วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

นึกเรื่องเก่า เล่าความหลังฯ ๔..เวิ้งนาครเขษม

นึกเรื่องเก่า เล่าความหลัง กินของขม ชมเด็กสาว..แปลว่า เริ่มแก่แล้ว

เร็วๆนี้บังเอิญมีธุระใกล้ๆเวิ้งนาครเขษม นึกได้ว่านี่ใกล้เขาจะรื้อเวิ้งแล้ว เลยอดใจหายไม่ได้ ผู้เขียนมีความผูกพันธ์กับเวิ้งนาครเขษมอยู่บ้าง ขนาดว่ายังทันได้ดูหนังที่โรงภาพยนตร์นาครเขษม แต่ตอนนั้นยังเล็กมากๆจึงจำความไม่ได้ แต่จำได้ว่าครั้งสุดท้ายก่อนรื้อนั้น มีการฉายหนังอำลาด้วย

ซุ้มประตูทางเข้าเวิ้งนาครเขษม

ตำนานเวิ้งนาครเขษม  จำมาจากเรื่องที่ผู้ใหญ่เล่าครั้งยังเด็กและรวบรวมจากเรื่องที่ท่านผู้รู้แสดงไว้

    คนรุ่นเก่าเล่าว่าโรงหนังที่อยู่ในเวิ้งนาครเขษมนั้นชื่อ นิยมไทย ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นเวิ้งนครเขษมซีนีมาสะโคป (ผู้เขียนทันได้ดูหนังที่นี่ด้วย) บริเวณที่เรียกเวิ้งนี้เดิมเป็นสถานที่ๆพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้ขุดสระขนาดใหญ่ แล้วทำเป็นสวนสำหรับเป็นที่เล่นของคนทั่วไป เรียกว่า วังน้ำทิพย์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานที่บริเวณนี้ให้สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงดูแล สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิตทรงเห็นว่าบริเวณนี้มีชุมชนเกิดขึ้นแล้ว จึงได้ถมที่บริเวณวังน้ำทิพย์จนกลายเป็นที่โล่งกว้างใหญ่ ตั้งชื่อว่าเวิ้งนาครเขษม หมายถึงเวิ้งอันเป็นที่รื่นรมย์ของชาวเมือง ต่อมาเรียกเพี้ยนไปเป็น เวิ้งนครเกษม

     หลังจากที่มีการเลิกทาสแล้ว คนที่อยู่ในวังที่พ้นจากการเป็นทาส เมื่อย้ายออกจากวังมักได้รับทรัพย์สินสิ่งของจากนายมาบ้าง บางคนอาจขโมยมาบ้าง ได้นำของมาขายในบริเวณนี้ ชาวตะวันตกก็นำของที่ใช้แล้วมาแลกเปลี่ยน จึงเกิดเป็นตลาดค้าของเก่าขึ้น บางทีเรียกตลาดโจร(ตอนผู้เขียนยังเด็กยังทันได้ยินคนแก่เรียกอย่างนี้) ต่อมาจึงสร้างเป็นศูนย์การค้าขนาดย่อม และเป็นแห่งแรกที่มีโรงภาพยนตร์ชื่อว่า โรงภาพยนตร์นาครเขษม

     หลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่ ๒ ความเป็นตะวันตกแพร่เข้ามามาก รวมทั้งความนิยมในดนตรีแบบตะวันตกก็มีมาก เวิ้งนครเกษมเป็นแหล่งแรกที่นำเครื่องดนตรีตะวันตกเข้ามาขาย ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีชั้นดี เวิ้งนาครเขษมจึงเป็นทั้งแหล่งค้าของเก่า เครื่องดนตรี หนังสือเก่า เครื่องทองเหลือง มีร้านอาหารอีกหลายร้าน

     อาคารภายในเวิ้งนาครเขษมมีรูปแบบเป็นห้องแถว เริ่มแรกเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว แต่เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๘(ผู้เขียนยังจำได้รางๆ ตอนนั้นยังเป็นเด็กเล็ก) จึงได้สร้างใหม่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้นและสามชั้น อาคารมีรูปทรงแบบตะวันตก มีลายปูนปั้นตามวงกรอบประตูหน้าต่าง มีช่องระบายความร้อนและความชื้นที่แกะสลักด้วยไม้ หลังคาเป็นกระเบื้องว่าว(กระเบื้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสแผ่นใหญ่ เวลามุงหลังคาเอามุมแหลมทิ่มลง บ้านเก่าผู้เขียนก็เป็นตึกแถวแบบนี้) รอบสถานที่มีซุ้มประตูไม้สักฉลุลวดลายสวยงาม หลังไฟไหม้มีการสร้างตลาดใหม่ ชื่อว่า ตลาดปีระกาเพราะสร้างเสร็จในปีระกา
ตลาดปีระกาภาพจากdunbine.exteen.com
                                                         
