วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2567

หลวงพ่อกับของวิเศษ 8.ท่านเจ้าคุณนรฯ ธมฺมวิตกฺโก


พระภิกษุเจ้าคุณนรฯ ธมฺมวิตกฺโก วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

  อาชีพงานโลหะของทางบ้านข้าพเจ้า มีส่วนที่เกี่ยวพันกับวัดวาอารามอยู่บางส่วน ทำให้ข้าพเจ้าได้คุ้นเคยกับพระสงฆ์องค์เจ้ามาตั้งแต่ข้าพเจ้ายังเด็ก ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆมอบพระเครื่องให้อยู่เสมอ เรียกว่ามีพระเครื่องห้อยคอยมาตั้งแต่ยังไม่ถึงวัยเรียน

  วัยเด็กเล็กทำให้จำไม่ได้ว่าเคยมีประสบการณ์ของวิเศษของหลวงพ่อรูปใดมาบ้าง เหตุการณ์มันนานมาแล้วนานมากๆ มีที่พอจำได้คลับคล้ายคลับคลา คือจำเหตุการณ์ได้แต่จำหลวงพ่อที่ห้อยคอไม่ได้ พอถึงวัยเรียนชั้นประถมปลาย ก็เกิดประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อกับของวิเศษที่จำได้แม่นเป็นครั้งแรก ก็คือประสบการณ์ของวิเศษของหลวงพ่อเจ้าคุณนรฯ(ธมฺมวิตกฺโก)วัดเทพศิรินทรฯ

  โรงเรียนประถมปลายที่ข้าพเจ้าเรียนนั้น เมื่อ50กว่าปีก่อนนับเป็นโรงเรียนชั้นนำของกรุงเทพฯ มีคณะดูงานมาเยี่ยมชมบ่อยๆ โรงเรียนอยู่คนละฝั่งถนนกับวัดเทพศิรินทรฯ ในยุคนั้นคนแถวเวิ้งนาครเขษม สะพานเหล็ก วังบูรพา วรจักร สวนมะลิ พลับพลาชัย ใครๆก็ได้ยินชื่อเสียงของพระภิกษุธมฺมวิตกฺโก ซึ่งต่างก็เรียกกันว่า ท่านเจ้าคุณนรฯ ทางบ้านข้าพเจ้าก็เช่นกัน เพราะบ้านข้าพเจ้าอยู่ห่างจากวัดเทพศิรินทรฯ 3 ป้ายรถเมล์

  เด็กโรงเรียนข้าพเจ้านั้น พอทะเลาะกันก็จะท้ากันให้ไปชกต่อยกันที่ฝั่งวัดเทพศิรินทรฯ...รวมทั้งกรูด้วย เอ๊ย ข้าพเจ้าด้วย...แต่จะไม่มีใครไปชกต่อยกันใกล้กุฏิท่านเจ้าคุณนรฯเลย แม้ปีสุดท้ายที่เรียนที่นี่ซึ่งท่านเจ้าคุณนรฯมรณภาพไปแล้ว พวกข้าพเจ้าก็ไม่ไปชกต่อยกันแถวกุฏิของท่าน แปลกดีเหมือนกัน

  ถ้าเดินผ่านกุฏิของหลวงพ่อเจ้าคุณอุดมฯ ท่านจะกวักมือเรียกให้เข้าไปรับแจกขนมของกิน และแจกพระเครื่องท่านเจ้าคุณนรฯให้ทุกๆคน ทางบ้านข้าพเจ้านั้นได้รับพระเครื่องท่านเจ้าคุณนรฯหลายองค์ แม้ในวันที่พระราชทานเพลิงสังขารท่าน ก็ได้รับแจกมาหลายองค์ พร้อมโปสเตอร์รวมวัตถุมงคลท่านเจ้าคุณนรด้วย บิดาของข้าพเจ้าได้เอาไปใส่กรอบไว้บูชา



  ท่านเจ้าคุณนรฯนั้นเป็นพระสงฆ์ไม่มีสมณศักดิ์เจ้าคุณแต่อย่างไร ที่เรียกนามท่านว่าเจ้าคุณนรฯ ก็เพราะก่อนท่านบวชท่านรับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็นที่ พระยานรรัตนราชมานิต นามเดิมว่า ตรึก จินตยานนท์ พอท่านบวชถวายล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 คนทั้งหลายก็เรียกนามท่านตามบรรดาศักดิ์เดิมว่าท่านเจ้าคุณนรฯ

  ท่านเจ้าคุณนรฯปฏิบัติธรรมอย่างเงียบๆภายในวัดเทพศิรินทรฯ ต่อมาเมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลของวัด ก็นิมนต์ท่านอธิษฐานจิต แล้วปรากฏประสบการณ์คุ้มครองป้องกันภัยดีเยี่ยม จนเป็นที่เลื่องลือ ข้าพเจ้านับถือว่าเป็นหลวงพ่อกับของวิเศษ

