วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พระพุทธรูป.๕ พระพุทธตรีโลกเชษฐ์

พระพุทธตรีโลกเชษฐ์
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร



พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ เป็นพระประธานในพระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวราราม แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ วัดสุทัศนฯนี้นับว่าเป็นวัดประจำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ แห่งราชวงศ์จักรี


     พระพุทธตรีโลกเชษฐ์มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ ศอก ๘ นิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะงดงามสมส่วน พระพักตร์ดูอิ่มเอิบ พระโอษฐ์ดูเหมือนยิ้มน้อยๆ พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีสูง เป็นปูนปั้นลายปิดทองคำเปลวประดับกระจกสี 



        บริเวณด้านหน้าของพระพุทธตรีโลกเชษฐ์ ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นลงสี และมีรูปปูนปั้นพระอสีติมหาสาวก ๘๐ องค์นั่งประชุมอยู่เบื้องหน้า  พระอสีติมหาสาวก ๘๐ องค์นี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นแทนพระศรีศาสดา ที่อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ


     คนในสมัยปัจจุบันแทบไม่มีใครทราบเลยว่า พระศรีศาสดาเคยประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศนฯ

     พระพุทธรูปและพระอสีติมหาสาวกสร้างด้วยปูนปั้นลงสี พระอสีติมหาสาวกนั้นปั้นเป็นรูปนั่งพนมมือ ลักษณะอาการกำลังฟังพระบรมโอวาทจากพระพุทธองค์ ซึ่งประทับเป็นประธานอยู่เบื้องหน้า



พระพุทธตรีโลกเชษฐ์และพระอสีติมหาสาวก

พระอรหันต์ ๘๐ รูป

พระอสีติมหาสาวกเป็นแบบปูนปั้น



      พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระอุโบสถวัดสุทัศนฯ โดยเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. ๒๓๗๗ สำเร็จเรียบร้อยในปี พ.ศ. ๒๓๘๖


     พระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร นั้น เป็นพระอุโบสถที่มีขนาดใหญ่ และมีความยาวที่สุดในประเทศไทย คือ มีขนาดกว้าง ๒๒.๖๐ เมตร ยาว ๗๒.๒๕ เมตร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนตามแบบสถาปัตยกรรมไทย เป็นอาคารสูงใหญ่มาก มีเสาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่รองรับหลังคาทั้งหมด ๖๘ ต้น มีหลังคา ๔ ชั้น และขั้นลด ๓ ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หลังคาพระอุโบสถมุงกระเบื้องเคลือบสีเขียวเป็นพื้น คั่นกรอบด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง


พระพุทธตรีโลกเชษฐ์

ด้านหลังพระพุทธตรีโลกเชษฐ์


พระพักตร์พระพุทธตรีโลกเชษฐ์

     หน้าบันมุขหน้าและหลังเป็นไม้แกะสลักลายประดับกระจกสี ด้านหน้าหรือด้านทิศตะวันออกแกะสลักเป็นรูปพระอาทิตย์ประทับนั่งในบุษบกบนราชรถเทียมราชสีห์ มีพระวรกายเป็นสีแดงสวมเทริดทรงน้ำเต้ากลม พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัวบาน หมายถึงการห้ามอันตรายทั้งปวง ส่วนพระหัตถ์ขวาถือดอกบัวตูม หมายถึงการอำนวยพร

     ด้านหลังหรือด้านทิศตะวันตก สลักเป็นรูปพระจันทร์ประทับนั่งในบุษบกบนราชรถเทียมม้า  มีพระวรกายสีขาว สวมเทริดทรงน้ำเต้ากลม พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์

     ผนังพระอุโบสถได้เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างชั้นครูในสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นภาพพระพุทธประวัติ และมีภาพพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

     ถ้าสังเกตภาพจิตรกรรมดูจะเห็นว่า ได้วาดภาพสอดแทรกไว้เป็นเรื่องชีวิตประจำวันของคนไทย และมีภาพชาวต่างชาติเช่น คนจีนกำลังรำกระบี่

จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดสุทัศนฯ






     ซุ้มประตูและหน้าต่างเป็นซุ้มยอดพระพิชัยมหามงกุฎ ที่มีลักษณะค่อนข้างแปลกตาและงดงามมากโดยรอบพระอุโบสถมี ซุ้มเสมายอดเจดีย์ ทั้งหมด ๘ ซุ้ม คือเป็นซุ้มเสมาที่ทำเรือนซุ้มเป็นรูปสี่เหลี่ยม ยอดซุ้มทำเป็นรูปทรงอย่างเจดีย์  มีใบเสมา ๒ ใบ เรียกว่าเสมาคู่ เป็นหินสลักรูปช้าง ๓ เศียรชูงวง  แต่ละงวงถือ ดอกบัวตูม ๓ ดอก และดอกบัวบาน ๒ ดอก เกสรดอกบัวบานเป็นรูปสัตว์ เป็นรูปนกนั้น หมายถึงพระอาทิตย์ และเป็นรูปกระต่ายนั้น หมายถึงพระจันทร์ สันนิษฐานว่า หมายถึงรัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ ที่เสด็จสวรรคตไปแล้ว ดอกบัวตูม ๓ ดอก หมายถึงสร้างโดยรัชกาลที่ ๓ สมัยยังทรงพระชนม์ ที่ด้านบนกำแพงแก้วมีเกยทางทิศเหนือ ๔ เกย ทิศใต้ ๔ เกย ทำด้วยหินอ่อนสีเทา สำหรับใช้ในงานพระราชพิธีประทับโปรยทานแก่พสกนิกร เรียกว่า เกยโปรยทาน

     สำหรับ ซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถ บานประตูด้านนอกเป็นภาพจิตรกรรมรูป ครุฑยุดนาคซึ่งเป็นพระราชสัญลักษณ์ประจำพระองค์ในรัชกาลที่ ๒ มาจากพระนามเดิมว่า ฉิม และคำว่าวิมานฉิมพลีเป็นที่พำนักของพญาครุฑ จึงทรงใช้ครุฑเป็นตราประจำพระองค์แทนพระบรมนามาภิไธย

     รอบๆพระอุโบสถมีรูปหินแบบจีนที่เรียกว่าอับเฉาตั้งประดับไว้ อับเฉาหรือหินอับเฉาเหล่านี้ทำเป็นรูปแบบจีน จินตนาการว่าเป็นเซียนเป็นนางฟ้าอยู่รอบๆพระอุโบสถ มีรูปสิงโตจีนเล็กใหญ่

     ที่ไม่ค่อยมีคนทราบหรือสังเกตกันก็คือ ที่ด้านนอกของกำแพงแก้วตรงริมกำแพงวัดทั้งสี่ด้านที่ติดกับถนน ได้มีการจำลองสวนสวรรค์ทั้งสี่ของพระอินทร์ไว้ด้วย โดยใช้ตุ๊กตาอับเฉารูปร่างต่างๆมาประดับ

     ปัจจุบันทางวัดสุทัศนฯได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะพระพุทธตรีโลกเชษฐ์ และชมความงดงามของพระอุโบสถทุกวัน ภายในพระอุโบสถ์มีฆ้องใบใหญ่ให้ตีเอาฤกษ์เอาชัยด้วย


พระอสีติมหาสาวกปั้นใบหน้าไม่เหมือนกัน

พระอสีติมหาสาวกมีที่ผิวดำด้วย



ภาพsihawatchara


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น