ของกินที่สนามหลวงและใกล้ๆ
ท่านที่ชอบนึกเรื่องเก่าเล่าความหลังนี้ แต่พยายามฝืนที่จะไม่กินของขม และยังไม่ชมเด็กสาว(ให้เห็น) อย่างนี้จะนับว่าเริ่มแก่แล้วหรือยัง คาดว่าท่านทั้งหลายคงจะตอบว่ายังไม่แก่อย่างแน่นอน ดังนั้นเรามานึกเรื่องเก่าเล่าความหลังกันให้พอเคลิ้มๆ
สนามหลวงเมื่อวันวาน |
ของกินที่หมายรวมถึงอาหารและขนมในสมัยห้าสิบปีก่อนหรือเก่าไปกว่านั้นมีมากมายจริงๆ
ตอนที่ข้าพเจ้าผู้เขียนยังเป็นเด็กจนถึงแตกเนื้อหนุ่มได้มีโอกาสรับประทานอาหารและขนมที่อร่อยๆบ่อยมาก
แทบจะเรียกว่าได้รับประทานหรือพูดแบบรากหญ้าว่ากินของอร่อยๆทุกวัน ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะต้องมีของอร่อยให้ซื้อกินอยู่เสมอ
ขนาดอยู่กับบ้านแท้ๆก็ยังมีแม่ค้าหาบของมาขาย มีทั้งอาหารคาวหวานขนมนมเนยผลหมากรากไม้
ซึ่งในปัจจุบันทั้งอาหารทั้งกับข้าวและขนมอร่อยๆที่หาบขาย ดันมาหายไปหมดอย่างน่าใจหาย
ร้านอาหารในสนามหลวง |
ที่สนามหลวงจะมีข้าวหมูแดงขายอยู่หลายเจ้า
จานที่ใส่ข้าวหมูแดงนี้ต้องว่าไม่ธรรมดาเลยเพราะใช้จานกระเบื้องแบบจานเปล
เคยรับประทานตั้งแต่จานละหนึ่งบาทซึ่งเหลือเชื่อว่า
ที่กรุงเทพฯเคยขายอาหารกันราคาเพียงแค่นี้
สมัยก่อนถ้าเป็นพวกข้าวต้องนับว่าข้าวมันไก่ข้าวหน้าเป็ดเป็นอาหารที่มีราคาแพงกว่าอย่างอื่น ตอนข้าพเจ้าผู้เขียนยังเด็กนั้น ถ้าวันไหนพี่เลี้ยงเอาอาหารกลางวันมาให้ที่โรงเรียน ถ้าเป็นข้าวมันไก่หรือข้าวหน้าเป็ด เพื่อนๆจะฮือฮากันเป็นที่ยิ่ง สมัยนั้นเป็ดไก่แพงเหนือชั้นกว่าเนื้อหมู
สมัยก่อนถ้าเป็นพวกข้าวต้องนับว่าข้าวมันไก่ข้าวหน้าเป็ดเป็นอาหารที่มีราคาแพงกว่าอย่างอื่น ตอนข้าพเจ้าผู้เขียนยังเด็กนั้น ถ้าวันไหนพี่เลี้ยงเอาอาหารกลางวันมาให้ที่โรงเรียน ถ้าเป็นข้าวมันไก่หรือข้าวหน้าเป็ด เพื่อนๆจะฮือฮากันเป็นที่ยิ่ง สมัยนั้นเป็ดไก่แพงเหนือชั้นกว่าเนื้อหมู
แม่ค้าขายน้ำตาลสดของแท้ที่สนามหลวง |
แม่ค้าขายมะตูมเชื่อม |
น้ำตาลสดเป็นของที่หากันได้ง่ายๆ มีพ่อค้าแม่ค้าหาบขายถึงหน้าบ้าน น้ำตาลสดทั้งหอมทั้งหวาน รสชาติของน้ำตาลสดของแท้นี้ไม่รู้ว่าจะอธิบายได้อย่างไร เรื่องมันถึงกับต้องไปลองหามาชิมดู หอมกว่าน้ำอ้อยมาก
ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วอร่อยกว่าสมัยนี้มาก ข้อนี้เป็นเพราะแต่ก่อนนั้นจะใช้น้ำมันหมูทำอาหาร น้ำมันหมูนี้ปกติเขาจะซื้อมันหมูเอามาเจียวทำเป็นน้ำมันหมูใส่หม้อเล็กกันเอง มีบ้างที่ซื้อน้ำมันหมูที่ทำเสร็จแล้ว ตอนเด็กผู้เขียนยังเคยช่วยคุณแม่คุณย่าเจียวน้ำมันหมูบ่อยๆ น้ำมันหมูนี้เวลาเจียวแล้วจะเหลือกากหมูที่ใช้กินได้อร่อยสำหรับคนชอบรสมันๆกรอบๆ
ก๋วยเตี๋ยวหลอดยุคนั้นถ้าจะกินกันแบบโก้หรูแล้ว เขาจะโรยด้วยกากหมูต้นหอมผักชี กินกันพุงกาง หรือหรูสุดก็จะเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดม้วนห่อถั่วงอกและกากหมูเป็นเส้น ทำนองป่อเปี๊ยะแล้วหั่นราดด้วยซีอิ๊วดำธรรมดาๆ กินกันอร่อยเหลือหลาย ก๋วยเตี๋ยวหลอดสมัยนั้นไม่มีเครื่องใส่เยอะแยะแบบสมัยนี้ จะมีแค่ถัวงอกต้นหอมผักชีและกากหมูเป็นตัวชูโรง แต่แปลกมากที่อร่อยกว่าก๋วยเตี๋ยวหลอดที่มีเครื่องเยอะแบบยุคนี้มาก
