกราบหลวงพ่อพรหมได้ เหล่าศิษย์ของหลวงพ่อพรหมมักจะปฏิบัติเช่นนี้เสมอโดยที่หลวงพ่อท่านไม่ต้องบอก

  ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่า ท่านที่เข้ามาใหม่นี้เป็นหญิงวัยกลางคน มีสีหน้าเศร้าหมองกังวล พวกศิษย์ที่มากราบหลวงพ่อพรหมก่อนหน้านี้ ต่างก็เชิญให้เข้าไปกราบสนทนากับหลวงพ่อให้ใกล้ๆ

เลขโชคที่หลวงพ่อเคยเขียนให้ข้าพเจ้า ซึ่งถูกทุกงวด


  หญิงวัยกลางคนผู้มีสีหน้าเศร้าหมองมอบคลานเข้าไปกราบหลวงพ่อแล้วนั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรกับหลวงพ่อ หลวงพ่อพรหมท่านมองๆท่านผู้นี้ อยู่ๆหลวงพ่อก็พูดขึ้นมาก่อนว่า...เออๆ...ท่านหันไปค้นกระดาษแถวนั้นมาฉีก แล้วเขึยนอะไรยุกยิกลงไป ที่แท้ท่านเขียนเลขเด็ดให้นั่นเอง

  หลวงพ่อพรหมท่านยื่นเศษกระดาษให้หญิงวัยกลางคน แล้วบอกว่า...พวกมึงดูกันเอง...ทุกคนก็ขอดูเลขมหาโชคนั้น หญิงวัยกลางคนท่านนี้ก็ให้ดู

  พอหญิงวัยกลางคนท่านนี้ก้มกราบหลวงพ่อพรหม แล้วขยับตัวถอยออกมาจะกลับ หลวงพ่อพรหมท่านเรียกไว้ว่า...รอก่อนๆอย่าเพิ่งไป...หลวงพ่อเข้าไปในห้องนอนเล็กๆของท่าน พอท่านออกมาจากห้องก็มีม้วนกระดาษหนาประมาณ 1 นิ้วฟุตกว่าๆอยู่ในมือ


  หลวงพ่อพรหมท่านยื่นม้วนกระดาษเล็กๆให้หญิงวัยกลางคนผู้มีสีหน้าเศร้าหมอง หลวงพ่อพูดว่า...เอ้า กูให้มึงไปทำทุน...แล้วหลวงพ่อก็กลับนั่งประจำที่นั่งของท่าน

  ตั้งแต่ที่หญิงวัยกลางคนผู้มีสีหน้าเศร้าหมองเข้ามาที่กุฏิ จนกระทั่งกลับออกไปนั้น ท่านผู้นี้ไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่คลานมากราบหลวงพ่อพรหมเท่านั้น

  ข้าพเจ้าจำได้แม่นถึงม้วนกระดาษเล็กๆม้วนนั้น เห็นเลยว่าเป็นธนบัตรใบละ100บาทกับ 20บาทอย่างละหลายใบ ม้วนเป็นก้อนกลมหนาประมาณ 1 นิ้วฟุตกว่าๆ ที่รู้ก็เพราะขนาดธนบัตรหรือแบงค์ไม่เท่ากัน มีสีแดงและสีเขียว ม้วนเป็นก้อนอย่างแน่นมีหนังสติ๊กรัดเอาไว้ ประมาณว่าต้องเกินกว่า 500บาทของเมื่อ 40ปีก่อน น่าจะมีถึงหนึ่งพันบาทด้วยซ้ำ

  พอหญิงวัยกลางคนท่านนี้กลับไปแล้ว ข้าพเจ้าจึงกราบเรียนสอบถามหลวงพ่อว่า หญิงวัยกลางคนผู้นี้เป็นศิษย์เก่าที่สนิทกันหรือ เพราะตั้งแต่ท่านผู้นี้เข้ามากราบหลวงพ่อ จนกระทั่งกลับไปนั้น ท่านผู้นี้ไม่ได้คุยอะไรกับหลวงพ่อเลยสักคำ ทั้งยังเห็นหลวงพ่อท่านเขียนเลขให้ แถมยังเมตตาให้เงินไปอีกจำนวนหนึ่งด้วย คำตอบของหลวงพ่อพรหมทำให้ข้าพเจ้าตื้นตันจุกในอก เพราะ...

