หลวงพ่อพรหม ติสฺสเทโว วัดขนอนเหนือ
จ.พระนครศรีอยุธยา
เรื่อง ประสบการณ์หลวงพ่อพรหมให้ของขวัญ
ปีใหม่
วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2567 ไป พ.ศ.2568 ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน เพราะป่วยมาหลายสัปดาห์
พออยู่กับบ้านก็ระลึกอดีตไปเรื่อย นึกถึงงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เมื่อราวๆ40ปีก่อน
ช่วงนั้นยังทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง มีงานเลี้ยงในวันสิ้นปีที่โรงแรมดังในกรุงเทพฯ
แบบว่าบริษัทใจป้ำกล้าจัดงาน
ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้น
แน่นอนว่าต้องมีการจับสลากแจกของขวัญ ซึ่งทางบริษัทจัดเตรียมไว้ให้หลายสิบรางวัล
แต่ละรางวัลไม่ใช่ขรี้ๆ ล้วนเป็นของดีมีราคา เพราะขืนทางบริษัทแจกของขวัญกิ๊กก๊อก
รับรองได้ว่าเหล่าพนักงานจะรุมด่าคณะกรรมการจัดงานอย่างแน่ๆ
ขนาดแค่ของชำร่วยที่ไล่แจกในงาน ถ้าดูกระจอกยังโดนด่าเลย
ข้าพเจ้าไม่เคยขาดงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของบริษัท ก็แมร่งเล่นจัดงานที่โรงแรมดังๆทุกปี
อาหารชั้นยอดโชว์ชั้นเยี่ยม ของขวัญสุดเจ๋ง...แต่ ข้าพเจ้าไม่เคยได้ของขวัญเลย
ไม่เคยได้แม้แต่ครั้งเดียวจนน่าแปลกใจ เพราะทำงานมาหลายปี
คนเก่าๆเขาต้องเคยได้รางวัลจากการจับสลากของขวัญบ้างสักครั้ง ในสาขาที่ข้าพเจ้าอยู่นั้น
มีข้าพเจ้าเพียงคนเดียวที่ไม่เคยได้เลย ทั้งๆที่ของขวัญรางวัลโคตรเยอะ
ปีหนึ่งของเมื่อราวๆ 40ปีก่อน ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในปีนั้นข้าพเจ้าเป็นกรรมการจัดงานกับเขาด้วย
ไม่ได้นึกถึงเรื่องของขวัญรางวัลเพราะไม่เคยได้จนชินไปแล้ว
ขณะที่นั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงาน
บนเวทีก็มีการประกาศผู้ได้รับรางวัลของขวัญไปเรื่อยๆทีละชื่อ
คือจะฉับสลากรางวัลไปเรื่อยๆเป็นระยะๆ เลขตรงกับใครก็ขึ้นไปรับของขวัญ
ซึ่งก็ไม่มีชื่อข้าพเจ้า ก็เหมือนทุกๆปี
อยู่ๆข้าพเจ้าก็นึกถึงหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ
นึกแบบคุยกับท่านว่า....โอ้โฮ หลวงพ่อ..ผมอยู่บริษัทนี้มาตั้งหลายปี ยังไม่เคยได้ของขวัญงานปีใหม่อะไรกับเขาเลย
หลวงพ่อเมตตาช่วยให้ผมได้ของขวัญด้วยนะ
สักครู่โฆษกประกาศว่า ขี้เกียจประกาศทีละชื่อแล้ว เพราะเริ่มเมาเหล้ากันมาก
ขอจับสลากประกาศรายชื่อรวบยอดรางวัลที่เหลือทั้งหมดเลย
แล้วเรียกชื่อมารวดเดียวตามของขวัญที่เหลืออยู่สิบกว่ารางวัล
ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ทั้งหมดเป็นของดีที่สุด...แล้วก็ประกาศเลขของข้าพเจ้าด้วย...ข้าพเจ้าสะดุ้ง
นึกถึงหลวงพ่อพรหมทันที
คล้ายๆรุ่นนี้แต่น่าจะเก่ากว่า |