                                         
ตลาดปีระกา ภาพจาก chakrawat.metro.police.go.th
                                                                                                       


   โรงหนังโรงแรกในเวิ้งฯเรียกกันง่ายๆว่า โรงหนังญี่ปุ่น มีตอนราวๆพ.ศ.๒๔๔๕ ผู้เขียนเคยเห็นแต่รูป ยังทันได้ยินอาก๋งแถวบ้านเล่าให้ฟัง โชคดีที่มีคนเอารูปโรงหนังญี่ปุ่นมาเผยแพร่ จึงได้เห็นภาพในอดีต ต่อจากโรงหนังญี่ปุ่นก็สร้างเป็นโรงหนังนิยมไทย และในที่สุดก็เป็นโรงหนังในเวิ้งนาครเขษมที่ผู้เขียนทันได้ดู
โรงหนังโรงแรกในสยาม โรงหนังญี่ปุ่น
           
     ในความทรงจำเรื่องโรงหนังที่เวิ้งนาครเขษมนี้จำได้รางๆว่า เป็นโรงหนังอยู่บริเวณค่อนข้างใจกลางเวิ้งฯ เก้าอี้นั่งเป็นไม้แข็งโป๊ก เวลาขยับตัวยุกยิกจะมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดๆ ขณะที่ดูหนังไปพลางก็จะมีคนขายของกินใส่ถาดใส่ตะกร้าเข้ามาเดินขาย มีพวกขนมปัง ลูกกวาด ซาละเปา ส่วนน้ำนี่ยุ่งหน่อยเพราะตอนนั้นยังไม่มีถุงพลาสติก ต้องใส่ถ้วยกระดาษเคลือบขี้ผึ้ง หลอดดูดมีบ้างไม่มีบ้าง หลอดดูดในสมัยนั้นเป็นหลอดกระดาษเคลือบขี้ผึ้งเช่นกัน

     จำได้ว่าตอนดูหนังแล้วร้อนเพราะไม่ได้ติดแอร์ ต้องไปยืนให้พัดลมอันใหญ่ๆเป่าให้หายร้อน เคยมีผู้ใหญ่เล่าว่าตอนหลังๆเขาเอาน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆมาช่วยทำความเย็น โดยเอาพัดลมอันใหญ่นี่แหละเป่าก้อนน้ำแข็ง เพื่อให้มีไอเย็นเข้ามาในโรงหนัง แต่เรื่องนี้ข้าพเจ้าผู้เขียนจำไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่ เพราะบางทีผู้ใหญ่อาจหลอกเล่นๆก็ได้ คือหลอกให้ยอมไม่ดูหนังที่โรงหนังเก่าในเวิ้งนั่นเอง

     เวิ้งนาคาเขษมเป็นแหล่งค้าของเก่ามาตั้งแต่อดีต ของจำพวกแอนติคนี้ก็เริ่มซื้อขายกันที่เวิ้งมาก่อน นอกจากนี้ที่เวิ้งฯยังเป็นแหล่งของร้านขายหนังสือร้านขายเครื่องดนตรี คนที่หัดเล่นดนตรีแทบทุกคนต้องมาซื้อเครื่องดนตรีชิ้นแรกของตนเองที่เวิ้งนาครเขษม ผู้เขียนซื้อกีต้าร์ตัวแรกก็ที่นี่เอง

     ข่าวว่าชาวเวิ้งนาครเขษมเขารวมตัวรวมเงินกันเพื่อซื้อเวิ้งฯจากกลุ่มเจ้าของที่ดิน แต่แล้วก็ไม่สำเร็จ ต้องผิดหวังเพราะเขาว่าขายให้คนอื่นไปแล้ว ยังมีข่าวปลอบใจว่า เมื่อสร้างอะไรใหม่ที่ตรงนี้แล้ว จะให้สิทธิ์แก่ชาวเวิ้งนาครเขษมเช่าก่อนและเช่าในราคาถูกกว่าผู้เช่าใหม่ 
 รูปเวิ้งนาครเขษมใหม่
                                                                         

                                                                                         เวิ้งฯสมัยก่อน
     แถบเวิ้งฯนี้มีอาหารอร่อยๆหลายเจ้า เช่น ข้าวพระรามลงสรงที่มีอยู่ ๒ เจ้า เจ้าหนึ่งเคยอยู่ตรงข้ามทางเข้าตลาดปีระกา อีกเจ้าอยู่ที่สะพานเหล็ก แต่ว่าทั้งสองเจ้าเลิกขายไปหลายปีแล้ว เคยไปรับประทานบ่อยๆ ตรงปากทางเข้าตลาดปีระกามีร้านข้าวต้มกุ๊ยที่ขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดด้วย ก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านนี้มีบะหมี่เป๊าะที่หารับประทานได้ยาก บะหมี่เป็าะนี้ก็คือบะหมี่ที่มีเส้นใหญ่ประมาณเกือบ ๑ ซ.ม. คิดว่าหลายๆท่านคงไม่เคยเห็นบะหมี่เป๊าะเป็นแน่