  หลวงพ่อพรหมท่านตอบว่า...เปล่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เขาเพิ่งมาหากูเป็นครั้งแรก เขากำลังเดือดร้อนสาหัส...ท่านยังพูดอีกว่า...ถึงให้เลขไปเขาก็ไม่มีเงินซื้อเลข  แล้วเขาจะพ้นเคราะห์คอขาดบาดตายได้ยังไง กูเลยเวทนาต้องให้เงินไปซื้อ จะถูกรางวัลมีเงินไปแก้ไขเรื่องได้....ข้าพเจ้าฟังแล้วอึ้ง รู้สึกสะเทือนใจ และรู้สึกอิ่มเอิบใจไปกับความเมตตาของหลวงพ่อพรหม ติสฺสเทโว วัดขนอนเหนือ

  แน่นอนว่าหวยในงวดนั้น ออก 3 ตัวตรง ตรงกับเลขมหาโชคที่หลวงพ่อพรหมเขียนให้หญิงวัยกลางคนผู้นั้น ศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ถ้าเล่นเลขโชคก็ต้องถูกรางวัลมีเงินใช้

  ม้วนกระดาษเล็กๆม้วนแน่นจนหนา 1 นิ้ว หลวงพ่อพรหมท่านรวมจากปัจจัยที่ศิษย์ถวายคนละเล็กละน้อย เพื่อถวายหลวงพ่อไว้ใช้ส่วนตัว แต่หลวงพ่อพรหมท่านมอบให้ผู้ที่มาหาท่านเป็นครั้งแรกได้อย่างง่ายๆ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นศิษย์ท่านในขณะนั้นเลย ท่านรู้ได้ว่าผู้ที่มาหาท่านกำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ความเดือดร้อนอันจะทำให้เกิดเหตุร้ายแรงของชีวิต ท่านจึงให้โชคลาภพร้อมเงินทุนที่จะทำให้สำเร็จในโชคนั้น เพื่อให้ชีวิตเขาพ้นวิกฤตไปได้

  เรื่องนี้แสดงถึงญาณหยั่งรู้ที่สุดแสนจะฉับไวของหลวงพ่อพรหม ท่านไม่ต้องนั่งสมาธิเพ่งอะไรเลย แค่ท่านมองนิดเดียวก็รู้ต้นสายปลายเหตุของบุคคลนั้นๆแล้ว(ข้าพเจ้าเจอกับตัวเองหลายครั้ง)

  ข้าพเจ้าคิดว่า ของวิเศษที่สุดของหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือนั้น คือความเมตตากรุณาที่หลวงพ่อมีให้ศิษย์ ทั้งยังเมตตาไปถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นศิษย์ของท่านอีกด้วย


เรื่อง จากความทรงจำที่ข้าพเจ้าอยู่ในเหตุการณ์

ภาพ จากเลขโชคลายมือของหลวงพ่อที่ข้าพเจ้าเก็บรักษาไว้

ภาพหลวงพ่อพรหมจากสำเนาที่ทำต่อๆกันมา อ้างอิงได้จากหนังประวัติหลวงพ่อพรหมที่คุณธีรพล คงอาชาภัทร จัดพิมพ์





วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2568

หลวงพ่อกับของวิเศษ 11.หลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ.3

 


หลวงพ่อพรหม ติสฺสเทโว วัดขนอนเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา

เรื่อง ประสบการณ์หลวงพ่อพรหมให้ของขวัญ ปีใหม่

  วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2567 ไป พ.ศ.2568 ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน เพราะป่วยมาหลายสัปดาห์ พออยู่กับบ้านก็ระลึกอดีตไปเรื่อย นึกถึงงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เมื่อราวๆ40ปีก่อน ช่วงนั้นยังทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง มีงานเลี้ยงในวันสิ้นปีที่โรงแรมดังในกรุงเทพฯ แบบว่าบริษัทใจป้ำกล้าจัดงาน

  ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้น แน่นอนว่าต้องมีการจับสลากแจกของขวัญ ซึ่งทางบริษัทจัดเตรียมไว้ให้หลายสิบรางวัล แต่ละรางวัลไม่ใช่ขรี้ๆ ล้วนเป็นของดีมีราคา เพราะขืนทางบริษัทแจกของขวัญกิ๊กก๊อก รับรองได้ว่าเหล่าพนักงานจะรุมด่าคณะกรรมการจัดงานอย่างแน่ๆ ขนาดแค่ของชำร่วยที่ไล่แจกในงาน ถ้าดูกระจอกยังโดนด่าเลย

  ข้าพเจ้าไม่เคยขาดงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของบริษัท ก็แมร่งเล่นจัดงานที่โรงแรมดังๆทุกปี อาหารชั้นยอดโชว์ชั้นเยี่ยม ของขวัญสุดเจ๋ง...แต่ ข้าพเจ้าไม่เคยได้ของขวัญเลย ไม่เคยได้แม้แต่ครั้งเดียวจนน่าแปลกใจ เพราะทำงานมาหลายปี คนเก่าๆเขาต้องเคยได้รางวัลจากการจับสลากของขวัญบ้างสักครั้ง ในสาขาที่ข้าพเจ้าอยู่นั้น มีข้าพเจ้าเพียงคนเดียวที่ไม่เคยได้เลย ทั้งๆที่ของขวัญรางวัลโคตรเยอะ

  ปีหนึ่งของเมื่อราวๆ 40ปีก่อน ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในปีนั้นข้าพเจ้าเป็นกรรมการจัดงานกับเขาด้วย ไม่ได้นึกถึงเรื่องของขวัญรางวัลเพราะไม่เคยได้จนชินไปแล้ว ขณะที่นั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงาน บนเวทีก็มีการประกาศผู้ได้รับรางวัลของขวัญไปเรื่อยๆทีละชื่อ คือจะฉับสลากรางวัลไปเรื่อยๆเป็นระยะๆ เลขตรงกับใครก็ขึ้นไปรับของขวัญ ซึ่งก็ไม่มีชื่อข้าพเจ้า ก็เหมือนทุกๆปี

  อยู่ๆข้าพเจ้าก็นึกถึงหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ นึกแบบคุยกับท่านว่า....โอ้โฮ หลวงพ่อ..ผมอยู่บริษัทนี้มาตั้งหลายปี ยังไม่เคยได้ของขวัญงานปีใหม่อะไรกับเขาเลย หลวงพ่อเมตตาช่วยให้ผมได้ของขวัญด้วยนะ

  สักครู่โฆษกประกาศว่า ขี้เกียจประกาศทีละชื่อแล้ว เพราะเริ่มเมาเหล้ากันมาก ขอจับสลากประกาศรายชื่อรวบยอดรางวัลที่เหลือทั้งหมดเลย แล้วเรียกชื่อมารวดเดียวตามของขวัญที่เหลืออยู่สิบกว่ารางวัล ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ทั้งหมดเป็นของดีที่สุด...แล้วก็ประกาศเลขของข้าพเจ้าด้วย...ข้าพเจ้าสะดุ้ง นึกถึงหลวงพ่อพรหมทันที

คล้ายๆรุ่นนี้แต่น่าจะเก่ากว่า


  ของขวัญชุดสุดท้ายนี้ ยังไม่ประกาศว่าใครได้อะไร เพราะเสือกทำเป็นเกมว่า ให้ทุกคนลุ้นจับสลากวัดดวงด้วยตัวเองกับมือ ของขวัญราคาแพงพอๆกัน มีทั้งเหมาะกับผู้หญิงและผู้ชาย ข้าพเจ้าชอบเครื่องเสียงที่สุดฮิตในสมัยนั้นซึ่งมีอยู่รางวัลเดียวในงาน คือเครื่องเสียงโซนี่ที่เรียกว่า มินิคอมโป ส่วนรางวัลอื่นๆไม่อยากได้ไม่ถูกจริต แถมยังเป็นของขวัญแบบผู้หญิงๆด้วย ในที่สุดก็วัดดวงจับสลากกันทีละคน