ของขวัญชุดสุดท้ายนี้ ยังไม่ประกาศว่าใครได้อะไร เพราะเสือกทำเป็นเกมว่า
ให้ทุกคนลุ้นจับสลากวัดดวงด้วยตัวเองกับมือ ของขวัญราคาแพงพอๆกัน
มีทั้งเหมาะกับผู้หญิงและผู้ชาย
ข้าพเจ้าชอบเครื่องเสียงที่สุดฮิตในสมัยนั้นซึ่งมีอยู่รางวัลเดียวในงาน
คือเครื่องเสียงโซนี่ที่เรียกว่า มินิคอมโป ส่วนรางวัลอื่นๆไม่อยากได้ไม่ถูกจริต แถมยังเป็นของขวัญแบบผู้หญิงๆด้วย
ในที่สุดก็วัดดวงจับสลากกันทีละคน
ถึงคิวข้าพเจ้าจะจับสลาก ก็ระลึกถึงหลวงพ่อพรหมว่า
ไหนๆหลวงพ่อช่วยให้ผมได้มีโอกาสรับของขวัญในงานเลี้ยงบริษัท
ก็ขอเป็นชุดเครื่องเสียงนะครับ อย่าให้ได้พวกน้ำหงน้ำหอมอะไรเลย
(รางวัลน้ำหอมแพงๆมีหลายรางวัล โอกาสจับฉลากโดนมีเยอะมาก))
ขณะนั้นก็แอบเอามือทาบตรงหน้าอกที่มีเหรียญหลวงพ่อพรหมรุ่นนารายณ์ปี 09
แล้วล้วงลงไปในกล่องสลาก
ขณะที่ล้วงลงไปในกล่องใส่สลากนั้นเอง ยังไม่ทันที่มือจะถึงก้นกล่อง
อยู่ๆก็รู้สึกว่ามีอะไรเด้งลอยขึ้นมาติดฝ่ามือที่กางอยู่ ข้าพเจ้าจึงกำเอาไว้แล้วดึงมือออกจากกล่อง
พอแบมือดูก็เป็นสลากหมายเลขของขวัญ ปรากฏว่าของขวัญชิ้นนั้นก็คือ ชุดมินิคอมโปของโซนี่ที่ข้าพเจ้าอยากได้นั่นเอง
เท่ากับว่าข้าพเจ้าไม่ได้จับเลขรางวัล
เพราะยังไม่ทันที่มือจะล้วงลงไปถึงกองกระดาษหมายเลขที่ม้วนอยู่
แต่กระดาษสลากรางวัลนั้น กลับลอยขึ้นมาติดฝ่ามือข้าพเจ้า...แบบนี้เจออภินิหารแบบจะๆตรงๆของหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือว่า
ท่านให้ของขวัญปีใหม่
วันปีใหม่ ข้าพเจ้าขับรถไปกราบหลวงพ่อพรหมที่วัด พอก้มกราบท่านเท่านั้น
ท่านอมยิ้มพูดว่า...สมใจมึงแล้วมั๊ยล่ะ...ข้าพเจ้ารีบกราบหลวงพ่อพรหม
ยิ้มแต้บอกท่านว่า..สมใจมากๆเลยครับ.. แล้วนึกว่า เราโชคดีมากๆที่ได้พบได้เป็นศิษย์ของ..หลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ
ของขวัญปีใหม่อีกปีหนึ่ง
ปีหนึ่งซึ่งจำไม่ได้ว่าก่อนที่ข้าพเจ้าได้รางวัลหรือหลังปีนั้น
จำได้แค่ว่า ในตอนเช้าวันสิ้นปีได้ไปกราบหลวงพ่อพรหม
ระหว่างที่นั่งสนทนากับท่าน มีศิษย์ทยอยมากราบขอพรในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันมาก จนกระทั่งถึงเวลาที่หลวงพ่อจะฉันเพล
ท่านก็ว่า...เดี๋ยวพวกมึงอยู่กินข้าวพระกันก่อนนะ
ข้าพเจ้ามีธุระจะต้องรีบกลับ จะรอรับประทานอาหารคงจะกลับไม่ทันธุระ
ขณะนั้นหลวงพ่อเริ่มก้าวจะเดินแล้ว
ข้าพเจ้าจึงจับชายจีวรหลวงพ่อแล้วขอท่านว่า...หลวงพ่อ
ผมขอเช็คไปให้แม่ด้วย...ท่านก็หัวเราะหึๆตามสไตล์ท่านว่า...ปู้โธ่
มึงไม่บอกตั้งแต่แรก เอ้า
กูให้ไปทีเดียวดูกันเอง....พวกศิษย์ที่นั่งอยู่ต่างยิ้มดีใจ
หลวงพ่อหันกลับไปฉีกเศษกระดาษมาเขียนเลข 2 ตัว
