วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

ปัดฝุ่นเรื่องเก่าไทย๑๔ พระเลื่อนยศ และ พระอาถรรพ์





พระพุทธรูปสวัสดิมงคลเลื่อนยศ และ พระพุทธรูปชวนวิวาท 

สมัยรัชกาลที่ ๕


   พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรเป็นพระอุโบสถหินอ่อนที่สวยงามมาก ใครๆต่างก็ทราบว่าภายในพระอุโบสถมีพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน แต่ในปัจจุบันมีน้อยคนที่ทราบว่า ที่วัดเบญจมบพิตรนี้ เดิมเมื่อแรกสร้างพระอุโบสถชั่วคราวนั้น เคยมีพระประธานมาก่อนพระพุทธชินราชจำลอง เมื่อสร้างพระอุโบสถใหญ่เสร็จ และหล่อพระพุทธชินราชจำลองสำเร็จแล้ว พระประธานของพระอุโบสถชั่วคราวจึงถูกอัญเชิญไปประดิษฐานอยู่ในพระบรมมหาราชวัง พระพุทธรูปองค์นี้ก็คือ พระพุทธนรสีห์

ภาพจากวิกิพิเดีย วัดเบญจมบพิตร

  พระพุทธนรสีห์เป็นพระที่นับถือกันว่า เป็นพระที่มีอภินิหารให้เกิดสวัสดิมงคล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงเล่าเรื่องพระพุทธนรสีห์ไว้ในหนังสือ นิทานโบราณคดี โดยทรงเล่าควบคู่กันกับพระพุทธรูปประหลาดองค์หนึ่ง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีอาถรรพ์ทำให้คนวิวาทกันได้

   สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพในครั้งที่ยังเป็นพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ทรงเสด็จตรวจราชการมณฑลพายัพครั้งแรกเมื่อพ.ศ.๒๔๔๑ ทรงใช้เส้นทางเรือจากกรุงเทพฯถึง จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นจึงเสด็จทางบกไป แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน แล้วจึงถึงเชียงใหม่

สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ


   ตอนที่เสด็จถึงอุตรดิตถ์ทรงต้องพระทัยพระพุทธรูปองค์หนึ่ง พระพุทธรูปองค์นี้แหละที่ว่าเป็นพระแปลกประหลาด เชื่อกันว่าทำให้คนวิวาทกัน เรื่องนี้จะกล่าวถึงตอนหลัง จะขอกล่าวถึงพระพุทธรูปองค์หนึ่งก่อน ที่ต่อมาได้ชื่อว่าพระพุทธนรสีห์ ที่เชื่อกันว่าอำนวยให้เกิดสวัสดิมงคลเป็นอย่างยิ่ง

พระพุทธนรสีห์..พระที่เป็นสวัสดิมงคลเลื่อนยศ

   เมื่อสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯทรงเดินทางถึง จ.เชียงใหม่ ทรงแวะเยี่ยมชมวัดพระสิงห์แล้วพบว่า บนฐานชุกชีพระในวิหารนั้น มีพระพุทธรูปหล่อโลหะทั้งที่ดีและชำรุดกองรวมกันอยู่ พระองค์จึงทรงปีนขึ้นไปสำรวจ และทรงถูกใจพระพุทธรูปเชียงแสนองค์หนึ่ง มีขนาดใหญ่ตรงตามพระประสงค์พอดี

   พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระสมัยเชียงแสน มีพุทธลักษณะงดงามมาก สมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯทรงบรรยายไว้ในนิทานโบราณคดีว่า พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระนั่งขัดสมาธิเพชรแบบเชียงแสน มีลักษณะงามต้องตา เมื่อได้ยกพระลงมาตั้งแล้วพิจารณายิ่งดูก็ยิ่งงาม พระองค์จึงได้ขอพระองค์นี้จากเจ้าเชียงใหม่ แล้วเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ลงมากรุงเทพฯ

ภาพจากsomboontours.com วัดพระสิงห์

   สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงขอให้ท่านเจ้ามาทำการขัดแต่ง ท่านเจ้ามานี้ก็คือพระพุฒาจารย์มาวัดจักรวรรดิราชาวาสหรือวัดสามปลื้ม ขณะนั้นท่านเจ้ามายังมีสมณศักดิ์เป็นพระมงคลทิพมุนี พระพุทธรูปองค์นี้ขณะยังอยู่ที่วัดจักรวรรดิฯ พอมีคนมาเห็นต่างก็ต้องบอกว่างดงามมาก

