เริ่มรำพึงถึงเรื่องเก่า..ครั้งวัยเด็ก
เชื่อว่าทุกๆคนคงไม่มีใครอยากที่จะแก่ ทุกๆคนคงอยากคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวเอาไว้ให้ได้นานที่สุดแน่ๆ แต่วันเวลาไม่มีวันหวนคืน พอถึงที่สุดแล้วก็หนีความแก่ไปไม่พ้น ถึงแม้จะนึกปลอบใจหลอกตัวเองว่าใบหน้าฉันยังดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงอยู่นะ แต่ก็คงไม่กล้าบอกอายุ โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงนั้น ถ้าผู้ชายไปถามอายุคุณเธอแล้วละก็ รับรองได้ว่า จะโดนหาว่าหยาบคายเอาดื้อๆ
สิทธิการิยะ ว่ากันว่าถ้าจะสำรวจดูว่าความแก่มาเยือนถึงตัวแล้วหรือยัง ท่านว่าให้สังเกตดูว่า เกิดเหตุสี่ประการแล้วหรือยัง เหตุสี่ประการนี้ก็คือ
๑.นึกเรื่องเก่า คือ ว่างเป็นไม่ได้ จะใจลอยนึกเจาะเวลาหาอดีตของตัวเองอยู่เรื่อย เช่น โอ้..ที่ตรงนี้เราเคยนั่งรอกิ๊กคนแรกแล้วไปเที่ยวกัน
๒.เล่าความหลัง คือเจอเพื่อนเป็นไม่ได้ จะชวนกันเล่าเรื่องครั้งอดีตกันแบบซ้ำๆซากๆ เช่นว่าเคยแย่งกันจีบหญิง บางทียังเผลอล้อชื่อพ่อกันเหมือนเด็กๆ บ้างก็ชอบเล่าเรื่องในอดีตให้เด็กเล็กฟังอยู่ได้ หารู้ไม่ว่าเด็กมันเบื่อ
๓.กินของขม ข้อนี้แปลกแต่มีเค้าของความเป็นจริงอยู่มากเหมือนกัน เราจะสังเกตดูได้จากคนแก่ จะเห็นคนแก่กินของขมๆกันได้แบบสบาย ทั้งๆที่ตอนที่ยังไม่แก่นั้นกินของขมไม่ค่อยจะได้ หรือกินขมไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วอยู่ๆพอมีอายุมากเข้า ดันกินของขมๆได้อย่างหน้าตาเฉย แถมชอบกินอีกด้วย
๔.ชมเด็กสาว ข้อนี้เห็นชัดเจนเห็นกันอย่างจะๆเห็นได้ทั่วไป
ถ้าไปเห็นท่านผู้สูงวัยเดินกับเด็กสาวๆแล้ว นั่นอาจจะไม่ใช่ลูกหลาน
ถึงบางทีเห็นเด็กมันเรียกป๋าก็อาจไม่ใช่ป๋า เพราะเป็นคุณป๋าขา..ที่ทนุถนอมหนูๆด้วยอาพาร์ทเม็นท์หรูๆ
มีค่าขนมมีค่าหน่วยกิต มีรถเก๋ง มอบให้คุณหนูอย่างอารีย์กว่าให้เมียตัวเอง
ท่านที่ชอบนึกเรื่องเก่าเล่าความหลังนี้ แต่พยายามฝืนที่จะไม่กินของขม และยังไม่ชมเด็กสาว(ให้เห็น) อย่างนี้จะนับว่าเริ่มแก่แล้วหรือยัง คาดว่าท่านทั้งหลายคงจะตอบว่ายังไม่แก่อย่างแน่นอน ดังนั้นเรามานึกเรื่องเก่าเล่าความหลังกันให้พอเคลิ้มๆ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,ท่าพระจันทร์,สนามหลวง สมัยก่อน |