  ถึงคิวข้าพเจ้าจะจับสลาก ก็ระลึกถึงหลวงพ่อพรหมว่า ไหนๆหลวงพ่อช่วยให้ผมได้มีโอกาสรับของขวัญในงานเลี้ยงบริษัท ก็ขอเป็นชุดเครื่องเสียงนะครับ อย่าให้ได้พวกน้ำหงน้ำหอมอะไรเลย (รางวัลน้ำหอมแพงๆมีหลายรางวัล โอกาสจับฉลากโดนมีเยอะมาก)) ขณะนั้นก็แอบเอามือทาบตรงหน้าอกที่มีเหรียญหลวงพ่อพรหมรุ่นนารายณ์ปี 09 แล้วล้วงลงไปในกล่องสลาก

  ขณะที่ล้วงลงไปในกล่องใส่สลากนั้นเอง ยังไม่ทันที่มือจะถึงก้นกล่อง อยู่ๆก็รู้สึกว่ามีอะไรเด้งลอยขึ้นมาติดฝ่ามือที่กางอยู่ ข้าพเจ้าจึงกำเอาไว้แล้วดึงมือออกจากกล่อง พอแบมือดูก็เป็นสลากหมายเลขของขวัญ ปรากฏว่าของขวัญชิ้นนั้นก็คือ ชุดมินิคอมโปของโซนี่ที่ข้าพเจ้าอยากได้นั่นเอง


  เท่ากับว่าข้าพเจ้าไม่ได้จับเลขรางวัล เพราะยังไม่ทันที่มือจะล้วงลงไปถึงกองกระดาษหมายเลขที่ม้วนอยู่ แต่กระดาษสลากรางวัลนั้น กลับลอยขึ้นมาติดฝ่ามือข้าพเจ้า...แบบนี้เจออภินิหารแบบจะๆตรงๆของหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือว่า ท่านให้ของขวัญปีใหม่

  วันปีใหม่ ข้าพเจ้าขับรถไปกราบหลวงพ่อพรหมที่วัด พอก้มกราบท่านเท่านั้น ท่านอมยิ้มพูดว่า...สมใจมึงแล้วมั๊ยล่ะ...ข้าพเจ้ารีบกราบหลวงพ่อพรหม ยิ้มแต้บอกท่านว่า..สมใจมากๆเลยครับ.. แล้วนึกว่า เราโชคดีมากๆที่ได้พบได้เป็นศิษย์ของ..หลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ


ของขวัญปีใหม่อีกปีหนึ่ง

  ปีหนึ่งซึ่งจำไม่ได้ว่าก่อนที่ข้าพเจ้าได้รางวัลหรือหลังปีนั้น จำได้แค่ว่า  ในตอนเช้าวันสิ้นปีได้ไปกราบหลวงพ่อพรหม ระหว่างที่นั่งสนทนากับท่าน มีศิษย์ทยอยมากราบขอพรในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันมาก จนกระทั่งถึงเวลาที่หลวงพ่อจะฉันเพล ท่านก็ว่า...เดี๋ยวพวกมึงอยู่กินข้าวพระกันก่อนนะ

  ข้าพเจ้ามีธุระจะต้องรีบกลับ จะรอรับประทานอาหารคงจะกลับไม่ทันธุระ ขณะนั้นหลวงพ่อเริ่มก้าวจะเดินแล้ว ข้าพเจ้าจึงจับชายจีวรหลวงพ่อแล้วขอท่านว่า...หลวงพ่อ ผมขอเช็คไปให้แม่ด้วย...ท่านก็หัวเราะหึๆตามสไตล์ท่านว่า...ปู้โธ่ มึงไม่บอกตั้งแต่แรก เอ้า กูให้ไปทีเดียวดูกันเอง....พวกศิษย์ที่นั่งอยู่ต่างยิ้มดีใจ

 หลวงพ่อหันกลับไปฉีกเศษกระดาษมาเขียนเลข 2 ตัว ยื่นให้ข้าพเจ้า แล้วท่านเดินไปหอฉัน พวกศิษย์ต่างขอจดเลขกันไปแบบแฮปปี้สุดๆ หลายคนบอกว่าไม่รู้เลยว่าหลวงพ่อให้เลขได้ด้วย

