วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2568

หลวงพ่อกับของวิเศษ 11.หลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ.3

 


หลวงพ่อพรหม ติสฺสเทโว วัดขนอนเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา

เรื่อง ประสบการณ์หลวงพ่อพรหมให้ของขวัญ ปีใหม่

  วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2567 ไป พ.ศ.2568 ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน เพราะป่วยมาหลายสัปดาห์ พออยู่กับบ้านก็ระลึกอดีตไปเรื่อย นึกถึงงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เมื่อราวๆ40ปีก่อน ช่วงนั้นยังทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง มีงานเลี้ยงในวันสิ้นปีที่โรงแรมดังในกรุงเทพฯ แบบว่าบริษัทใจป้ำกล้าจัดงาน

  ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้น แน่นอนว่าต้องมีการจับสลากแจกของขวัญ ซึ่งทางบริษัทจัดเตรียมไว้ให้หลายสิบรางวัล แต่ละรางวัลไม่ใช่ขรี้ๆ ล้วนเป็นของดีมีราคา เพราะขืนทางบริษัทแจกของขวัญกิ๊กก๊อก รับรองได้ว่าเหล่าพนักงานจะรุมด่าคณะกรรมการจัดงานอย่างแน่ๆ ขนาดแค่ของชำร่วยที่ไล่แจกในงาน ถ้าดูกระจอกยังโดนด่าเลย

  ข้าพเจ้าไม่เคยขาดงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของบริษัท ก็แมร่งเล่นจัดงานที่โรงแรมดังๆทุกปี อาหารชั้นยอดโชว์ชั้นเยี่ยม ของขวัญสุดเจ๋ง...แต่ ข้าพเจ้าไม่เคยได้ของขวัญเลย ไม่เคยได้แม้แต่ครั้งเดียวจนน่าแปลกใจ เพราะทำงานมาหลายปี คนเก่าๆเขาต้องเคยได้รางวัลจากการจับสลากของขวัญบ้างสักครั้ง ในสาขาที่ข้าพเจ้าอยู่นั้น มีข้าพเจ้าเพียงคนเดียวที่ไม่เคยได้เลย ทั้งๆที่ของขวัญรางวัลโคตรเยอะ

  ปีหนึ่งของเมื่อราวๆ 40ปีก่อน ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในปีนั้นข้าพเจ้าเป็นกรรมการจัดงานกับเขาด้วย ไม่ได้นึกถึงเรื่องของขวัญรางวัลเพราะไม่เคยได้จนชินไปแล้ว ขณะที่นั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงาน บนเวทีก็มีการประกาศผู้ได้รับรางวัลของขวัญไปเรื่อยๆทีละชื่อ คือจะฉับสลากรางวัลไปเรื่อยๆเป็นระยะๆ เลขตรงกับใครก็ขึ้นไปรับของขวัญ ซึ่งก็ไม่มีชื่อข้าพเจ้า ก็เหมือนทุกๆปี

  อยู่ๆข้าพเจ้าก็นึกถึงหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ นึกแบบคุยกับท่านว่า....โอ้โฮ หลวงพ่อ..ผมอยู่บริษัทนี้มาตั้งหลายปี ยังไม่เคยได้ของขวัญงานปีใหม่อะไรกับเขาเลย หลวงพ่อเมตตาช่วยให้ผมได้ของขวัญด้วยนะ

  สักครู่โฆษกประกาศว่า ขี้เกียจประกาศทีละชื่อแล้ว เพราะเริ่มเมาเหล้ากันมาก ขอจับสลากประกาศรายชื่อรวบยอดรางวัลที่เหลือทั้งหมดเลย แล้วเรียกชื่อมารวดเดียวตามของขวัญที่เหลืออยู่สิบกว่ารางวัล ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ทั้งหมดเป็นของดีที่สุด...แล้วก็ประกาศเลขของข้าพเจ้าด้วย...ข้าพเจ้าสะดุ้ง นึกถึงหลวงพ่อพรหมทันที

คล้ายๆรุ่นนี้แต่น่าจะเก่ากว่า


  ของขวัญชุดสุดท้ายนี้ ยังไม่ประกาศว่าใครได้อะไร เพราะเสือกทำเป็นเกมว่า ให้ทุกคนลุ้นจับสลากวัดดวงด้วยตัวเองกับมือ ของขวัญราคาแพงพอๆกัน มีทั้งเหมาะกับผู้หญิงและผู้ชาย ข้าพเจ้าชอบเครื่องเสียงที่สุดฮิตในสมัยนั้นซึ่งมีอยู่รางวัลเดียวในงาน คือเครื่องเสียงโซนี่ที่เรียกว่า มินิคอมโป ส่วนรางวัลอื่นๆไม่อยากได้ไม่ถูกจริต แถมยังเป็นของขวัญแบบผู้หญิงๆด้วย ในที่สุดก็วัดดวงจับสลากกันทีละคน

