พระสังขจายจีน หมีเล่อโฝ , หลวงจีนถุงย่าม
60 กว่าปีก่อน(นับจาก พ.ศ.2568)ที่ยังเป็นเด็กเล็ก นับเฉพาะตอนที่เป็นเด็กที่จำความได้
ข้าพเจ้าอยู่ในย่านชาวจีน วัยประถมก็เรียนโรงเรียนจีน
จีนขนาดว่าตอนเรียนต้องใช้เหมาปิ๊กหรือพู่กันจีนเขียนตัวหนังสือจีน
เสื้อผ้ามักจะเปื้อนหมึกจีนอยู่เสมอ บางทีเปื้อนถึงใบหน้า
หนังสือจีนที่เป็นแบบเรียนนั้น
จะเป็นบทเรียนแบบลัทธิขงจื้อบ้าง นิทานจีนบ้าง ถ้าเป็นเรื่องศาสนาพุทธก็มีเฉพาะพุทธมหายาน
ครูให้นักเรียนอ่านดังๆพร้อมๆกันทุกวัน จนเด็กๆจำขึ้นใจได้หลายเรื่อง
ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระที่จำได้
ก๊มีเรื่องของหลวงจีนจี้กง พระถังซำจั๋ง และ หลวงจีนอ้วนตุ้ยนุ้ย
ซึ่งในปัจจุบันนี้ไปเข้าใจผิดกันว่า หลวงจีนอ้วนตุ้ยนั้นคือหลวงพ่อพระสังกัจจายน์
แต่ที่จริงเป็นคนละองค์กัน
ข้างบ้านข้าพเจ้าเป็นเจ้าของโรงเจที่เมืองชล โรงเจนี้ตั้งอยู่บนภูเขาลูกหนึ่ง
เมื่อทางโรงเจมีงาน บ้านข้าพเจ้าก็ไปช่วยบ่อยๆ
ข้าพเจ้าจึงคุ้นเคยกับโรงเจมาตั้งแต่ยังเด็ก
กินเจตั้งแต่เด็กแต่ไม่รู้ว่านั่นคืออาหารเจ
โรงเจบนภูเขานี้เองที่เด็กอย่างข้าพเจ้าตื่นตาตื่นใจกับพระปูนปั้นขนาดใหญ่
เป็นพระตัวอ้วนๆนั่งเอกเขนก ผู้ใหญ่บอกว่านี่เรียกว่าพระสังขจายจีน
รูปร่างพระน่ารักมากเพราะอ้วนๆยิ้มแย้มแจ่มใส จึงจำไว้ว่าพระอ้วนๆก็คือพระสังขจาย
แต่จำผิดไปหน่อยตรงที่ว่า ไปจำพระสังขจายแบบจีนกับแบบไทยรวมกัน เพราะอ้วนๆเหมือนกัน
พอโตขึ้นถึงรู้ว่าพระสังขจายจีนกับไทยนั้น เป็นพระคนละองค์กัน
ตำนานพระสังขจายจีน
พระสังขจายจีนนั้น
ตามประวัติดั้งเดิมว่ามีตัวตนจริงอยู่ในยุคห้าราชวงศ์สิบแว่นแคว้น
ซึ่งเป็นช่วงราชวงศ์ถังเสื่อม หลวงพ่อพระสังขจายจีนมีนามว่า สมณะชี่ฉื่อ หรือ
สมณะถุงย่าม เป็นชาวมณฑลเจ้อเจียง ปีเกิดของท่านไม่มีบันทึกไว้
ทราบเพียงว่าท่านมรณะภาพในราวปี ค.ศ.916-917(พ.ศ.373-374)
ในสมัยนั้นมีราชวงศ์ใหญ่อยู่ 5 ราชวงศ์ ในส่วนของราชวงศ์โฮ่วเหลียงนั้น
(ค.ศ.907-923) ได้มีสมณะชี่ฉื่อมีรูปร่างอ้วนพุงพลุ้ย
สวมใส่จีวรหลวมๆและชอบให้จีวรหลุดลุ่ย เห็นท้องที่อ้วนพุงพลุ้ย
มือข้างหนึ่งถือพวงประคำ มืออีกข้างหนึ่งถือไม้เท้าที่ตรงปลายไม้เท้ามีถุงหรือย่ามอยู่หนึ่งใบแขวนไว้
นอกจากท่านจะมีรูปร่างอ้วนพุงพลุ้ยจีวรหลุดแล้ว ท่านยังมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
มีกิริยาร่าเริง
เมื่อสมณะชี่ฉื่อผ่านไปที่ใดๆ ก็จะหยิบของออกจากถุงย่ามมาแจกเด็กๆเสมอ
คนจึงเรียกท่านว่าสมณะถุงย่ามหรือหลวงจีนถุงย่าม
การที่ท่านหยิบของจากถุงย่ามมาแจกนั้น แปลกที่แจกเท่าไรก็ไม่หมด
นอกจากนี้ท่านยังมักเตือนผู้คนให้รู้ล่วงหน้าถึงดินฟ้าอากาศที่จะแปรปรวน ทำให้ประชาชนรอดพ้นภัยพิบัติ
เรื่องเล่าของหลวงจีนถุงย่านนั้นเหมือนกับเป็นนิทานสอนเด็ก
ข้าพเจ้าอ่านฟังแล้วชอบใจ ประมาณว่าท่านหลวงจีนถุงย่ามเที่ยวไปช่วยคนไปในทุกที่
เจอคนที่ขัดสนก็หยิบของจากถุงย่ามมาแจก เจอคนป่วยก็ล้วงยาจากถุงย่ามมารักษาให้
เจอเด็กๆก็ล้วงถุงย่ามได้พุทราเชื่อมมาแจกเด็กๆ
สมณะชี่ฉื่อหรือหลวงจีนถุงย่ามท่นตระเวนไปทั่วเหมือนเที่ยวโปรดสาธุชน
ถุงย่ามของท่านมีสารพัดสมบัติ และเป็นถุงย่ามวิเศษจับภูตผีปีศาจได้
ไปที่ใดก็แสดงกริยารื่นเริงใจดี ไปเจอภัยธรรมชาติก็แก้ไขปัดเป่าภัยให้ชาวบ้าน
ไปเจอผู้ใฝ่ธรรมะก็สอนธรรมะให้ผู้นั้น
ในช่วงเวลาที่ท่านหลวงจีนถุงย่ามจะมรณภาพนั้น
ท่านได้กล่าวโศลกทิ้งปริศนาธรรมเอาไว้ มีผู้ถอดความได้ว่า
ที่แท้ท่านหลวงจีนถุงย่ามนี้ก็คือพระศรีอริยเมตไตรยในอนาคต
คือทางมหายานนั้นเชื่อว่าพระศรีอาริยเมตไตรยนิรมาณกายมาโปรดสัตว์นั่นเอง
จึงนิยมเรียมหลวงจีนชีฉื่อว่า หมีเล่อโฝ
สมณะชี่ฉื่อหรือหลวงจีนถุงย่ามคนมักเรียกว่า พระสังขจายจีน
จึงไปจำสับสนจำผิดว่าท่านคือพระสังขจายไทย ซึ่งพระสังขจายไทยก็คือหลวงพ่อพระมหากัจจายนะ
ที่แท้พระสังขจายจีนและพระสังขจายไทย ไม่ใช่องค์เดียวกัน
เรื่อง จากความทรงจำในหนังสือจีน
ภาพ จากอินเทอเน็ต

%20%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%20%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%8D%E0%B9%8C%202025.jpg)