บางทีท่านเขียนเลขมาแบบนี้ ศิษย์จะรู้ว่าท่านให้ตัวไหน


  วันนั้นข้าพเจ้าขอเลขไปให้แม่จริงๆ ศิษย์รุ่นเก่าจะรู้กันว่า ถ้าบอกหลวงพ่อว่า..ขอเช็ค..นั้นคือขออะไร และในที่สุดหวยปีใหม่ของปีนั้น ก็ออกมาตรงตามที่หลวงพ่อท่านให้มา ราวกับว่าท่านให้เช็คไปเบิกเงินกันเอาเอง..แม่ข้าพเจ้าถูกหวยในงวดนี้

  นี่คือเรื่องของขวัญปีใหม่ของหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ ที่ท่านเมตตามอบให้ศิษย์

ภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทาน


ป.ล. สำหรับท่านที่ไม่มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อ และอยากได้ภาพของหลวงพ่อไว้บูชา ข้าพเจ้าขอเล่าเรื่องภาพหลวงพ่อพรหมรับสังฆทานให้ฟัง

  ว้นหนึ่งได้ไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อพรหม เมื่อถวายสังฆทานแล้วได้ขออนุญาติถ่ายภาพท่าน หลวงพ่อพรหมท่านว่า...เอ้า มึงถ่ายภาพกูให้สวยไปเลยนะ...แล้วหลวงพ่อก็ให้พรรับสังฆทานก่อน แล้วท่านนั่งยิ้มให้ข้าพเจ้าถ่ายภาพ ใช้กล้องฟิมล์ ASAHI PENTEX รุ่น SPOTMATIC

  ข้าพเจ้าถ่ายภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทานไว้หลายภาพ พอถ่ายภาพเสร็จปรากฏว่า...หลวงพ่อท่านยังนั่งยิ้มนั่งนิ่งไม่กระคุกกระดิกอยู่จนนานเกิน 5 นาที จนข้าพเจ้าสงสัย จึงเข้าไปนั่งดูใกล้ๆขนาดชิดตัวท่าน หลวงพ่อก็ยังนั่งยิ้มๆนิ่งอยู่อย่างนั้น

  ข้าพเจ้าเข้าใจได้ในทันทีว่า...หลวงพ่อพรหมท่านเข้าสมาธิเข้าฌานอธิษฐานจิตให้ไว้ในการถ่ายภาพครั้งนี้แล้ว ภาพนี้จึงเป็นของวิเศษที่ท่านมอบให้ศิษย์ทั้งหลาย สามารถอัดภาพทำสำเนาต่อๆไปได้ เพราะท่านกำหนดอธิษฐานจิตไว้ในรูปนามดังภาพนี้แล้ว

  หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็จับแขนหลวงพ่อแล้วเขย่าๆเบาๆอยู่สักพัก หลวงพ่อท่านก็ถอนสมาธิ

  เมื่อข้าพเจ้าอัดภาพนี้ไปขอให้หลวงพ่อลงจารให้ โดยนำไป 2 ใบ ท่านก็ว่า..เออๆ ภาพนี้ดีแล้ว..ท่านหยิบปากกาเมจิกมาจารให้ ภาพที่มีกรอบกระดาษท่านจารให้ดังรูป ส่วนอีกภาพท่านจารไว้ที่ด้านหลังภาพ ข้าพเจ้าเก็บรักษาไว้จนบัดนี้

  ภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทาน ทุกท่านสามารถอัดสำเนา หรือโหลดไฟล์ไปปริ๊นต์ภาพ แล้วอธิษฐานถึงหลวงพ่อพรหม เท่านี้ก็มีภาพหลวงพ่อพรหมไว้เป็นศิริมงคลยิ่ง

เรื่อง จากความทรงจำ

ภาพ หลวงพ่อพรหมรับสังฆทาน เป็นภาพที่ข้าพเจ้าถ่ายไว้เอง

       ภาพอื่นๆจากรูปที่เคยติดไว้ในกรอบที่กุฏิบ้าง และมีในหนังสือเล่มม่วงทึ่คุณธีรพล คงอาชาภัทรจัดพิมพ์ ภาพเก่าส่วนมากหาต้นตอเจ้าของภาพไม่เจอแล้ว