น้ำลำไยน้ำบ๊วยใส่โหลแก้วมีน้ำแข็งพร้อม ขายกันอย่างนี้ |
น้ำผึ้งนับรวงไม่ได้เลย มากันเป็นกองๆ |
โจ๊กแบบสมัยก่อนเดี๋ยวนี้ก็แทบไม่เห็นแล้ว สมัยนี้มีแต่โจ๊กกลายพันธุ์จนจำเกือบไม่ได้ว่านี่คือโจ๊ก โจ๊กรุ่นเก่าของแท้นั้นจะมีหมูมีตับเป็นหลัก กระเพาะหมูมีน้อยมากที่จะใส่กัน ของสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือต้องมีขิงสดซอยเป็นเส้น ต้นหอมผักชี ใส่ปาท่องโก๋ที่เอาไม้หนีบให้แตก ปาท่องโก๋นี้คนไทยเรียกชื่อผิด เพราะที่จริงคนจีนเขาเรียกอิ่วจาก๊วย และเครื่องที่ใส่โจ๊กอย่างสุดท้ายต้องมีเส้นหมี่กรอบ เฉพาะเส้นหมี่กรอบใส่ในโจ๊กนี้ ปัจจุบันหายากมากสำหรับโจ๊กสมัยนี้
หมูสะเต๊ะปิ้งได้ทีละหน่อย |
หม้อก๋วยเตี๋วทองเหลือง |
หมูสะเต๊ะเป็นของกินยอดฮิตอย่างหนึ่งในยุคนั้น
จะมีคนหาบหมูสะเต๊ะมาขายถึงหน้าบ้าน ปิ้งกันควันโขมง
พอปิ้งควันตลบได้ที่แล้วกลิ่นของเจ้าหมูสะเต๊ะนี้จะเรียกลูกค้ามาซื้อเอง กินกับขนมปังปิ้งบนรางเตาถ่านหอมดี
หาบเร่ที่ดูดีเป็นพิเศษก็คือหาบเร่ขายก๋วยเตี๋ยวแคะและหาบเร่ที่เขาขายกระเพาะปลา เฉพาะสองอย่างนี้ราวกับเป็นเครื่องหมายการค้าว่า จะต้องเป็นหาบทองเหลืองเท่านั้น ถ้าขายอย่างอื่นจะไม่ใช้หาบแบบนี้เลย
ย่านเยาวราชไปจนถึงแถบวรจักรสะพานเหล็กจะมีอาหารคล้ายกันกับข้าวราดแกงของคนไทยอย่างหนึ่ง เรียกว่าข้าวพระรามลงสรง รับประทานที่
ข้าวพระรามลงสรง |
ผู้เขียนเคยเห็นคนขายข้าวพระรามลงสรงแบบโบราณแท้ๆครั้งสุดท้ายประมาณสามสิบกว่าปีก่อน
เจอโดยบังเอิญในตรอกแคบๆแถบเยาวราช อาแป๊ะแกหาบขายด้วยเครื่องหาบแอนติคเก่าแก่มาก
ไม่รู้ว่าแกหาบไหวได้อย่างไร ยังจำเสียงแกร้องขายว่า “ซาแต๊ซัวเถา”
หาบของอาแป๊ะเหมือนในหนังกำลังภายในเลย
คือเป็นแบบแผงกระบะที่คล้ายๆตู้ไม้สี่เหลี่ยม ใต้ตู้มีถ่านไม้สำรองไว้ด้วย
บนตู้กระบะมีช่องที่เรียกว่าเก๊ะใส่เครื่องปรุง
ป่านนี้แกคงไปเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้แล้ว
ตือฮวนของแท้
ทันเห็นอาซิ้มแต่งตัวหาบของแบบนี้ด้วยครับ |
ของกินที่แทบสูญไปอีกอย่างคือข้าวเฉโป
ข้าวเฉโปนี้ประมาณว่าจะเอากับข้าวหลายๆอย่างโปะลงบนข้าวสวยแบบฟาสฟู๊ด หรืออาหารญี่ปุ่นแบบที่มีคำว่า
“ด้ง” ว่ากันว่าเรียกข้าวเสียโป เพราะเล่นโปจนหมดกระเป๋าแล้วเงินไม่พอสั่งกับข้าวแบบเป็นจานๆ
เลยซื้อกินได้แค่ข้าวจานหนึ่งหรือชามหนึ่ง แล้วเอากับข้าวโปะๆแบบรวมมิตรมาเท่านั้น
นึกเรื่องเก่า เล่าความหลัง แบบเรื่องของกินนั้น ยังเล่าได้อีกยาวหลายอารมณ์ หลายรสชาติ และหลายแม่ค้า...
**รูปภาพจากหลายๆเว็บไซต์ ขออภัยที่ลืมเก็บข้อมูล เพราะตอนหารูปภาพยังใช้งานสื่อฯไม่ค่อยเป็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น