วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ปัดฝุ่นเรื่องเก่าจีน 5. พระสังขจายจีน หมีล่อโฝ

 


พระสังขจายจีน หมีเล่อโฝ , หลวงจีนถุงย่าม

  60 กว่าปีก่อน(นับจาก พ.ศ.2568)ที่ยังเป็นเด็กเล็ก นับเฉพาะตอนที่เป็นเด็กที่จำความได้ ข้าพเจ้าอยู่ในย่านชาวจีน วัยประถมก็เรียนโรงเรียนจีน จีนขนาดว่าตอนเรียนต้องใช้เหมาปิ๊กหรือพู่กันจีนเขียนตัวหนังสือจีน เสื้อผ้ามักจะเปื้อนหมึกจีนอยู่เสมอ บางทีเปื้อนถึงใบหน้า

  หนังสือจีนที่เป็นแบบเรียนนั้น จะเป็นบทเรียนแบบลัทธิขงจื้อบ้าง นิทานจีนบ้าง ถ้าเป็นเรื่องศาสนาพุทธก็มีเฉพาะพุทธมหายาน ครูให้นักเรียนอ่านดังๆพร้อมๆกันทุกวัน จนเด็กๆจำขึ้นใจได้หลายเรื่อง

  ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระที่จำได้ ก๊มีเรื่องของหลวงจีนจี้กง พระถังซำจั๋ง และ หลวงจีนอ้วนตุ้ยนุ้ย ซึ่งในปัจจุบันนี้ไปเข้าใจผิดกันว่า หลวงจีนอ้วนตุ้ยนั้นคือหลวงพ่อพระสังกัจจายน์ แต่ที่จริงเป็นคนละองค์กัน

  ข้างบ้านข้าพเจ้าเป็นเจ้าของโรงเจที่เมืองชล โรงเจนี้ตั้งอยู่บนภูเขาลูกหนึ่ง เมื่อทางโรงเจมีงาน บ้านข้าพเจ้าก็ไปช่วยบ่อยๆ ข้าพเจ้าจึงคุ้นเคยกับโรงเจมาตั้งแต่ยังเด็ก กินเจตั้งแต่เด็กแต่ไม่รู้ว่านั่นคืออาหารเจ

  โรงเจบนภูเขานี้เองที่เด็กอย่างข้าพเจ้าตื่นตาตื่นใจกับพระปูนปั้นขนาดใหญ่ เป็นพระตัวอ้วนๆนั่งเอกเขนก ผู้ใหญ่บอกว่านี่เรียกว่าพระสังขจายจีน รูปร่างพระน่ารักมากเพราะอ้วนๆยิ้มแย้มแจ่มใส จึงจำไว้ว่าพระอ้วนๆก็คือพระสังขจาย แต่จำผิดไปหน่อยตรงที่ว่า ไปจำพระสังขจายแบบจีนกับแบบไทยรวมกัน เพราะอ้วนๆเหมือนกัน พอโตขึ้นถึงรู้ว่าพระสังขจายจีนกับไทยนั้น เป็นพระคนละองค์กัน

ตำนานพระสังขจายจีน

   พระสังขจายจีนนั้น ตามประวัติดั้งเดิมว่ามีตัวตนจริงอยู่ในยุคห้าราชวงศ์สิบแว่นแคว้น ซึ่งเป็นช่วงราชวงศ์ถังเสื่อม หลวงพ่อพระสังขจายจีนมีนามว่า สมณะชี่ฉื่อ หรือ สมณะถุงย่าม เป็นชาวมณฑลเจ้อเจียง ปีเกิดของท่านไม่มีบันทึกไว้ ทราบเพียงว่าท่านมรณะภาพในราวปี ค.ศ.916-917(พ.ศ.373-374)

   ในสมัยนั้นมีราชวงศ์ใหญ่อยู่ 5 ราชวงศ์ ในส่วนของราชวงศ์โฮ่วเหลียงนั้น (ค.ศ.907-923) ได้มีสมณะชี่ฉื่อมีรูปร่างอ้วนพุงพลุ้ย สวมใส่จีวรหลวมๆและชอบให้จีวรหลุดลุ่ย เห็นท้องที่อ้วนพุงพลุ้ย มือข้างหนึ่งถือพวงประคำ มืออีกข้างหนึ่งถือไม้เท้าที่ตรงปลายไม้เท้ามีถุงหรือย่ามอยู่หนึ่งใบแขวนไว้ นอกจากท่านจะมีรูปร่างอ้วนพุงพลุ้ยจีวรหลุดแล้ว ท่านยังมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มีกิริยาร่าเริง 


   เมื่อสมณะชี่ฉื่อผ่านไปที่ใดๆ ก็จะหยิบของออกจากถุงย่ามมาแจกเด็กๆเสมอ คนจึงเรียกท่านว่าสมณะถุงย่ามหรือหลวงจีนถุงย่าม การที่ท่านหยิบของจากถุงย่ามมาแจกนั้น แปลกที่แจกเท่าไรก็ไม่หมด นอกจากนี้ท่านยังมักเตือนผู้คนให้รู้ล่วงหน้าถึงดินฟ้าอากาศที่จะแปรปรวน  ทำให้ประชาชนรอดพ้นภัยพิบัติ

  เรื่องเล่าของหลวงจีนถุงย่านนั้นเหมือนกับเป็นนิทานสอนเด็ก ข้าพเจ้าอ่านฟังแล้วชอบใจ ประมาณว่าท่านหลวงจีนถุงย่ามเที่ยวไปช่วยคนไปในทุกที่ เจอคนที่ขัดสนก็หยิบของจากถุงย่ามมาแจก เจอคนป่วยก็ล้วงยาจากถุงย่ามมารักษาให้ เจอเด็กๆก็ล้วงถุงย่ามได้พุทราเชื่อมมาแจกเด็กๆ

  สมณะชี่ฉื่อหรือหลวงจีนถุงย่ามท่นตระเวนไปทั่วเหมือนเที่ยวโปรดสาธุชน ถุงย่ามของท่านมีสารพัดสมบัติ และเป็นถุงย่ามวิเศษจับภูตผีปีศาจได้ ไปที่ใดก็แสดงกริยารื่นเริงใจดี ไปเจอภัยธรรมชาติก็แก้ไขปัดเป่าภัยให้ชาวบ้าน ไปเจอผู้ใฝ่ธรรมะก็สอนธรรมะให้ผู้นั้น

   ในช่วงเวลาที่ท่านหลวงจีนถุงย่ามจะมรณภาพนั้น ท่านได้กล่าวโศลกทิ้งปริศนาธรรมเอาไว้ มีผู้ถอดความได้ว่า ที่แท้ท่านหลวงจีนถุงย่ามนี้ก็คือพระศรีอริยเมตไตรยในอนาคต คือทางมหายานนั้นเชื่อว่าพระศรีอาริยเมตไตรยนิรมาณกายมาโปรดสัตว์นั่นเอง จึงนิยมเรียมหลวงจีนชีฉื่อว่า หมีเล่อโฝ

  สมณะชี่ฉื่อหรือหลวงจีนถุงย่ามคนมักเรียกว่า พระสังขจายจีน จึงไปจำสับสนจำผิดว่าท่านคือพระสังขจายไทย ซึ่งพระสังขจายไทยก็คือหลวงพ่อพระมหากัจจายนะ ที่แท้พระสังขจายจีนและพระสังขจายไทย ไม่ใช่องค์เดียวกัน


เรื่อง จากความทรงจำในหนังสือจีน

ภาพ จากอินเทอเน็ต