     ตรงข้ามก๋วยเตี๋ยวเป็ดมีร้านบะหมี่หวานเจ้าดัง ถัดไปเป็นรอบตลาดปีระกามีเนื้อวัวตุ๋นเจ้าดัง มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองแวะไปชิมบ่อยๆ มีก๋วยเตี๋ยวแคะเก่าแก่ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว แต่ละเจ้าอร่อยจริงๆ

     ตรงปากทางออกตลาดมีร้านขายมันต้มนำ้ขิงแบบดั้งเดิม มีขนมแบบจีนๆหลายอย่าง ถัดไปเป็นร้านขายตือฮวนที่ขายดีมาก มีขายข้าวขาหมูด้วย

     ผู้ที่นิยมไปชิมอาหารอร่อยในเวิ้งนาครเขษมต้องจำได้ว่า เดิมตรงทางเข้าตลาดมีอาแป๊ะขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นอยู่เจ้าหนึ่ง เจ้านี้ไม่ได้เป็นร้านเป็นรวงเหมือนใครเขา แต่แกมาตั้งแผงขายก๋วยเตี๋ยวที่ต้องยืนรับประทาน มีคนใหญ่คนโต เถ้าแก่ พนักงานบริษัท นักเรียนนักศึกษา มีแม้แต่จับกัง ต่างมารออาแป๊ะเปิดแผง ข้าพเจ้าผู้เขียนยังเคยไปยืนซดก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้บ่อยๆ

     ตรงทางออกเวิ้งฯด้านวัดตึกมีเจ้าบะหมี่เกี๊ยวรุ่นเก่า ข้างๆมีร้านแบบรถเข็นขายกาแฟโอเลี้ยง มีขนมปังปิ้งเตาถ่านขายด้วย ทางออกเวิ้งฯด้านถัดไปมีร้านขายน้ำผลไม้เก่าแก่ซึ่งเลิกขายไปก่อนหน้านี้หลายปี ร้านนี้ขายน้ำบ๊วย น้ำลำไย น้ำลูกเกต น้ำมะนาว จะเป็นน้ำผลไม้ใส่น้ำแข็งไว้แล้ว โดยใส่ไว้ในโถแก้วใบใหญ่ พอจะขายก็ตักทั้งน้ำผลไม้และน้ำแข็งได้พร้อมๆกัน

     ด้านติดถนนเจริญกรุงมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเจ้าอร่อย มีลูกค้าแน่ร้านตลอด ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน
ภาพจากอินเตอร์เน๊ต


     กลางคืนในเวิ้งนาครเขษมจะเงียบสักหน่อย แต่ก็ยังมีร้านอาหารอร่อยๆขายอยู่ ประมาณเกือบกลางๆซอยมีร้านขายก๋วยจั๊บเจ้าเก่าแก่ ร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อ และร้านขายน้ำหวาน ร้านขายน้ำหวานนี้เป็นร้านที่ขายน้ำหวานผสมโซดา น้ำหวานเป็นขวดโหลมีหลายรส มีเครื่องบินต่อท่อเล็กๆเพื่อฉีดน้ำผสมกับน้ำหวาน เด็กๆจะชอบตอนเครื่องบินฉีดน้ำออกมาผสมแล้วซ่าๆ

     ด้านใกล้ถนนมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว น้ำแข็งใส ร้านอาหารทะเล มีคนไปอุดหนุนกันมากทุกวัน มีร้านขายหมูแผ่นหมูหยองเก่าแก่

     เวิ้งนาครเขษมด้านติดถนนเยาวราชที่จะไปสี่แยกวังบูรพาหรือแยกเมอร์รี่คิงส์เก่านั้น มีของสำคัญที่เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์ ซึ่งเหลือเพียงชิ้นเดียวในประเทศไทย นั่นคือป้ายจอดรถราง เป็นป้ายจอดรถรางที่เหลือมาได้จนทุกวันนี้ก็เพราะท่านเจ้าของตึกที่เป็นคนเวิ้งฯอนุรักษ์ไว้



                                                                    ป้ายจอดรถรางป้ายสุดท้ายของประเทศไทย

     เวิ้งนาครเขษมและร้านรวงต่างๆเหล่านี้ ในไม่ช้าก็จะเหลือเพียงตำนาน ตำนานของลูกจีนสร้างตัวสร้างฐานะ ตำนานของลูกจีนสร้างชาติ

     เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้นทุกวันๆ ของเก่าๆสถานที่เก่าๆก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกพัฒนาไปตามยุคสมัย และตามความต้องการของผู้ถือสิทธิ์ ผู้เขียนเองก็มีความผูกพันธ์กับเวิ้งนาครเขษมไม่น้อย ก็บ้านเก่าหลังแรกอยู่แถวๆเวิ้งนาครเขษมนี่เอง


                                                               

                                               บทเพลง..แห่งเวิ้งนาครเขษม...จาก  youtube 

     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น