  ประสบการณ์เฉียดตายครั้งหนึ่งของข้าพเจ้า... ตอนนั้นเรียนชั้นประถมปลาย ได้ไปเดินสวนสนามวันลูกเสือแห่งชาติที่สนามกีฬาศุภชลาศัย ต่อหน้าพระพักตร์ในหลวงรัชกาลที่ 9

  โรงเรียนอยู่ห่างสนามศุภฯประมาณ 5-6ป้ายรถเมล์ จึงทำเป็นกิจกรรมเดินทางไกลระยะสั้นของลูกเสือ โดยเดินไปทางวัดเทพศิรินทรฯแล้วข้ามคลองผดุงกรุงเกษมตรงหน้ากองบังคับการตำรวจรถไฟ พอถึงตรงนี้ก็จะเป็นเขตสถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นส่วนที่พ้นจากอาคารสถานีแล้ว

  พวกข้าพเจ้าเดินข้ามรางรถไฟซึ่งตรงนั้นมีหลายรางมาก พอเดินตรงไปเรื่อยๆก็จะถึงสนามศุภฯ ไปจัดแถวกลางสนามกีฬา รอถวายคำสัตย์ของลูกเสือ

  ขากลับครูให้เดินกลับโรงเรียน พอเดินผ่านสถานีหัวลำโพงส่วนที่เป็นที่ตรวจซ่อมรถไฟ ตรงนั้นมีรถไฟจอดขวางทางพอดี ไม่มีคนอยู่แถวนั้นเลย เนื่องจากเขตนั้นไม่ใช่ชานชลารถไฟ บันใดรถไฟจึงอยู่สูงจากพื้นมาก คุณครูจึงขึ้นบันใดของตู้รถข้ามไปก่อนเพื่อรอรับเด็กนักเรียนให้ลงมาได้ โดยข้าพเจ้าคอยดันก้นเพื่อนๆให้เพื่อนปีนขึ้นบันไดรถไฟไปลงอีกฟาก สุดท้ายเหลือข้าพเจ้าคนเดียว

  พอข้าพเจ้าจะปีนขึ้นไปก็นึกแผลง ๆ เลยมุดลอดใต้รถไฟแทน ขณะที่มุดเข้าไปใต้รถไฟนั้น ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคนเรียกว่า... "ไอ้หนูอย่าซน รีบถอยออกมาเร็ว ๆ" ข้าพเจ้ามองจากใต้รถไฟไปด้านหลัง...เห็นข้อเท้าและชายจีวรพระสีเหลืองๆยืนรออยู่...จึงรีบคลานถอยหลังออกจากใต้ท้องรถไฟขบวนนั้น

  พอหัวพ้นล้อรถไฟแค่วินาทีเดียว รถไฟก็เคลื่อนที่ทันทีขนาดว่าล้อรถโดนปลายปีกหมวกลูกเสือ เลยตกใจหงายท้องใจสั่นไปหมด ถ้าตอนนั้นไม่ถอยออกมา ก็ไม่พ้นล้อเหล็ก

  พอมองหาพระสงฆ์ที่เรียกให้ออกมาก็ไม่มีใครอยู่เลย ขณะนั้นข้าพเจ้าแขวนเหรียญท่านเจ้าคุณนรฯ ธมฺมวิตกฺโก เพียงเหรียญเดียว!!!! เรื่องนี้เป็นประสบการณ์หลวงพ่อกับของวิเศษที่จำได้ครั้งแรกในชีวิต ของวิเศษหลวงพ่อธมฺมวิตกฺโกวัดเทพศิรินทรฯ

ตอนรอดรถไฟแขวนเหรียญพิมพ์นี้


  ข้าพเจ้ายังแขวนเหรียญนี้จนเรียนจบสอบเข้าชั้นมัธยมก็ยังแขวนอยู่ จนกระทั่งไปเข้ากิจกรรมลูกเสือที่ค่ายลูกเสือกำแพงแสน จ.นครปฐม ไปกางเต็นท์ในบริเวณที่กำหนด มีการใช้มีดบ้างขวานบ้างตัดกิ่งไม้มาทำกิจกรรม เช่นทำเสา ทำฟืน

  ในระหว่างที่ทุกคนก้มๆเงยๆปรับพื้นเพื่อกางเต้นท์ อยู่ๆก็มีมีดปลิวมาเฉี่ยวข้าพเจ้าไปนิดเดียว ปรากฏว่าไอ้เพื่อนทางด้านหลัง มันใช้มีดฟันกิ่งไม้เพื่อเอามาทำเสาหน้าเต้นท์ แต่มีดดันชำรุดด้ามหลวม พอฟันกิ่งไม้อย่างแรง ใบมีดจึงหลุดจากด้ามพุ่งมาทางข้าพเจ้า เฉียดไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพื่อนก็ฮือฮาว่าข้าพเจ้ามีของดี

  ตอนกลางคืนไอ้เพื่อนร่วมเต้นท์มันกลัวผี จึงอ้อนวอนขอยืมเหรียญท่านเจ้าคุณนรฯไปห้อยคอ ขัดไม่ได้ก็ให้มันยืมไป ในที่สุดก็ไม่ได้คืน..ซะงั้น

ภาพต้นแบบเหรียญสังฆาฏิ

เมื่อถึงวัยทำงานใหม่ๆ ข้าพเจ้าเอาเหรียญท่านเจ้าคุณนรฯรุ่นสังฆาฏิไปเลี่ยมแขวนติดตัวองค์เดียว วันหนึ่งขับมอเตอร์ไซด์กลับเข้าบริษัท ตอนนั้นยังขับไม่แข็ง โดนรถยนต์เฉี่ยวจนเสียหลัก มอเตอร์ไซด์ล้มไถล ข้าพเจ้ากระเด็นหัวกระแทกกับเสาเหล็กที่ตัดเป็นตอสูงเท่าหน้าแข้ง แล้วตกใจนั่งงงๆอยู่กับที่ แถมมอเตอร์ไซด์ก็ยังไถลมาทับคร่อมตัวข้าพเจ้าเสียอีก มีคนใจดีวิ่งมาช่วยหลายคน ใครๆต่างนึกว่าข้าพเจ้าคงเจ็บหนัก

  ปรากฏว่าข้าพเจ้าไม่เป็นอะไรเลย แค่ตะเข็บกางเกงตรงก้นขาด ไฟหน้าแตกหลุดออกมา ไฟเลี้ยวหัก แกนบีบคลัทช์หัก แฮนด์มอเตอร์ไซด์บิดไปเกือบ 90 องศา จนขับรถไม่ได้

  หลังจากนั้นก็ไม่ได้อาราธนาพระท่านเจ้าคุณนรฯมาแขวนอีก เพราะแขวนทีไร พวกรุ่นพี่บริษัทชอบมาขอ ไม่ให้ก็ไม่ได้ ยังเจ็บใจจนทุกวันนี้

  รุ่นพี่คนหนึ่งมาไถพระท่านเจ้าคุณนรฯพิมพ์ใบโพธิ์เนื้อผงจากข้าพเจ้า วันหนึ่งไปเมาเหล้าทะเลาะกับจิ๊กโก๋โต๊ะข้างๆ โดนตีด้วยขวดเบียร์ ขวดเบียร์แตกกระจายแต่ตัวคนไม่เป็นอะไรเลย เหตุการณ์นี้ทำให้คนในบริษัทมารุมไถพระท่านเจ้าคุณนรฯจากข้าพเจ้าอีกหลายองค์ 

  ตรงนี้จำไว้ให้ดีๆ จะพูดถึงครั้งเดียวว่า....เรื่องรายละเอียดของวัตถุมงคลท่านเจ้าคุณนรฯในยุคนั้น ไม่เหมือนในสมัยนี้หลายเรื่อง คนรุ่นก่อนข้าพเจ้าและรุ่นข้าพเจ้าที่เป็นรุ่นเด็กแต่ทันรู้ข่าว จะเล่นหาและไม่เล่นวัตถุมงคลท่านเจ้าคุณนรฯบางรุ่นที่ต่างจากปัจจุบัน

เหรียญปรกจเรของข้าพเจ้า


ปรกจเรด้านหลัง


  ในปัจจุบันถ้าจะเสาะหาวัตถุมงคลท่านเจ้าคุณนรฯ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร เอาเป็นว่าถ้าเป็นคนรุ่นก่อนข้าพเจ้าและอย่างน้อยก็รุ่นข้าพเจ้าที่เป็นรุ่นเล็กในยุคนั้น ถ้าราคาพอสู้ไหว จะเก็บพระผงใบโพธิ์(เพราะดูโค๊ตง่ายมาก) เหรียญสังฆาฏิ ต หางยาวที่ราคาไม่แรง หรือถ้าพิมพ์นิยมราคาแพงขึ้นก็ ต หางสั้น และเหรียญปรกจเร ส่วนพระพิมพ์อื่นๆจะแพงมาก แถมหลายพิมพ์คนยุคก่อน...ไม่เล่น


    ท่านเจ้าคุณนรฯเคยบอกไว้ว่า ถ้าไม่มีวัตถุมงคลของท่าน เมื่อถึงคราวคับขัน ก็ให้อธิษฐานออกนามท่านว่า ธมฺมวิตกฺโก ก็จะช่วยได้

   ธมฺมวิตกฺโก อ่านว่า..ธัมมะวิตักโก

บทความ จากความระลึกถึงหลวงพ่อเจ้าคุณนรฯ ธมฺมวิตกฺโก

ภาพ จากสื่ออินเทอร์เน็ต และเหรียญของข้าพเจ้า





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น