   ท่านเจ้ามาได้ให้ช่างที่วัดทำการขัดแต่งพระ ก็พบว่าสีผิวพระมีเนื้อทองสุกปลั่งสวยงามมาก มองดูโดยรวมแล้วพระพุทธรูปองค์นี้สวยงามแปลกตา

ภาพจากlaksanathai.com พระพุทธนรสีห์


   เมื่อสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพรับพระกลับไป ก็ทรงตั้งประดิษฐานไว้ที่ท้องพระโรงวังของพระองค์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นวังเดิมที่อยู่บริเวณสะพานดำรงสถิต(สะพานเหล็ก) ใครๆที่มาเห็นพระพุทธรูปองค์นี้ก็ว่างามแปลกตาจริงๆ

   ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯโปรดให้สร้างวัดเบญจมบพิตร ทรงปรารถนาหาพระพุทธรูปขนาดย่อมลงมากว่าพระที่ตั้งไว้บริเวณระเบียง เพื่อตั้งเป็นประธานขณะสร้างวัด จึงรับสั่งให้สมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯเสาะหาพระพุทธรูปที่งามๆมาประดิษฐาน สมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯจึงกราบทูลว่ามีพระพุทธรูปที่สวยงามและมีขนาดตรงตามพระประสงค์อยู่พอดี

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


   หลังจากนั้น ๒ - ๓ วัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเสด็จไป จ.สมุทรปราการ เพื่อรับพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดพบที่อินเดีย และได้ถวายให้แด่พระองค์ พระองค์ทรงแวะที่วังของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯก่อน ได้ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธรูปเชียงแสนองค์นี้ก็พอพระทัย ออกพระโอษฐ์ว่า “พระองค์นี้งามแปลกจริงๆ” แล้วตรัสสั่งให้กรมวังจัดยานมาศกับขบวนแห่มารับพระพุทธรูปเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง ทรงถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระพุทธนรสีห์”

ภาพจากหนังสือนิทานโบราณคดี พระพุทธนรสีห์


   เมื่อพระอุโบสถ์ชั่วคราวสร้างเสร็จ จึงอัญเชิญพระพุทธนรสีห์มาตั้งเป็นองค์ประทาน พระพุทธนรสีห์จึงเป็นพระประธานอยู่จนกระทั่งสร้างพระอุโบสถใหญ่เสร็จ แต่เมื่อตรวจหาพระพุทธรูปโบราณที่สวยสมบูรณ์ และมีขนาดใหญ่เหมาะสมที่จะเป็นพระประธาน ก็ไม่พบองค์ที่เหมาะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯจึงโปรดให้หล่อจำลองพระพุทธชินราชมาเป็นพระประธานในพระอุโบสถ์วัดเบญจมบพิตร และหล่อจำลองพระพุทธนรสีห์ไว้เป็นประธานที่วิหารสมเด็จ ส่วนพระพุทธนรสีห์องค์จริงโปรดให้อัญเชิญกลับไปประดิษฐานไว้ในพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ภาพจากวิกิพิเดีย วัดเบญจมบพิตร

พระพุทธนรสีห์จำลอง


   สมเด็จๆกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเล่าไว้ในนิทานโบราณคดีว่า มีคนชอบพูดกันว่า พระพุทธนรสีห์เป็นพระมีอภินิหารให้เกิดสวัสดิมงคล สาเหตุที่คนลือกันเช่นนี้ก็เพราะว่า สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพอัญเชิญพระองค์นี้มาแล้ว หลังจากนั้นก็ได้เลื่อนยศจากกรมหมื่นขึ้นเป็นกรมหลวง ท่านเจ้ามาวัดสามปลื้มที่เป็นผู้อำนวยการปฏิสังขรณ์พระองค์นี้ ก็ได้เลื่อนยศจากพระมงคลทิพมุนีให้เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่ พระพุฒาจารย์ แม้แต่พระภิกษุเปี่ยมที่เป็นช่างผู้แต่งพระพุทธนรสีห์ ก็ยังได้สมณศักดิ์เป็นพระครูมงคลวิจิตร

     จึงเชื่อกันว่าพระพุทธนรสีห์มีอภินิหารทางสวัสดิมงคล คือเจริญรุ่งเรือง ถ้าเป็นสมัยนี้คงต้องเรียกกันว่า พระพุทธนรสีห์นี้ดีทางเลื่อนยศ

พระพุทธรูปอาถรรพ์ทำให้วิวาทกัน

   ในคราวเดียวกันกับที่สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพอัญเชิญพระเชียงแสน(พระพุทธนรสีห์)ลงมาจากเชียงใหม่นั้น ก่อนหน้านี้ครั้งที่ทรงแวะที่อุตรดิตถ์ ก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปจากอุตรดิตถ์ลงมากรุงเทพฯก่อน พระองค์นี้ทรงได้มาจากวัดมหาธาตุเมืองทุ่งยั้ง โดยพระองค์นี้ถูกวางนอนไว้บนพระหัตถ์ของพระประธาน

   พระพุทธรูปองค์ที่อยู่บนพระหัตถ์ของพระประธานนั้น เดิมอยู่ที่วัดอื่นมาก่อน แต่แล้วไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เอาพระองค์นี้มาวางนอนบนพระหัตถ์ของพระประธานวัดมหาธาตุ พระองค์นี้มีประวัติเล่ากันว่า ถ้ามีคนไปถวายเครื่องบูชา รับรองว่าอีกไม่นานจะต้องมีเหตุทะเลาะวิวาทในตำบลนั้น บางทีพวกลูกศิษย์วัดก็เห็นว่าที่วัดมีงานใดๆ ก็จะนึกอุตริเอาครื่องบูชาไปสักการะพระองค์นี้ แล้วก็จะเกิดคนทะเลาะวิวาทในงานวัด  เมื่อพระองค์นี้มีคนแอบเอามาไว้ที่วัดมหาธาตุ ปรากฏว่าไม่มีใครมาตามเอาพระองค์นี้กลับไปไว้วัดเดิม

ภาพจากoknation.nationtv.tv วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง(วัดมหาธาตุ)


   สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงขอพระองค์นี้แล้วส่งลงมากรุงเทพฯ พระองค์จุดธูปเทียนบูชาพระแล้วให้อัญเชิญพระลงเรือ เพื่อส่งลงไปที่กรุงเทพฯให้ท่านเจ้ามาขัดแต่ง พอถึงตอนค่ำก็มีข่าวว่าฝีพายเรือเกิดทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน จากนั้นพระองค์ทรงตรวจราชการต่อไปจนถึงเชียงใหม่ แล้วได้พระเชียงแสนที่ภายหลังก็คือพระพุทธนรสีห์มาอีกองค์หนึ่ง

   เมื่อสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จกลับกรุงเทพฯแล้ว ภายหลังจากที่ถวายพระพุทธนรสีห์ให้แด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ก็รับเอาพระพุทธรูปองค์ที่มีประวัติว่าเป็นพระทางวิวาท เอามาประดิษฐานแทนพระที่ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ

   ปรากฏว่าหลังจากนั้นในเวลาสองเดือน คนในวังของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็เกิดการทะเลาะวิวาทกันถึง ๖ คู่ พระองค์จึงมอบพระให้ท่านเจ้ามา

ท่านเจ้ามา วัดจักรวรรดิฯ


   หลังจากท่านเจ้ามารับพระเชียงแสนองค์นี้ไปแล้ว ปรากฏว่าคนในวัดจักรวรรดิก็ทะเลาะวิวาทกันบ่อยๆ มีถึงขนาดไปตีหัวเจ๊กขายเกี้ยมอี๋ ท่านเจ้ามาจึงมอบพระเชียงแสนองค์วิวาทให้พ่อค้าหัวเมืองไป

   พระเชียงแสนองค์ชวนทะเลาะนี้ไม่สามารถสืบว่าไปอยู่ที่ใด จึงไม่มีรูปภาพที่ถ่ายไว้ ทราบเพียงแต่ว่าเป็นพระพุทธรูปเชียงแสนที่งดงามองค์หนึ่ง

***เพิ่มเติม
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 
โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ 175 รูป ในวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 16.30 น. ณ พระลานพระราชวังดุสิต (ลานพระบรมรูปทรงม้า)
             
พร้อมกันนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญ "พระพุทธนรสีห์” พระพุทธรูปยุคเชียงแสน ปางมารวิชัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะงดงามยิ่ง และไม่เคยอัญเชิญออกนอกสถานที่ให้ประชาชนทั่วไปได้ถวายสักการะมาก่อน 

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่อัญเชิญมาเป็นพระประธานในพิธี โดยริ้วขบวนตามแบบโบราณราชประเพณีอันงดงาม
จาก http://konkao.net
ภาพเพิ่มเติม
ภาพจาก ข่าวสด

ภาพจาก tnews

ภาพจาก khaosod



ข้อมูลจากหนังสือนิทานโบราณคดี พระนิพนธ์สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น