ยื่นให้ข้าพเจ้า แล้วท่านเดินไปหอฉัน พวกศิษย์ต่างขอจดเลขกันไปแบบแฮปปี้สุดๆ
หลายคนบอกว่าไม่รู้เลยว่าหลวงพ่อให้เลขได้ด้วย
บางทีท่านเขียนเลขมาแบบนี้ ศิษย์จะรู้ว่าท่านให้ตัวไหน |
วันนั้นข้าพเจ้าขอเลขไปให้แม่จริงๆ ศิษย์รุ่นเก่าจะรู้กันว่า
ถ้าบอกหลวงพ่อว่า..ขอเช็ค..นั้นคือขออะไร และในที่สุดหวยปีใหม่ของปีนั้น
ก็ออกมาตรงตามที่หลวงพ่อท่านให้มา ราวกับว่าท่านให้เช็คไปเบิกเงินกันเอาเอง..แม่ข้าพเจ้าถูกหวยในงวดนี้
นี่คือเรื่องของขวัญปีใหม่ของหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ ที่ท่านเมตตามอบให้ศิษย์
ภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทาน |
ป.ล. สำหรับท่านที่ไม่มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อ และอยากได้ภาพของหลวงพ่อไว้บูชา ข้าพเจ้าขอเล่าเรื่องภาพหลวงพ่อพรหมรับสังฆทานให้ฟัง
ว้นหนึ่งได้ไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อพรหม เมื่อถวายสังฆทานแล้วได้ขออนุญาติถ่ายภาพท่าน หลวงพ่อพรหมท่านว่า...เอ้า มึงถ่ายภาพกูให้สวยไปเลยนะ...แล้วหลวงพ่อก็ให้พรรับสังฆทานก่อน แล้วท่านนั่งยิ้มให้ข้าพเจ้าถ่ายภาพ ใช้กล้องฟิมล์ ASAHI PENTEX รุ่น SPOTMATIC
ข้าพเจ้าถ่ายภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทานไว้หลายภาพ พอถ่ายภาพเสร็จปรากฏว่า...หลวงพ่อท่านยังนั่งยิ้มนั่งนิ่งไม่กระคุกกระดิกอยู่จนนานเกิน 5 นาที จนข้าพเจ้าสงสัย จึงเข้าไปนั่งดูใกล้ๆขนาดชิดตัวท่าน หลวงพ่อก็ยังนั่งยิ้มๆนิ่งอยู่อย่างนั้น
ข้าพเจ้าเข้าใจได้ในทันทีว่า...หลวงพ่อพรหมท่านเข้าสมาธิเข้าฌานอธิษฐานจิตให้ไว้ในการถ่ายภาพครั้งนี้แล้ว ภาพนี้จึงเป็นของวิเศษที่ท่านมอบให้ศิษย์ทั้งหลาย สามารถอัดภาพทำสำเนาต่อๆไปได้ เพราะท่านกำหนดอธิษฐานจิตไว้ในรูปนามดังภาพนี้แล้ว
หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็จับแขนหลวงพ่อแล้วเขย่าๆเบาๆอยู่สักพัก หลวงพ่อท่านก็ถอนสมาธิ
เมื่อข้าพเจ้าอัดภาพนี้ไปขอให้หลวงพ่อลงจารให้ โดยนำไป 2 ใบ ท่านก็ว่า..เออๆ ภาพนี้ดีแล้ว..ท่านหยิบปากกาเมจิกมาจารให้ ภาพที่มีกรอบกระดาษท่านจารให้ดังรูป ส่วนอีกภาพท่านจารไว้ที่ด้านหลังภาพ ข้าพเจ้าเก็บรักษาไว้จนบัดนี้
ภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทาน ทุกท่านสามารถอัดสำเนา หรือโหลดไฟล์ไปปริ๊นต์ภาพ แล้วอธิษฐานถึงหลวงพ่อพรหม เท่านี้ก็มีภาพหลวงพ่อพรหมไว้เป็นศิริมงคลยิ่ง
เรื่อง จากความทรงจำ
ภาพ หลวงพ่อพรหมรับสังฆทาน เป็นภาพที่ข้าพเจ้าถ่ายไว้เอง
ภาพอื่นๆจากรูปที่เคยติดไว้ในกรอบที่กุฏิบ้าง และมีในหนังสือเล่มม่วงทึ่คุณธีรพล คงอาชาภัทรจัดพิมพ์ ภาพเก่าส่วนมากหาต้นตอเจ้าของภาพไม่เจอแล้ว
ตามมาอ่านครับคุณอา จากร้านนาฬิกาครับ
ตอบลบ