จำได้ว่าตอนข้าพเจ้าผู้เขียนยังเป็นเด็ก ตอนนั้นโฆษณาผลิตภัณฑ์จะหนักไปทางโฆษณาทางวิทยุ กับมีโปสเตอร์กระดาษแปะโชว์ไว้ ส่วนโฆษณาทางโทรทัศน์จะไม่ค่อยได้มีเป็นแบบภาพยนต์โฆษณาสักเท่าไร แต่จะไปมีหนังโฆษณาในโรงภาพยนต์เยอะ เด็กๆจะชอบดูหนังโฆษณาในโรงภาพยนต์มากเพราะมักมีเป็นการ์ตูน เช่น “กระจกวิเศษบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี” หรือการ์ตูนโฆษณายาที่มีนกกระสาบินคาบถุงผ้าที่ใส่ลูกนก
โฆษณาสมัยก่อนเป็นอย่างนี้ |
ดาราไทยที่ดังที่สุดคือ
มิตร ชัยบัญชา เพชรา เชาวราษฎร์ ช่วงนั้นจะเป็นช่วงหลังยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ
นางเอกในสมัยนั้นสวยๆกันทั้งนั้น แต่ที่ดังที่สุดก็คือคุณป้าเพชราที่มีสมญานามว่า
ดาราสาวนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง ที่เป็นคู่พระคู่นางร่วมสมัยรุ่นใกล้ๆกัน ก็มี สมบัติ
เมทะนี อรัญญา นามวงศ์ ไชยา สุริยัน พิศมัย วิไลศักดิ์ ลือชัย นฤนาท
แต่ที่จริงลุงลือชัยกับลุงไชยาดังมาก่อนหน้าแล้ว ส่วนพี่เอกสรพงษ์ ชาตรี
นี่มาทีหลัง
ดารายอดนิยม มิตร - เพชรา |
สรพงษ์ - อรัญญา |
อุลตร้าแมน |
สมัยนั้นหนังหลอกเด็กของญี่ปุ่นมันฮือฮามาก ถ้าผู้ใหญ่ไม่ให้ดูแล้วล่ะก็ เด็กๆใจจะขาดเสียให้ได้ จะมีอุลตร้าแมน หุ่นอภินิหารที่มีผมยาวๆชื่อโกลด้ามีเมียมีลูกด้วย ปล่อยแสงที่เขาที่เหมือนเสาอากาศ แถมยังยิงจรวดมิไซด์ออกมาจากพุงได้อีก ยังมีกาโม่ยอดมนุษย์กายสิทธิ์ ที่ต่อมากลายเป็นตำนานแบ็งค์กาโม่ แบงค์กาโม่นี้คนจะชอบแกล้งขยำๆให้ยับยู่ยี่ แล้ววางไว้บนพื้นเพื่อหลอกให้คนมาเก็บเพราะนึกว่าเป็นเงินจริง คนเก็บได้จะอายตัยห่ะ ผู้เขียนก็เคยแกล้งให้เพื่อนผู้หญิงมาเก็บ แล้วเอามาล้อกันเป็นที่สนุกสนาน
อุลตร้าเซเว่น |
ความฮิตของหนังหลอกเด็กของญี่ปุ่นต่อมามีผลเสียคือ เด็กไทยอินกับบทบาทของพระเอก มีการเล่นเตะต่อยกันทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน ทีร้ายหนักคือกระโดดตัวลอยถีบอากาศกัน บ้างก็ปีนขึ้นไปบนที่สูงแล้วกระโดดเหาะลงมาแข้งขาหัก หัวร้างข้างแตกไปตามๆกัน จนกระทั่งทางการถึงกับต้องห้ามฉายหนังประเภทนี้ไปพักใหญ่
กาโม่ |
หุ่นอภินิหาร โกลด้า |
นึกเรื่องเก่า เล่าความหลัง อย่างนี้ยังเล่าได้อีกยาว....โปรดติดตามตอนต่อไป
**ภาพจากหลายๆเว็บไซต์ ขออภัยที่ลืมบันทึกชื่อเว็บ ถ้าได้ข้อมูลจะแก้ไขใหม่
**ภาพจากหลายๆเว็บไซต์ ขออภัยที่ลืมบันทึกชื่อเว็บ ถ้าได้ข้อมูลจะแก้ไขใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น