  ถึงคิวข้าพเจ้าจะจับสลาก ก็ระลึกถึงหลวงพ่อพรหมว่า ไหนๆหลวงพ่อช่วยให้ผมได้มีโอกาสรับของขวัญในงานเลี้ยงบริษัท ก็ขอเป็นชุดเครื่องเสียงนะครับ อย่าให้ได้พวกน้ำหงน้ำหอมอะไรเลย (รางวัลน้ำหอมแพงๆมีหลายรางวัล โอกาสจับฉลากโดนมีเยอะมาก)) ขณะนั้นก็แอบเอามือทาบตรงหน้าอกที่มีเหรียญหลวงพ่อพรหมรุ่นนารายณ์ปี 09 แล้วล้วงลงไปในกล่องสลาก

  ขณะที่ล้วงลงไปในกล่องใส่สลากนั้นเอง ยังไม่ทันที่มือจะถึงก้นกล่อง อยู่ๆก็รู้สึกว่ามีอะไรเด้งลอยขึ้นมาติดฝ่ามือที่กางอยู่ ข้าพเจ้าจึงกำเอาไว้แล้วดึงมือออกจากกล่อง พอแบมือดูก็เป็นสลากหมายเลขของขวัญ ปรากฏว่าของขวัญชิ้นนั้นก็คือ ชุดมินิคอมโปของโซนี่ที่ข้าพเจ้าอยากได้นั่นเอง


  เท่ากับว่าข้าพเจ้าไม่ได้จับเลขรางวัล เพราะยังไม่ทันที่มือจะล้วงลงไปถึงกองกระดาษหมายเลขที่ม้วนอยู่ แต่กระดาษสลากรางวัลนั้น กลับลอยขึ้นมาติดฝ่ามือข้าพเจ้า...แบบนี้เจออภินิหารแบบจะๆตรงๆของหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือว่า ท่านให้ของขวัญปีใหม่

  วันปีใหม่ ข้าพเจ้าขับรถไปกราบหลวงพ่อพรหมที่วัด พอก้มกราบท่านเท่านั้น ท่านอมยิ้มพูดว่า...สมใจมึงแล้วมั๊ยล่ะ...ข้าพเจ้ารีบกราบหลวงพ่อพรหม ยิ้มแต้บอกท่านว่า..สมใจมากๆเลยครับ.. แล้วนึกว่า เราโชคดีมากๆที่ได้พบได้เป็นศิษย์ของ..หลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ


ของขวัญปีใหม่อีกปีหนึ่ง

  ปีหนึ่งซึ่งจำไม่ได้ว่าก่อนที่ข้าพเจ้าได้รางวัลหรือหลังปีนั้น จำได้แค่ว่า  ในตอนเช้าวันสิ้นปีได้ไปกราบหลวงพ่อพรหม ระหว่างที่นั่งสนทนากับท่าน มีศิษย์ทยอยมากราบขอพรในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันมาก จนกระทั่งถึงเวลาที่หลวงพ่อจะฉันเพล ท่านก็ว่า...เดี๋ยวพวกมึงอยู่กินข้าวพระกันก่อนนะ

  ข้าพเจ้ามีธุระจะต้องรีบกลับ จะรอรับประทานอาหารคงจะกลับไม่ทันธุระ ขณะนั้นหลวงพ่อเริ่มก้าวจะเดินแล้ว ข้าพเจ้าจึงจับชายจีวรหลวงพ่อแล้วขอท่านว่า...หลวงพ่อ ผมขอเช็คไปให้แม่ด้วย...ท่านก็หัวเราะหึๆตามสไตล์ท่านว่า...ปู้โธ่ มึงไม่บอกตั้งแต่แรก เอ้า กูให้ไปทีเดียวดูกันเอง....พวกศิษย์ที่นั่งอยู่ต่างยิ้มดีใจ

 หลวงพ่อหันกลับไปฉีกเศษกระดาษมาเขียนเลข 2 ตัว ยื่นให้ข้าพเจ้า แล้วท่านเดินไปหอฉัน พวกศิษย์ต่างขอจดเลขกันไปแบบแฮปปี้สุดๆ หลายคนบอกว่าไม่รู้เลยว่าหลวงพ่อให้เลขได้ด้วย

บางทีท่านเขียนเลขมาแบบนี้ ศิษย์จะรู้ว่าท่านให้ตัวไหน


  วันนั้นข้าพเจ้าขอเลขไปให้แม่จริงๆ ศิษย์รุ่นเก่าจะรู้กันว่า ถ้าบอกหลวงพ่อว่า..ขอเช็ค..นั้นคือขออะไร และในที่สุดหวยปีใหม่ของปีนั้น ก็ออกมาตรงตามที่หลวงพ่อท่านให้มา ราวกับว่าท่านให้เช็คไปเบิกเงินกันเอาเอง..แม่ข้าพเจ้าถูกหวยในงวดนี้

  นี่คือเรื่องของขวัญปีใหม่ของหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือ ที่ท่านเมตตามอบให้ศิษย์

ภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทาน


ป.ล. สำหรับท่านที่ไม่มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อ และอยากได้ภาพของหลวงพ่อไว้บูชา ข้าพเจ้าขอเล่าเรื่องภาพหลวงพ่อพรหมรับสังฆทานให้ฟัง

  ว้นหนึ่งได้ไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อพรหม เมื่อถวายสังฆทานแล้วได้ขออนุญาติถ่ายภาพท่าน หลวงพ่อพรหมท่านว่า...เอ้า มึงถ่ายภาพกูให้สวยไปเลยนะ...แล้วหลวงพ่อก็ให้พรรับสังฆทานก่อน แล้วท่านนั่งยิ้มให้ข้าพเจ้าถ่ายภาพ ใช้กล้องฟิมล์ ASAHI PENTEX รุ่น SPOTMATIC

  ข้าพเจ้าถ่ายภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทานไว้หลายภาพ พอถ่ายภาพเสร็จปรากฏว่า...หลวงพ่อท่านยังนั่งยิ้มนั่งนิ่งไม่กระคุกกระดิกอยู่จนนานเกิน 5 นาที จนข้าพเจ้าสงสัย จึงเข้าไปนั่งดูใกล้ๆขนาดชิดตัวท่าน หลวงพ่อก็ยังนั่งยิ้มๆนิ่งอยู่อย่างนั้น

  ข้าพเจ้าเข้าใจได้ในทันทีว่า...หลวงพ่อพรหมท่านเข้าสมาธิเข้าฌานอธิษฐานจิตให้ไว้ในการถ่ายภาพครั้งนี้แล้ว ภาพนี้จึงเป็นของวิเศษที่ท่านมอบให้ศิษย์ทั้งหลาย สามารถอัดภาพทำสำเนาต่อๆไปได้ เพราะท่านกำหนดอธิษฐานจิตไว้ในรูปนามดังภาพนี้แล้ว

  หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็จับแขนหลวงพ่อแล้วเขย่าๆเบาๆอยู่สักพัก หลวงพ่อท่านก็ถอนสมาธิ

  เมื่อข้าพเจ้าอัดภาพนี้ไปขอให้หลวงพ่อลงจารให้ โดยนำไป 2 ใบ ท่านก็ว่า..เออๆ ภาพนี้ดีแล้ว..ท่านหยิบปากกาเมจิกมาจารให้ ภาพที่มีกรอบกระดาษท่านจารให้ดังรูป ส่วนอีกภาพท่านจารไว้ที่ด้านหลังภาพ ข้าพเจ้าเก็บรักษาไว้จนบัดนี้

  ภาพหลวงพ่อพรหมนั่งรับสังฆทาน ทุกท่านสามารถอัดสำเนา หรือโหลดไฟล์ไปปริ๊นต์ภาพ แล้วอธิษฐานถึงหลวงพ่อพรหม เท่านี้ก็มีภาพหลวงพ่อพรหมไว้เป็นศิริมงคลยิ่ง

เรื่อง จากความทรงจำ

ภาพ หลวงพ่อพรหมรับสังฆทาน เป็นภาพที่ข้าพเจ้าถ่ายไว้เอง

       ภาพอื่นๆจากรูปที่เคยติดไว้ในกรอบที่กุฏิบ้าง และมีในหนังสือเล่มม่วงทึ่คุณธีรพล คงอาชาภัทรจัดพิมพ์ ภาพเก่าส่วนมากหาต้นตอเจ้าของภาพไม่เจอแล้ว






1 ความคิดเห็น: