วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

กฏแห่งกรรม..เรื่องที่ ๗ มรดกชิ้นสุดท้าย

กฏแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว..ท.เลียงพิบูลย์
เรื่องที่ ๗ 
มรดกชิ้นสุดท้าย





     เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลงไม่นานนัก  บิดาของข้าพเจ้าได้ถึงแก่กรรมลง  เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ฐานะของครอบครัวขาดรายได้ลงอย่างกระทันหัน  และนับเป็นก้าวแรกที่คุณแม่และข้าพเจ้าต้องรับผิดชอบ  และดิ้นรนต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของครอบครัว  คุณแม่ได้ทำการค้าขายเล็กๆน้อยๆ  เพื่อเป็นค่าครองชีพและส่งเสียให้น้องๆได้เล่าเรียน  และโดยเหตุนี้เองที่ข้าพเจ้าต้องหยุดชะงักการเล่าเรียน   แสวงหางานทำเพื่อเอารายได้มาช่วยคุณแม่  เป็นค่าใช้จ่ายและส่งเสียให้น้องได้เล่าเรียนต่อไป


     ชีวิตของข้าพเจ้าได้เริ่มต้น  ข้าพเจ้าหมายถึงการเริ่มต้นเข้าต่อสู้กับลีลาชีวิตในอันที่จะบุกเบิกต่อไปเพื่ออนาคตอันรุ่งเรืองแจ่มใส  ซึ่งทุกคนหวังและปรารถนา   เมื่ออายุข้าพเจ้ายังไม่ครบ  ๒๐  ปี  แม้ว่าจะยังไม่พ้นวัยศึกษาขั้นมหาวิทยาลัย  แต่ความจำเป็นในเรื่องฐานะของครอบครัวเพราะขาดบิดาบังเกิดเกล้า  บังคับให้ข้าพเจ้าต้องกระเสือกระสนหารายได้มาช่วยเหลือทางบ้าน  โปรดทราบว่าครอบครัวของข้าพเจ้ามีอยู่ด้วยกัน  ๔  ชีวิตคือ  มารดาของข้าพเจ้า ๑  กับน้องชายซึ่งกำลังอยู่ในวัยเล่าเรียนอีก ๒  คนเท่านั้น  เราทั้งสี่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของเราเองอันเป็นสมบัติของคุณพ่อสร้างสมไว้ให้

     ต่อมา  ข้าพเจ้าได้งานทำที่สำนักงานแห่งหนึ่ง  ก่อนที่จะได้เข้าประจำทำงานที่สำนักงานแห่งนี้  ข้าพเจ้าได้ตั้งสัจจะไว้ในใจว่าจะมีความอดทนไม่ว่างานยากหรือง่าย  จะปฏิบัติงานให้ดีที่สุดเต็มความสามารถ  จะขยันหมั่นเพียนในการงานและตั้งใจอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต  ด้วยสัจจะ  ๓  ประการนี้  ข้าพเจ้าแน่ใจว่าจะเป็นหลักช่วยให้ได้รับความเจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต 

     เมื่อได้เข้าทำงานแล้ว  ข้าพเจ้าได้พยายามปฏิบัติตนตามอุดมคติที่ตั้งไว้โดยเคร่งครัด  งานทุกสิ่งที่สามารถทำได้โดยไม่ผิดระเบียบข้อบังคับ  ไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าหรือลับหลังนายจ้าง  ข้าพเจ้าทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจด้วยความอุตสาหะมานะ ไม่ผิดแผกจากกันเลย  มีเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนที่สังเกตได้ว่า  เมื่อต่อหน้านายจ้าง  เขาทำงานด้วยความขยันขันแข็ง  พอนายพ้นไปแล้วเขาก็วางมือคุยกัน  บางทีก็รวมหัวกันนินทาตำหนิติเตียนคนอื่นหรือเพื่อนร่วมงานด้วยกัน   ที่สุดบางครั้งก็เลยเอานายจ้างมานินทาถกกัน  สิ้นไส้สิ้นพุงไปเลย

     ข้าพเจ้าทำงานอยู่ที่นี่ไม่นานนักก็รู้สึกตัวว่าเริ่มอยู่ในความสนใจของนายจ้าง  บางครั้งสังเกตได้ว่า  สายตาที่จ้องมองข้าพเจ้านั้นแฝงไว้ด้วยความเมตตาปรานี  และเคยได้ยินโดยบังเอิญขณะที่ท่านสนทนาอยู่กับเพื่อนฝูงเป็นการชมเชยข้าพเจ้า  เด็กคนนี้มันเอาถ่าน  ข้าพเจ้าสารภาพว่าเพียงถ้อยคำแค่นี้  มันมีความหมายสำหรับข้าพเจ้ายิ่งนัก  ทำให้เถิดความภาคภูมิใจและดีใจยิ่งกว่าได้บำเหน็จรางวัล  เพราะอย่างน้อยก็หมายความว่า  สัจจะของข้าพเจ้าได้ส่งผลสะท้อนอย่างทันตาเห็นโดยปกติคนงานทุกคนเรียกนายจ้างผู้นี้ว่า นาย   ฉะนั้น  ต่อไปนี้ข้าพเจ้าขอให้สรรพนามเรียกท่านว่า  นาย  ในทุกแห่ง

     ต่อมาอีกประมาณ  ๑  ปี   ข้าพเจ้ามีความจำเป็นต้องขอลาออกจากงานแห่งนี้ด้วยความเสียดายและอาลัยอาวรณ์ยิ่ง   แต่ว่าเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้  เพราะจะต้องเข้ารับราชการทหาร  เป็นการรับใช้ชาตินับว่ามีความสำคัญเหนือสิ่งอื่น  เมื่อวันที่ข้าพเจ้าไปลานายนั้น   จำได้ว่าสีหน้าของท่านเผือดลงเล็กน้อย   และแสดงความเสียใจที่ข้าพเจ้าต้องจากไป  เพื่อรับใช้ชาติตามหน้าที่ของลูกผู้ชาย  ที่สุดนายจ้างได้สั่งจ่ายเงินเดือนในเดือนนั้นซึ่งยังไม่ครบให้เต็มจำนวน  และยังสั่งจ่ายพิเศษเพิ่มให้อีก ๓ เดือนนั้นข้าพเจ้าถือว่าเป็นบำเหน็จที่นายให้แก่ข้าพเจ้าด้วยความกรุณาปราณีโดยแท้  ข้าพเจ้ากล่าวขอบพระคุณด้วยความรู้สึกอันเปี่ยมล้นด้วยกตัญญูกตเวทีต่อเมตตาจิตของท่าน

     อย่างไรก็ตาม  วิถีชีวิตของข้าพเจ้าและครอบครัวขณะนี้  ต้องนับว่าอยู่ในลักษณะลุ่มๆดอนๆไม่ราบรื่นนัก  รายได้ของข้าพเจ้าที่เคยช่วยเหลือมารดาต้องขาดหายไปทั้งหมด ก็นับว่ามากสำหรับฐานะอย่างเราทำให้การใช้จ่ายทางบ้านฝืดเคือง  ตลอดจนน้องอีก  ๒  คนที่กำลังเรียนด้วยพลอยได้รับความลำบากไปด้วย  โดยเหตุนี้เองคุณแม่จึงต้องทำงานมากขึ้นอีก  ต้องลำบากตรากตรำไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย  เพื่อหารายได้มาจุนเจือให้พอค่าใช้จ่าย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้การศึกษาของน้อง  ๒ คนให้ดำเนินต่อไปอย่างตลอดรอดฝั่ง  แต่เคราะห์กรรมไม่เคยปราณีแก่ผู้ใด  ไม่ว่าจะเป็นคนชั่วร้ายหรือคนบริสุทธิ์  เพราะว่าตราบใดที่โลกนี้ยังเป็นโลกที่หนาทึบไปด้วยความทุกข์  มีแต่ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน  ตราบนั้น  แต่ละชีวิตของปุถุชนก็ย่อมประสบความผันแปรของชีวิตอยู่เสมอ  อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

     เพราะต่อมาปรากฏว่า  ข้าพเจ้ารับราชการทหารไม่ทันได้ครบปีมารดาของข้าพเจ้าได้ล้มเจ็บลง  เนื่องจากต้องตรากตรำทำงานแบบไม่มีเวลาพักผ่อน  ประกอบด้วยสังขารอันร่วงโรยด้วยความชรา  อาการป่วยของคุณแม่ค่อนข้างหนัก  ข้าพเจ้าเป็นห่วงท่านอย่างยิ่งเพราะท่านเป็นเสมือนพระของเราสามพี่น้อง  มีท่านเป็นสุดที่รักเคารพเพียงผู้เดียวเท่านั้น ข้าพเจ้าขออนุญาตลาได้ก็รีบตรงไปยังบ้านทันที  เราต้องจ่ายค่ายา   ค่าหมอ เป็นจำนวนมาก  และข้าพเจ้าจะอยู่พยาบาลท่านนานนักก็ไม่ได้  เนื่องด้วยกำหนดที่ได้รับอนุญาตมีเวลาจำกัด  ประกอบกับมีราชการต้องปฏิบัติเป็นประจำ

     ขณะอยู่ในกรมทหาร  ข้าพเจ้ามีแต่ความกังวลใจในอาการป่วยของมารดา  และในเรื่องทุนทรัพย์ที่จะต้องใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล  จนไม่เป็นอันกินอันนอน  ฐานะความเป็นอยู่ของเราไม่มั่งมี  ในขณะนี้เงินทองที่ได้อุตส่าห์รวบรวมเก็บหอมรอมริบไว้ได้เล็กน้อยก็ค่อยหมดไป  จนกระทั่งของมีค่าในบ้านก็แทบจะไม่มีอะไรเหลือ  ที่ยังเห็นอยู่เป็นชิ้นสุดท้ายก็คือที่ดินแปลงเล็ก  พร้อมด้วยตัวบ้านที่เราอาศัยอยู่เท่านั้น  แต่เมื่อถึงคราวจำเป็น  ไม่มีทางอื่นที่จะได้เงินมาเพื่อสนองพระเดชพระคุณมารดาแล้ว  เราก็จำเป็นต้องกระทำ  นั่นคือเอาบ้านของเราจำนองเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายรักษาท่านผู้บังเกิดเกล้าของเรา 

     หลังจากได้ปรึกษาหารือกันระหว่างพี่น้องเห็นดีตกลงกันแล้ว  ข้าพเจ้าก็ได้ไปติดต่อกับนายหน้าซื้อขายจำนองบ้านและที่ดิน  เมื่อปรากฏว่ามีผู้สนใจจึงนำเอาโฉนดที่ดิน  พร้อมทั้งแจ้งความจำนงในจำนวนเงินที่ต้องการให้ทราบ  เมื่อผู้ซื้อได้ตรวจดูโฉนดและเห็นสภาพบ้านก็มีความพอใจ  แต่มีข้อขัดข้องที่จะไม่รับทำจำนอง  เพราะเขาไม่ปรารถนาจะให้เกิดเป็นความ  ฟ้องร้องเพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์  เมื่อถึงคราวขาดอายุจำนอง  จะรับได้ก็แต่วิธีขายฝากเท่านั้น   นอกจากนั้นผู้ซื้อก็ชี้แจงวิธีการต่างๆ  ที่เกี่ยวกับการขายฝากที่ดินบ้านช่อง  มีค่าปากถุง ค่าดอกเบี้ย  ค่าโอน  ค่านายหน้า เป็นต้น  เมื่อคำนวณดูแล้วเป็นค่าใช้จ่ายสูงมากพอดู  ข้าพเจ้ายังไม่สามารถที่จะตกลงใจอย่างไรได้ขณะนี้  จึงต้องขอผัดเจ้าของเงินหรือผู้ซื้อ  ไปตกลงกันดูก่อน  แล้วจะแจ้งให้ทราบภายหลัง 


     ข้าพเจ้าติดต่อผู้ซื้อรายอื่นอีกหลายแห่ง  แต่ละแห่งปรากฏว่าจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายต้องเสียนั้นไม่ผิดกว่ากันเท่าใด  แต่เมื่อต้องเห็นมารดารับทุกข์เวทนาอันเกิดจากการป่วยไข้   เป็นการทรมานและบีบคั้นจิตใจข้าพเจ้าอยู่ทุกวัน  จึงคิดตกลง  แต่มาฉุกคิดถึงความสำคัญประการหนึ่ง  ในหน้าโฉนดนั้นเจ้าของกรรมสิทธิ์ยังเป็นชื่อของมารดา  ทำให้ข้าพเจ้าต้องหยุดชะงักท้อใจทันที  เพราะการทำสัญญาซื้อขายหรือโอนกรรมสิทธิ์นั้น  จะต้องให้ท่านลงนามในใบมอบฉันทะให้ข้าพเจ้าจัดการแทนจึงลำบากใจ  เพราะท่านกำลังป่วยมีอาการหนักอยู่  ถ้าหากท่านทราบว่าเราจะต้องนำเอาบ้านและที่ดินที่มีอยู่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายไปขายไปจำนอนเสียแล้ว  ความป่วยไข้คงกำเริบเหลือกำลังที่จะเยียวยาได้ 

     ข้าพเจ้าคะเนว่าท่านคงจะไม่ยอมขาย  และไม่ยอมให้รักษาด้วยเงินที่ขายบ้านช่องอย่างแน่ๆ จะมีอยู่ทางเดียวก็คือ  ผู้ซื้อจะต้องยอมรับซื้อฝากไว้โดยไม่ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ก่อน  แต่จะมีใครที่จะใจกว้างพอยอมรับซื้อโดยวิธีนี้ได้  ข้าพเจ้าอับจนไม่สามารถจะแก้ปัญหาข้อนี้ได้  รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวมีแต่ความมืดมนและสิ้นหวัง ดังที่เรียกว่าความทุกข์ยากของชีวิตหรือความคับแค้นใจอย่างสาหัส  ข้าพเจ้าเพิ่งประสบรู้รสชาติในครั้งนี้เอง  ข้าพเจ้าหาทางออกที่จะหาเงินมาใช้รักษาไข้มารดาผู้บังเกิดเกล้าด้วยวิธีต่างๆ  แต่ก็มองเห็นแต่ความล้มเหลว  มีแต่ความเศร้าหมองแลทุกข์ระทม

      แต่แล้วขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอยู่ในความมืดแปดด้าน  ในบัดดลราวกับปาฏิหาริย์เหมือนมีสิ่งหนึ่งมาบันดาลใจให้นึกถึงคำว่า นาย  นายผู้ซึ่งเคยเป็นนายจ้างของข้าพเจ้า  ผู้ซึ่งเคยออกปากว่าข้าพเจ้าเป็นเด็กเอาถ่าน  นายผู้นี้คงจะเป็นที่พึ่งในยามอับจนได้กระมัง ข้าพเจ้ารู้สึกลิงโลดใจขึ้นมาทันที  เกิดความหวังแต่ความคิดที่เพิ่งดีอกดีใจนั้น ต้องพลันชะงักลงอีกเมื่อนึกได้ว่า  ไม่เคยเห็นนายรับจำนองจำนำที่ดินหรือสิ่งใดเพื่อเอาดอกเบี้ยเลย  ข้าพเจ้าจะทำฉันใดดี     เมื่อเกิดความรู้สึกค้านลังเลใจขึ้นมาเช่นนี้  ในที่สุดไม่เห็นว่ามีทางออกทางใดจะดีไปกว่านี้   ข้าพเจ้าจึงตกลงใจยอมเสี่ยงดู  เป็นความหวังทางเดียวที่มีอยู่เป็นประการสุดท้ายแล้ว

     เมื่อข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ลาจากผู้บังคับบัญชาที่กรมทหารแล้ว ก็รีบตรงไปหานายเก่าของข้าพเจ้าพร้อมด้วยโฉนดที่ดิน  ปรากฏว่าท่านกำลังว่างไม่มีแขก  อยู่ในห้องส่วนตัวแต่ลำพัง  ข้าพเจ้าพยายามทำจิตใจให้สงบระงับความตื่นเต้น  เข้าไปขอพบกับท่านเป็นการส่วนตัว  เมื่อได้รับอนุญาตแล้วข้าพเจ้าก็เข้าไปหา  แสดงกิริยาคารวะและนอบน้อมต่อท่านเหมือนอย่างเคย

     “เป็นอย่างไรบ้าง  สบายดีหรือ  เธอมีอะไรจะให้ฉันช่วยได้บ้าง”  นั่นเป็นประโยคแรกที่นายกล่าวแก่ข้าพเจ้า

     เป็นที่น่าประหลาด  เพราะถ้อยคำที่กล่าวออกมาเสมือนหนึ่งท่านได้อ่าน  และรู้จิตใจข้าพเจ้าอย่างทะลุปรุโปร่ง  ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความหวังคลายประหม่าลง  แล้วข้าพเจ้าก็ฝืนใจเริ่มเรื่องข้าพเจ้าอย่างตรงไปตรงมา

     ท่านนั่งฟังเรื่องราวที่ข้าพเจ้าเล่าถึงความจำเป็น  และความคับแค้นหมดทางดิ้นรนที่จะหาเงินใช้จ่ายรักษามารดาด้วยความสนใจ  เมื่อข้าพเจ้าระบายเรื่องให้ท่านฟังโดยละเอียดจบแล้ว  ก็รู้สึกโล่งใจผ่านพ้นอุปสรรคไปได้เปราะหนึ่ง  แต่ก็ยังแอบคิดตำหนิตัวเองไม่ได้ที่พูดตกหล่นในบางข้อบางตอน  ข้าพเจ้ายังไม่สิ้นความประหม่า และไม่เคยชินต่อการอ้อนวอนของเรื่องการเงินกับใครมาก่อน  จึงทำให้พูดผิดๆถูกๆ  แม้กระนั้น  สังเกตได้ว่านายมีความเข้าใจเรื่องของข้าพเจ้าดี  นายนิ่งตรึงตรองอยู่สักครู่หนึ่งก็กล่าวว่า

     “เอาเถิด  ฉันตกลงใจให้ความช่วยเหลือตามที่เธอต้องการ  และฉันก็ไม่คิดว่าจะต้องจำเป็นไปโอนที่เกษตรอย่างผู้อื่นเขาทำกัน  เพราะมันอาจเป็นเหตุกระเทือนใจมารดาของเธออย่างเธอว่า  เอาแต่เพียงว่า  เธอทำสัญญากู้เงินฉบับเดียว  แล้วเอาโฉนดนี้เป็นประกัน  ส่วนดอกเบี้ยก็คิดกันตามกฎหมายก็แล้วกัน  เธอก็คงรู้ดีว่าฉันไม่ชอบและไม่เคยรับจำนงจำนองของใครมาก่อนเลย  แต่สำหรับเธอฉันจะช่วยเป็นพิเศษ  เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที  และประวัติของเธอไม่เคยเป็นคนเหลวไหล
  
     ข้าพเจ้าน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจและดีใจ  เพราะอุปสรรคอันใหญ่หลวง  ดุจทิวเมฆทะมึนที่ครอบงำชีวิตของข้าพเจ้าให้จมลงในความมืดได้สูญสิ้นไปในฉับพลันทันที   ข้าพเจ้าได้พบแสงสว่างอีกครั้งหนึ่งจากเมตตาจิตของนาย  ผู้เป็นเสมือนหนึ่งเทพเจ้าที่กรุณามายกเอาความทุกข์ออกจากอก  ข้าพเจ้ากราบท่านแล้วกราบท่านอีก  ด้วยความปลาบปลื้มใจ  และรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณอย่างใจจริง

      ท่านห้ามมิให้ข้าพเจ้าแสดงกิริยาต่อท่านเกินไป  ใบหน้าท่านยิ้มแสดงความเมตตาปราณี  และแสดงความพอใจที่ได้ช่วยเด็กจนๆอย่างข้าพเจ้าให้พ้นความลำบาก  เป็นกุศลผลบุญให้ท่านอิ่มใจ ต่อมาไม่ช้าข้าพเจ้าก็ได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการ  การทำหนังสือสัญญานั้นกระทำกันอย่างพอเป็นพิธี   ไม่ได้มีการระบุเงื่อนไขผูกมัดแต่อย่างใด  ข้าพเจ้าก็มอบโฉนดที่ดินไว้กับสัญญา    ตามที่ได้ตกลงในสัญญาก็ไม่มีกำหนดว่าจะต้องไถ่ถอนคืนเมื่อใด  ทั้งนี้ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าซาบซึ้งในพระคุณของนายอย่างสุดคณนา

     “เงิน”  บันดาลให้ได้ยาตามใบสั่งแพทย์  ได้อาหารที่ดีควรแก่การบำรุงผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง  เงินที่ได้จากนายเก่าของข้าพเจ้าสามารถช่วยบำบัดให้มารดาค่อยๆทุเลาขึ้นเป็นลำดับ   จนหายป่วยในเวลาไม่ช้านัก  ข้าพเจ้าคอยรอโอกาสให้มารดาได้พักฟื้นจากอาการป่วย  จนแน่ใจว่าหายปกติดีแล้ว  จึงได้เรียนให้ท่านทราบเรื่องที่นำเอาโฉนดบ้านไปจำนองกู้เงินจากนายเก่ามาใช้จ่ายรักษาพยาบาลท่าน  และได้ให้คำมั่นสัญญาต่อท่านว่า   เมื่อข้าพเจ้าพ้นจากการรับราชการทหารแล้ว  จะรีบหางานทำเพื่อนำเอาเงินไปไถ่ถอนคืน  ท่านก็ไม่ว่ากระไร  

     ในจำนวนเงินที่ได้มาจากการกู้นั้น  เมื่อใช้จ่ายเป็นค่ายาค่าหมอการอื่นๆแล้ว  ยังคงมีเงินเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง  ข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะเอาเงินจำนวนนี้ไปลงทุนทำกิจการค้าเพื่อให้เกิดกำไร  แต่ก็ยังลังเลใจอยู่ไม่อาจทำสิ่งใดที่เป็นการเสี่ยง  คิดว่าจะรอดูโอกาสหาทางต่อไปก่อน 

     พอดีวันหนึ่งเพื่อนของข้าพเจ้าผู้หนึ่งมาหาด้วยอาการร้อนรน  บอกว่าตัวเขากำลังเข้าที่อับจน  หมดหนทางที่จะพึ่งใครได้แล้ว  เนื่องจากได้เอาเงินที่อยู่ในความรับผิดชอบในหน้าที่การงานไปใช้และกำลังจะถูกสำรวจบัญชี  ถ้าหากถูกตรวจพบว่าเงินที่อยู่ในความรับผิดชอบขาดหายไป  ก็ต้องได้รับโทษถึงจำคุก  อย่างสถานเบาก็คือ ไล่ออก”  ข้าพเจ้าถามว่าเงินจำนวนนั้นเขานำไปใช้ทำอะไร  ก็ได้รับคำตอบว่าทั้งบุตรและภรรยาเกิดป่วยพร้อมกัน  จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ปัญหาเรื่องอาการป่วยของบุตรและภรรยาอันเป็นสุดที่รัก  แม้จะเป็นการเสี่ยงอันตรายก็จำต้องยอม 

     ข้าพเจ้ารู้สึกสงสารจับใจ  เริ่มคิดถึงตัวเองเมื่อไม่นานมานี้  ข้าพเจ้าต้องประสบกับความอับจนมีทุกข์แสนสาหัสด้วยเรื่องเจ็บไข้  รสชาติของความทุกข์ทนหม่นหมองยังไม่เลือนไปจากความทรงจำ  คนที่เคยทุกข์มาแล้วย่อมจะเห็นใจกัน  ข้าพเจ้าจึงตกลงให้ความช่วยเหลือโดยเจียดเงินจำนวนหนึ่งจากที่มีเหลืออยู่นั้น  ให้เอาไปแก้ขัดพลางก่อน แล้วเพื่อนผู้นั้นก็อำลาจากไปด้วยความรู้สึกเบิกบานใจ  คล้ายกับที่ข้าพเจ้าเคยรู้สึกมาแล้ว  เมื่อได้รับความกรุณาจากนายเก่าผู้มีใจอารี

     เมื่อข้าพเจ้ารับราชการทหารจนครบกำหนด  ก็ได้รับการปลดออกเป็นทหารกองหนุน  ข้าพเจ้าก็รีบไปหานาย  เมื่อนายเห็นข้าพเจ้ากลับมาหามีความยินดีมาก  ให้รับข้าพเจ้าเข้าทำงานต่อไป  แม้ว่าขณะนั้นยังไม่มีตำแหน่งว่าง  ท่านก็ยังมีใจเมตตาข้าพเจ้า  ในการเข้าทำงานครั้งนี้นายเรียกตัวข้าพเจ้าเข้าไปรับใช้ในห้องส่วนตัวบ่อยๆ  ซึ่งบางครั้งให้พิมพ์หนังสือ  บางครั้งเมื่อเลขานุการของท่านไม่ว่าง   ข้าพเจ้าก็ได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่แทน  ข้าพเจ้าทำงานด้วยความตั้งใจ  และยึดมั่นในอุดมคติเหมือนเดิม  ไม่ยอมเอาเวลาของงานไปทำธุรกิจส่วนตัวหรือของผู้ใด  บางคราวข้าพเจ้ามีอาการป่วยไข้  เห็นว่ายังพอทำได้ก็พยายามอดทน  ไม่ยอมลาป่วย  บางวันนายสังเกตเห็นว่าข้าพเจ้ามีอาการไข้  เรียกเข้าไปถามข้าพเจ้าเรียนนายว่า  ข้าพเจ้ามีอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ยังพอทำงานได้  แต่นายไม่ยอม  สั่งให้ข้าพเจ้ารีบไปหาแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา  และมีคำสั่งเป็นเชิงบังคับให้ข้าพเจ้าปฏิบัติตามโดยดี  และให้ลาหยุดพักผ่อนได้ตามคำสั่งของแพทย์ 

     หลังจากเข้าทำงานเวลาผ่านไปอีกประมาณ ๖  เดือน  ข้าพเจ้าปรึกษากับมารดาและน้องๆว่า  เงินที่เหลืออยู่อีกกว่าครึ่งของจำนวนที่ขอกู้มา  ซึ่งในขึ้นแรกตั้งใจว่าจะเอาไปทำการค้านั้น  บัดนี้ยังไม่ได้ตกลงใจจะทำประโยชน์ในทางใด  จึงควรจะนำส่งคืนนายเสียก่อน  เพื่อเป็นการลดจำนวนเงินต้นที่กู้มา  ดอกเบี้ยจะได้ลดลงด้วย  ดีกว่าเก็บไว้เฉยๆ อนึ่ง  ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้รับเงินจากนายมาแล้ว  ก็ได้ส่งดอกเบี้ยตามกฎหมายที่ตกลงกันไว้ให้นายทุกเดือน  โดยไม่เคยขาดเลยตลอดจนเมื่อได้เข้าทำงานกับนาย  ก็ไม่เคยนำดอกไปส่งให้คลาดเคลื่อนเวลา  นายก็ไม่เคยทวงถามหรือคิดหักเงินเดือนของข้าพเจ้าไว้ก่อนเลย 

     ดังนั้นเมื่อท่านเห็นข้าพเจ้านำเงินที่เหลือจากใช้จากรักษามารดาส่งคืนครึ่งหนึ่งก่อน  ท่านก็ถามว่า  ข้าพเจ้าหมดความจำเป็นจะใช้แล้วหรือ  ข้าพเจ้าเรียนท่านว่า  บัดนี้ข้าพเจ้าหมดความจำเป็นแล้ว  ถ้าจำเป็นเมื่อใดก็จะกราบเรียนของความกรุณาอีก  ท่านก็ยิ้มด้วยความเมตตา  นำเอาใบสัญญากู้มาบันทึกสลักหลังว่าได้ใช้หนี้ผ่อนเงินต้นแล้วครึ่งหนึ่ง

      ข้าพเจ้าจำได้ว่าวันเวลาได้ผ่านต่อมาปีหนึ่งก็แล้ว  ผ่านปีที่สองก็ตาม  ข้าพเจ้ายังอุทิศตนเองให้กับงานของนายด้วยความอุตสาหะขยันขันแข็ง  ซึ่งข้าพเจ้ามิเคยวิตกกังวลว่าใครจะเห็นใครจะทราบหรือไม่  ข้าพเจ้าดำเนินกิจการในพื้นที่ของข้าพเจ้าเสมอตลอดมา  และในระยะ ๒ ปี นี้เอง  บรรดาเพื่อนร่วมงานหลายคนต่างก็ได้รับเงินเดือนขึ้น  แต่เป็นที่น่าประหลาดใจแก่บุคคลเหล่านั้นที่ได้ทราบว่า  ข้าพเจ้าไม่ได้รับเงินเดือนขึ้นอย่างคนอื่นๆ ทั้งๆที่ประจักษ์แจ้งอยู่ว่าข้าพเจ้าปฏิบัติงานอย่างดีที่สุด  เพื่อนร่วมงานบางคนที่เคยมีใจริษยาข้าพเจ้า  ในกรณีที่นายแสดงความเมตตาปราณีเป็นพิเศษ  เรียกใช้สอยอย่างใกล้ชิดก็พากันคลายหายจากการรู้สึกริษยามาเป็นความรู้สึกเมตตาสงสารแทน 

     ในกรณีที่ข้าพเจ้าไม่ได้เงินเดือนขึ้นเหมือนคนทั้งหลาย  แท้จริงในจิตใจข้าพเจ้าไม่ได้มีความรู้สึกเสียใจหรือผิดหวังแต่ประการใด  เพราะข้าพเจ้าแน่ใจอยู่เสมอว่านายมีความรักใคร่เมตตาข้าพเจ้าเป็นพิเศษ  เคยให้ความอุปการะมามากพออยู่แล้ว ข้าพเจ้าใช้เหตุผลเหล่านี้ส่งเสริมกำลังใจมิให้ท้อถอยต่อการงาน  ข้าพเจ้าไม่เคยตำหนิหรือนินทาไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้น  และทำนองเดียวกัน  ข้าพเจ้าก็มิได้นำเรื่องซึ่งคนอื่นนินทาไปเสนอเพื่อหาความชอบ โดยคิดเสียว่าบุคคลเหล่านั้นกระทำไปด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา  นายต้องมีสติปัญญาดีพอที่จะรู้ว่าใครดีใครชั่ว  มิฉะนั้น  คงปกครองคนจำนวนมากให้เป็นระเบียบไม่ได้  ถ้าหากข้าพเจ้านำความไปฟ้อง  แน่นอนเหลือเกิน  ข้าพเจ้าจะต้องมีศัตรู  และยิ่งกว่านั้นครอบครัวของผู้ที่ถูกฟ้องมิได้รู้เห็นด้วย  อาจพลอยได้รับเคราะห์ในการกระทำของข้าพเจ้า  จึงสงบใจปฏิบัติแต่งานในหน้าที่ของข้าพเจ้าอย่างเดียว

     วันหนึ่งนายเรียกข้าพเจ้าเข้าไปในห้องส่วนตัว  สั่งให้ทำงานพิมพ์หนังสือพิเศษด่วน  ขณะที่กำลังพิมพ์หนังสือ  นายบอกข้าพเจ้าว่าจะออกไปทำธุรกิจนอกสถานที่  ให้ข้าพเจ้าอยู่ทำงานในห้องนั้นแต่ผู้เดียว แล้วนายก็ปลดเสื้อออกจากขอแขวนเสื้อมาห้อยไว้ที่ไหล่  แล้วก็เดินออกไปข้าพเจ้าก็พิมพ์งานต่อไป

     ในทันใดนั้นก็เหลือบสายตาไปเป็นที่ริมประตูทางออกที่นายเพิ่งเดินออกไปเมื่อสักครู่  มีซองหนังบรรจุธนบัตรตกอยู่  ข้าพเจ้ามองเห็นก็เข้าใจได้ทันทีว่า  เป็นของนายทำตกไว้  จึงเก็บซองนั้นมาวางไว้บนโต๊ะทำงานของนาย  จนกระทั่งบ่าย  นายกลับมาเห็นข้าพเจ้ายังนั่งพิมพ์หนังสืออยู่ก็ถามว่า  ยังไม่ออกไปหาอาหารรับประทานหรือ  ข้าพเจ้าเรียนตอบว่างานพิมพ์หนังสือยังไม่เสร็จ  นายเลยไล่ให้ข้าพเจ้าออกไปรับประทานอาหารกลางวันเสียก่อน  ด้วยความเมตตาสงสาร  ข้าพเจ้ารีบรับประทานอาหารแล้วก็กลับเข้าไปทำงานต่อ  เห็นนายนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะของท่าน นายแสดงความข้องใจที่ข้าพเจ้าเก็บซองธนบัตรไว้ให้   และบอกว่าไม่นึกจะได้คืน  เพราะเข้าใจว่าตกหายข้างนอกสำนักงาน  ทั้งวันนี้ก็เดินไปในสถานที่หลายแห่งในท้องที่สำเพ็ง  ไม่ทราบว่าจะทำตกที่ไหน  จึงเข้าใจว่าสูญหายเสียแล้ว  ข้าพเจ้าเพียงแต่รู้สึกสบายใจที่ได้ปฏิบัติตนเป็นประโยชน์และซื่อสัตย์ต่อผู้มีคุณ

     ต่อจากนั้นไม่นานโดยมิได้คาดฝันมาก่อน  นายได้ป่วยหนักลงอย่างกะทันหัน  ข้าพเจ้าได้รับทราบด้วยความกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง  ข้าพเจ้าไม่มีความสบายใจเลยเมื่อทราบข่าว  พยายามไปถึงที่บ้านก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้  เพราะแพทย์ห้ามเยี่ยม  และคนในบ้านก็คอยระมัดระวังมิให้ผู้ใดเข้าเยี่ยม  หรือทำความรบกวนผู้ป่วยได้ 

     ข้าพเจ้าต้องกลับบ้านด้วยความเป็นห่วงและผิดหวัง   เกิดวิตกไปหลายอย่างหลายประการว่า  ถ้าหากสิ้นนายใจอารีผู้นี้แล้ว  ข้าพเจ้าคงลำบากแน่  ไม่แต่เรื่องาน  ยังมีโฉนดที่บ้านซึ่งที่ยังค้างการจำนองอยู่กับท่าน  ถ้าผู้ที่ได้รับมรดกจากท่าน  ไม่มีใจเมตตาอารีเหมือนอย่างที่นายมีต่อข้าพเจ้า  เขาก็คงจะต้องเร่งให้ไถ่ถอนคืนเป็นแน่  ข้าพเจ้าหนักใจก็เพราะเงินจำนวนที่ยังค้างอยู่อีกครึ่งหนึ่งนั้น  ข้าพเจ้าได้ให้เพื่อนยืมไปส่วนหนึ่ง  อีกส่วนหนึ่งคงใช้จ่ายในการป่วยของมารดาบังเกิดเกล้า  และการเรียนของน้องๆ ในยามข้าพเจ้าไปรับใช้ชาติ  จึงยังเก็บเงินไม่ได้เท่าใดนัก  ถ้าหากข้าพเจ้าถูกเร่งรัดให้ใช้หนี้ในเวลาเช่นนั้น  ไม่ทราบว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครเพื่อหาเงินก้อนนั้นมาใช้หนี้


     วันหนึ่ง  ขณะที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ด้วยความเศร้าใจ  และคอยสดับตรับฟังอาการของนายอยู่ตลอดเวลา  ได้ทราบว่าอาการของท่านไม่ดีขึ้นเลย  ข้าพเจ้ามีความเศร้าหมองและทุกข์ร้อนราวกับว่าบิดาบังเกิดเกล้าของข้าพเจ้ากำลังป่วยหนัก  แต่ในขณะที่เฝ้ารอคอยข่าวคราวของนายนั้นเองมีผู้โทรศัพท์จากบ้านนายสั่งให้ข้าพเจ้ารีบไปเยี่ยมนาย   เนื่องจากนายต้องการพบตัว  ข้าพเจ้าแทบจะโลดออกไปด้วยความดีใจที่จะได้พบนายเพราะได้เวียนไปเยี่ยมหลายครั้งแล้วไม่ได้พบเลย

     ในทันทีที่ถึงบ้านนาย  มีผู้นำข้าพเจ้าไปที่ห้องนายนอนป่วย ข้าพเจ้าค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เตียงที่ท่านนอน  มองเห็นสภาพสังขารของนายที่ถูกโรคภัยเบียดเบียน  ชั่วในเวลาไม่กี่วันรู้สึกว่าผ่ายผอมลงมากจนผิดตา  ข้าพเจ้าสงสารท่านจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้  ภายในห้องนั้นมีบุคคลอยู่อีกผู้หนึ่ง  เข้าใจว่าเป็นพยาบาลคอยเฝ้าดูแลอาการ

     เมื่อนายเห็นข้าพเจ้าเข้าไปหาก็ยกมือบอกใบ้พยาบาลคนนั้นให้ออกไปจากห้อง  ให้เหลืออยู่แต่ข้าพเจ้ากับทางเพียงสองคนเท่านั้น  ต่อจากนั้น  นายก็พยายามพูดด้วยเสียงอันแหบแห้งแผ่วเบา  ให้ข้าพเจ้าหยิบของที่โต๊ะข้างเตียงสังเกตได้ตามมือที่ท่านชี้ไปทางโต๊ะตัวนั้น  

     ที่นั่นเห็นมีซองกระดาษสีน้ำตาลขนาดใหญ่ผนึกครั่งเรียบร้อย  เข้าใจว่าข้างในซองนั้นคงจะมีเอกสารมากมาย  ข้าพเจ้าหยิบขึ้นมาดูก็เห็นหนังสือจ่าหน้าซองถึงตัวข้าพเจ้า  ทำให้รู้สึกงงงันอยู่สักครู่  จึงหันไปดูนาย  เห็นท่านโบกมือคล้ายกับว่าให้ข้าพเจ้าเอาซองนั้นไป  แล้วก็กวักมือให้ข้าพเจ้าไปใกล้ๆตัวท่าน  พลางพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า  ให้เอากลับไปอ่านที่บ้าน  ในนั้นมีจดหมายของนายที่ได้เขียนไว้เมื่อล้มเจ็บใหม่ๆ  ตั้งใจว่าจะให้กับข้าพเจ้านานแล้ว  ทั้งที่คอยให้มาเยี่ยมก็ไม่เห็นมาสักที 

     ข้าพเจ้าเรียนตอบท่านว่า  ข้าพเจ้าได้มาคอยขออนุญาตเข้าเยี่ยมหลายครั้งหลายหนแล้วก็ไม่ได้รับอนุญาต  ในส่วนตัวข้าพเจ้าแล้วสำหรับคำสั่งของนายไม่ว่าการนั้นๆ จะยากง่ายประการใด  ข้าพเจ้าจะพลีตนทำให้  เพื่อสนองพระเดชพระคุณนายทุกสิ่งทุกอย่างแม้ชีวิตข้าพเจ้าก็พลีเพื่อนายได้

      นายฟังข้าพเจ้าเข้าใจดี  ไม่กล่าวสิ่งใดเพียงแต่พยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ  ข้าพเจ้านิ่งพิจารณาเค้าหน้าตลอดสังขารเรือนร่างของนายแล้วรู้สึกสงสารจับใจ  และคิดว่าหากสามารถรับความเจ็บป่วยทรมานมาเป็นของข้าพเจ้าได้เองแล้ว  ก็เต็มใจอย่างที่สุดที่จะรับมาเสียเอง  เพื่อมิให้ท่านต้องทุกข์ทรมานกายอย่างที่แลเห็นอยู่

     ทันใดนั้น  นายแพทย์ใหญ่ประจำตัวก็เข้ามาในห้อง  มีสีหน้าแสดงความว่าไม่พอใจ  ในการที่ข้าพเจ้าเข้ามารบกวนผู้ป่วย  เป็นการฝืนคำสั่งของแพทย์  นายแลเห็นกิริยาของนายแพทย์เช่นนั้น  ก็บอกว่าท่านต้องการพบตัวข้าพเจ้าเป็นพิเศษ  สีหน้าของนายแพทย์คลายความเครียดลง ข้าพเจ้าจึงต้องกราบลานายด้วยความอาลัยและเป็นห่วงอย่างยิ่ง

     เมื่อกลับถึงบ้านก็นำซองนั้นมาเปิดดู  นึกสงสัยว่าในนั้นจะมีเรื่องสำคัญอย่างใดเกี่ยวกับตัวข้าพเจ้าบ้าง  ความคิดของข้าพเจ้ากำลังวิตกกังวลอยู่กับการป่วยไข้ของนาย  และเกี่ยวกับการงานบ้าง  ทำให้นั่งซึมมองดูซองนั้นด้วยความรู้สึกเลื่อนลอยเป็นครู่ใหญ่

     แล้วข้าพเจ้าก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อเปิดซองออก  ในนั้นมีธนบัตรเป็นจำนวนมาก  พร้อมด้วยโฉนดที่ดินและใบสัญญากู้เงินที่ข้าพเจ้าทำไว้กับนายเมื่อยังรับราชการทหารอยู่  นอกนั้นยังมีจดหมายสอดอยู่ด้วยอีกหนึ่งฉบับ  เมื่อค่อยคลายความตื่นเต้นลงบ้างแล้ว  ก็เก็บธนบัตรและใบโฉนดไว้ในซองใหญ่ตามเดิม  เปิดซองจดหมายของนายออกมาอ่านทันที ในจดหมายมีใจความสำคัญบางตอน  ซึ่งข้าพเจ้าคัดเลือกมาเสนอ  คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่าน


      ก่อนอื่น  ฉันขอมอบโฉนดที่ดิน  สัญญากู้เงิน  พร้อมทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นที่เธอได้นำมามอบต่อฉัน  คืนให้กับเธอเป็นกรรมสิทธิ์ของเธอฉะนั้น  ตั้งแต่บัดนี้ไม่มีหนี้สินเกี่ยวกัน  และไม่มีข้อผูกมัดระหว่างกัน  ด้วยเรื่องเงินกู้และที่ดิน  พร้อมบ้านของเธอกับฉันต่อไป

     ฉันคิดว่าเธอคงแปลกใจ  จึงขอให้เธอทราบไว้ว่าสิ่งต่างๆที่เธอเห็นอยู่นั้น  เป็นรางวัลความดีที่เธอได้ประพฤติปฏิบัติ  ฉันขอชมว่า  เธอมีคุณลักษณะเป็นลูกที่ดีของมารดา  เป็นพี่ที่ดีของน้องๆ เป็นคนงานที่ดีของนายจ้าง  และเป็นมิตรที่ดีของเพื่อนฝูงทั่วไป  การที่ฉันยกย่องว่าเธอเป็นลูกที่ดีของมารดานั้น  เพราะฉันได้ทราบว่าเธอเป็นผู้มีความเคารพ  ความกตัญญูต่อพระคุณของมารดาบังเกิดเกล้า  เมื่อยามที่มารดาป่วยไข้ได้ความทุกข์  เธอก็ได้ทำหน้าที่ของเธอเยี่ยงบุตรที่ดี  ไม่ทอดทิ้งห่างไกล  คอยดูและด้วยความห่วงใย อยู่พยาบาลรักษาจนสุดกำลัง

     สำหรับความเป็นพี่ที่ดีของน้องนั้น  เธอก็ได้ทำตนเป็นผู้คุ้มครองสอดส่องดูแลทุกข์สุข  ให้คำแนะนำและส่งเสริมให้ได้เล่าเรียนวิชาความรู้คอยช่วยเหลือเป็นกำลังใจในการศึกษา ด้วยความรักใคร่เอ็นดูน้องอย่างดีตลอดมา

     สำหรับประการที่เธอทำตนเป็นเพื่อนที่ดีนั้น  ฉันทราบว่าเธอไม่เคยประทุษร้ายเพื่อนผู้ใดทั้งต่อหน้าและลับหลัง  เมื่อมีเพื่อนคนใดได้รับทุกข์ร้อนมาหา  เธอก็ได้พยายามช่วยเหลือปลอบใจให้คำแนะนำที่ถูกและที่ควร เธอคงจะแปลกใจในการที่ฉันได้ทราบความเคลื่อนไหวของเธออยู่ตลอดทุกระยะ  ทั้งในหน้าที่การงานและนอกเวลางาน  มิใช่แต่เพียงฉันจะทราบความเคลื่อนไหวเฉพาะแต่ตัวเธอเท่านั้น  ยังมีคนงานอื่นๆ อีกหลายคนที่อยู่สายตาของฉันทั้งนอกและในเวลางาน  เธอคงนึกตำหนิว่า  ฉันนี้ไร้มารยาทที่ได้กระทำตนก้าวก่ายเข้าไปยุ่งในเรื่องส่วนตัวผู้อื่น  นอกเหนือไปจากการงานหน้าที่และตำแหน่ง 

     ถ้าเธอได้มีโอกาสมาเป็นเช่นที่ตัวฉันกำลังเป็นอยู่นี้  เธอจะต้องเห็นด้วยทีเดียวว่า  ผู้ที่เป็นนายจ้างต้องรับผิดชอบต่อผลประโยชน์ของกิจการและคุ้มครองความเป็นอยู่ของคนงาน  มิใช่แต่เพียงครอบครัวของคนงานทุกคนด้วย  ปกติคนงานแต่ละคนที่จะนำเอาสมรรถภาพของตนมาทำงานนั้น  จำต้องมีรากฐานความเป็นอยู่ดี  กินดี  ซึ่งมาจากครอบครัวเป็นพื้นก่อน  ถ้าหากทางครอบครัวมีแต่ความอลเวงอันประกอบไปด้วยความไม่ปกติสุขแล้ว  บุคคลผู้นั้นจะมีกำลังใจประกอบธุรกิจการงานนั้นๆ ด้วยสมรรถภาพอย่างดีได้อย่างไร 

     ที่กล่าวมานี้หวังว่าเธอคงจะเข้าใจดี  เพราะตัวของเธอเองเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว  มารดาของเธอป่วย  เธอก็มีจิตใจกังวลแบ่งไปวุ่นวายด้วยการป่วย  การรักษา  สมรรถภาพการทำงานของเธอถูกแบ่งไปแล้ว  จึงจำเป็นที่ฉันจะต้องคอยสืบเสาะช่วยเหลือคนงานที่ดีของฉันไว้  เพื่อให้เขาคลายความกังวล  หันมาปฏิบัติงานด้วยจิตใจอันเป็นปกติ  งานการในหน้าที่ก็ปราศจากความบกพร่องดังกล่าวมานี้  ถ้าจะนิ่งไว้ไม่บอกเธอ  ว่าฉันทราบความเคลื่อนไหวของเธอและคนงานอื่นๆ สิ่งต่างๆก็ดูว่าจะเป็นไปโดยธรรมชาติเสียหมด  แต่ฉันมาเล็งเห็นความดีของเธอ  ที่เป็นสิ่งประหลาดหาได้ยากในคนงานจำนวนมาก  จึงสมควรที่จะเล่าให้ทราบไว้  เพื่อเป็นอนุสติต่อไปในภายภาคหน้า  เมื่อมีโอกาสได้เป็นผู้รับผิดชอบต่อผลประโยชน์  อันเนื่องด้วยบุคคลจำนวนมากอย่างที่ฉันกระทำอยู่นี้  คงจะได้นำเอาไปประพฤติปฏิบัติเป็นแนวทางต่อไป

     อนึ่ง  เธอคิดว่าเมื่อฉันทราบดีว่ามีใครดีใครเลวอยู่ในวงงานที่ฉันรับผิดชอบอยู่  แล้วเหตุไรจึงยังไม่จัดการให้เขาออกไปเสีย  เพื่อหาคนที่ประพฤติดีกว่ามาทำงาน  เป็นการที่จะได้ทั้งคนดีและเงินเดือนก็จ่ายน้อยกว่าด้วย  สำหรับผู้อื่นนั้นทำเช่นว่าก็เป็นการถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพของกิจการ  แต่ฉันเป็นพุทธมามกะยึดมั่นในหลังมนุษยธรรมและเมตตาธรรม เพราะคนพวกนี้มีลูกมีเมีย  บางคนก็มีแม่ที่ต้องเลี้ยงดูอุปการะ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าครอบครัว  ความประพฤติของเขาไม่น่าจะได้รับอภัย  ฉะนั้นถ้าถูกลงโทษไล่ออก  ความเดือนร้อนของทางครอบครัวก็จะต้องเกิดขึ้นตามมาทันที  อีกหลายชีวิตจะต้องรับความลำเค็ญขมขื่น  ฉันไม่ปรารถนาจะให้เป็นไปด้วยการกระทำด้วยความเด็ดขาดอย่างนั้นเลย

     ประการแรกที่ฉันจะทำก็คือ  แสดงตนว่าฉันได้รู้เห็นเหตุการณ์อันเกี่ยวกับความประพฤติของเขา  และให้คำแนะนำตักเตือน  เมื่อตักเตือนแล้วก็ค่อยสืบต่อไป  โดยมากเมื่อตักเตือนแล้วก็ทำให้สำนึกตัวในความผิดกลับใจได้  และยิ่งรู้ว่าตนเองอยู่ในสายตาของผู้เป็นนาย  ซึ่งคอยดูและความเคลื่อนไหวอยู่ทุกระยะก็เกิดความเกรงใจ  กลับตัวกลับใจเป็นคนรักลูกรักเมีย  การเที่ยวเตร่สุรุ่ยสุร่ายก็บรรเทาลงได้  เพราะได้คิดว่าถ้าต้องว่างงาน  ก็หมายถึงความอดอยากและลำบากด้วยประการต่างๆ  คนเช่นนี้ควรได้รับการให้อภัยและสรรเสริญ

     บุคคลอีกจำพวกหนึ่ง  เมื่อได้รับคำตักเตือนแล้วไม่แต่เพียงทำเฉยไม่ยอมกลับตัว  กลับซ้ำติเตียนนินทาเมื่ออยู่ลับหลังนายจ้าง  บ่นว่าด้วยเรื่องร้อยแปดประการ  บางคนว่าพ่อแม่ยังไม่กล้ามาว่ามาบังคับ  คนอื่นดีวิเศษอย่างไรจะมีสิทธิ์มาบังคับได้  เขาหารู้ไม่ว่าคำตักเตือนนั้นมีความเมตตาปรารถนาดีมีคุณค่าสูง  เขาจะหวังสิ่งเหล่านี้ได้จากใคร  ถ้าหากผู้ที่เป็นพ่อแม่ก็ให้ไม่ได้  หรือเมื่อให้ก็ไม่รับ  ถ้าเขาไม่ติดอยู่ในอารมณ์ฝ่ายต่ำแล้ว  จะเห็นคุณค่าของคำเตือน  ฉะนั้น  เมื่อเตือนครั้งแล้วครั้งเล่ายังไม่ได้เกิดผลดีขึ้น  ฉันก็จำต้องวางใจเป็นอุเบกขา  จัดการไปตามที่เห็นสมควรเพื่อเป็นการป้องกันความหายนะของส่วนรวม  ก็ต้องรับกรรมที่ตนได้ทำไว้  ส่วนผู้ที่ประพฤติดี  ขยันทั้งนอกและในเวลาทำงาน  เมื่อได้ประสบความลำบาก  บุคคลพวกนี้สมควรจะได้รับความอุปการะช่วยเหลือเพราะคุณงามความดีเป็นเครื่องตอบแทน

     เธอเป็นผู้มีกตัญญูต่อผู้มีคุณ  เอาใจใส่ดูแลมารดายามป่วยไข้ปกครองเลี้ยงดูให้การศึกษาแก่น้องด้วยความรักและเมตตา  ขยันต่อการงานไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าและลับหลังนาย  มีความสุจริตต่อหน้าที่  ฉันไม่ขึ้นเงินเดือนให้เธอ  ทั้งที่เธอทำงานด้วยความขยันขันแข็งมาเป็นปี ๆ  เธอก็มิได้แสดงความน้อยใจ  บ่นนินทา  หรือละความขยันให้น้อยลง  คงทำงานด้วยความอดทนมั่นคงเช่นเดิม  แม้จะมีใครชวนให้ร่วมนินทา  เธอก็ไม่ยอมร่วมเช่นคนอื่นบางคน 

     ฉันรู้ดี  ฉันรู้ว่าเธอเป็นผู้ที่มั่นอยู่ในความกตัญญูดังที่ฉันให้ความช่วยเหลือเมื่อมารดาป่วย  ขณะที่กำลังเป็นทหารอยู่  และการที่ไม่ขึ้นเงินเดือนให้ก็เพราะต้องการศึกษาจิตใจของเธอว่า  จะมีความรู้สึกอดทน  มีจิตใจหนักแน่นเพียงไร  และฉันก็ทราบอยู่ว่าทางบ้านของเธอในเวลานั้นก็ยังไม่มีความเดือนร้อนอย่างไร  และเป็นการผ่อนบรรเทาความอิจฉาริษยาของผู้อื่นที่มีต่อเธอให้หมดไป

      หวังว่าเธอคงจำได้ที่เก็บซองธนบัตรที่ฉันทำตก  เธอนำมาวางบนโต๊ะทำงาน  ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เปิดดูว่าในนั้นมีอะไรอยู่บ้าง  เธอเป็นคนดีที่ไม่ยอมทำตนเป็นคนสอดรู้สอดเห็นเหมือนคนอื่น  เพราะฉันทำเครื่องหมายลับไว้  ถ้าใครเปิดซองออกดูฉันจะต้องทราบได้ทันที  ทั้งหมดนี้มันเป็นแผนการของฉันเหมือนกัน พฤติการณ์ของเธอเหล่านี้  ทำให้ฉันมีความเอ็นดูรักใคร่เธอเหมือนลูกหลานของฉัน      เพราะฉะนั้น  ความดีของเธอจึงควรมีรางวัลเป็นการตอบแทนดังที่ฉันได้จัดการตามที่เธอเห็นปรากฏอยู่เดี๋ยวนี้  และฉันมีความสบายใจหมดห่วง 

     เมื่อทุกอย่างที่ฉันปรารถนาได้ถึงมือของเธอโดยเรียบร้อย  และฉันก็เป็นสุขใจในบั้นปลายของชีวิต  ฉันจะตายอย่างเป็นสุข  ฉันมั่นใจว่าฉันได้กระทำสิ่งที่ถูกต้อง  ในสิ่งที่ฉันพอใจทุกอย่างแล้ว  ประการสุดท้ายที่ฉันจะขอเธอในจดหมายนี้ก็คือ  ขอให้เธอรักษาความดี  และทำความดีไว้ให้เพิ่มพูน  ความดีนั้นจะสนองตลอดไป  เธอก็ยังเป็นโสดอยู่และเธอก็มีฐานะที่จะมีครอบครัวได้แล้ว  แต่เสียใจฉันไม่ได้มีโอกาสที่จะอยู่เห็นความเจริญของครอบครัวเธอ  แต่ฉันขออวยพรให้เธอจงได้ประสบคู่ครองที่ถูกใจ  มีคุณธรรมความดีเสมอด้วยตัวเธอ  และจงมีความสุขความเจริญตลอดไป

                                                       จากผู้มีความรักและความหวังดีต่อเธอ

     ต่อจากนั้นมา ๒-๓ วัน ขณะที่ข้าพเจ้านั่งรับประทานอาหารเช้าเสียงวิทยุภาคเช้ากำลังออกอากาศด้วยเพลงและข่าว แล้วก็ถึงรายการพิเศษต่างๆ ทันใดนั้นข้าพเจ้ารู้สึกเสียววูบเข้าหัวใจประหนึ่งสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมา แล้วข้าพเจ้าก็มีอาการหน้ามืดล้มจากโต๊ะอาหารสู่พื้นแล้วก็ปราศจากความรู้สึก

     มารู้สึกตัวเมื่อเห็นมารดาและน้องๆมาห้อมล้อม  ข้าพเจ้าไม่สนใจว่าจะเป็นใครบ้าง  น้ำตาข้าพเจ้าไหลพร่างพรูอย่างสุดฝืน  เหลือที่จะหักความเศร้าโศกเสียใจไว้ได้  นายได้จากข้าพเจ้าไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ  นายผู้มีความเมตตาปราณีให้ไม่เฉพาะเพียงแต่ข้าพเจ้า  หากแต่ความกรุณาของนายนั้น  ยื่นให้แก่ทุกคนที่เป็นผู้น้อยภายใต้บังคับบัญชาที่ทำความดีให้ท่านเห็นใจ  ขอวิญญาณที่เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมอันประเสริฐ  จงสถิต ณ สุคติภพเถิด 

     ข้าพเจ้าเป็นลมเพราะได้ยินวิทยุประกาศข่าวมรณกรรมของนายผู้มีใจอารี  บัดนี้นายที่ข้าพเจ้ารักยิ่งชีวิต  นายที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือสูงสุด  นายเหมือนพระที่ข้าพเจ้าเคารพบูชาด้วยใจบริสุทธิ์  นายเหมือนบิดาบังเกิดเกล้าของข้าพเจ้า  บัดนี้ท่านได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับคืนมาอีกแล้ว  ข้าพเจ้าจะหาคนใจดีอย่างนายไม่พบอีกแล้วในชาตินี้   ข้าพเจ้าสะอื้นร้องให้เหมือนเด็กทารกอย่างหมดยางอาย  มารดาและน้องต่างก็พากันร้องไห้อาลัยนาย  ทั้งๆที่ยังไม่เคยรู้จักและเห็นตัวนายของข้าพเจ้ามาก่อนเลย  แต่ทุกคนรู้จักความดีที่นายได้แผ่ความเมตตากรุณาให้มาเท่านั้น

     พอความเศร้าโศกค่อยบรรเทาลงบ้าง  ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจแล้วก็ทรุดตัวลงกราบมารดาแล้วบอกว่า  ข้าพเจ้าจะขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา   เพื่อบุญกุศลอันบริสุทธิ์ที่จะได้อุทิศให้แก่นาย   เพราะท่านได้สิ้นบุญไปแล้ว  เราไม่มีโอกาสที่จะตอบแทบพระคุณของท่านโดยตรงได้  ขอให้ท่านอนุโมทนาและอนุญาตให้ข้าพเจ้าได้บวชตามความประสงค์ด้วย 
     
      มารดาลูบศีรษะของข้าพเจ้าด้วยความรักและเอ็นดูบอกว่า  ท่านเห็นชอบและอนุญาตให้บวชตามประสงค์  ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่ง  ท่านกล่าวว่าข้าพเจ้าคิดดีแล้ว  ถูกแล้ว  ที่จะตอบแทนพระคุณนายด้วยวิธีอันสูงด้วยปัญญาอย่างนี้  ความดีที่ทำนี้ไม่มีวันสูญสิ้น  และท่านเองจะไว้ทุกข์ให้กับนายเป็นเวลานาน ๖ เดือน  ความดีที่แล้วมาได้สนองให้ทันตาเห็นแล้ว  ขอให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆเถิด  ข้าพเจ้าก้มลงกราบรับพรของมารดาด้วยความตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง

     จดหมายฉบับนั้นเป็นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของนายครั้งหลังสุด  ก่อนที่จะถึงวาระสุดท้ายของท่าน  ข้าพเจ้านำเอาไปบรรจุหีบอย่างดีเก็บไว้บนที่สูง  สำหรับกราบไหว้สักการบูชาแทนตัวนายของข้าพเจ้าตราบเท่าทุกวันนี้   เพราะนอกจากจะเป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงนายแล้ว  ยังบรรจุข้อความอันมีค่าอย่างล้นเหลือ  ควรแก่การกำหนดจดจำสำหรับบุคคลทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้าง  โดยเฉพาะสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง  จดหมายฉบับนี้ทรงคุณค่าอันสูงล้ำเหมือนหนึ่งมรดกชิ้นสุดท้ายที่นายมอบไว้ให้ก่อนตาย

     ข้าพเจ้าเห็นว่า  เรื่องราวของท่านผู้นี้ยังสารประโยชน์ในเชิงอุทาหรณ์  เป็นเครื่องเตือนใจแก่บรรดาบุคคลผู้อยู่ในฐานะดังที่ท่านเจ้าของเรื่องได้กล่าวไว้  จึงนำมาเสนอท่านผู้อ่าน

จบเรื่องที่ ๗

ขอความดีงามจงบังเกิดกับท่านผู้อ่าน
ขออุทิศแด่ท่านอาจารย์ ทองหยก เลียงพิบูลย์ เจ้าของวรรณกรรมอิงธรรมะชุดนี้
และขอขอบพระคุณท่าน พลเรือเอก ทวิชัย เลียงพิบูลย์ และทายาท(เจ้าของลิขสิทธิ์)









2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ30 เมษายน 2558 เวลา 08:03

    สวัสดี
    ผมนายริชาร์ดเฟรเดอริยืมเจ้าหนี้ภาคเอกชน
    โอกาสเครดิตของชีวิต
    คุณไม่จำเป็นต้องกู้เงินเร่งด่วนที่จะล้างหนี้ของคุณคุณจำเป็นต้องกู้เงิน
    ปรับปรุงธุรกิจของคุณ
    คุณถูกปฏิเสธ
    ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ
    ต้องการที่จะรวมหนี้หรือจำนอง?
    หยุดค้นหาเราอยู่ที่นี่เพื่อให้ทุกปัญหาทางการเงินของคุณ
    ในอดีตที่ผ่านมาเราจะปล่อยกู้ให้กับประชาชน
    หากจำเป็นให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่มีเครดิตไม่ดีหรือจำเป็นต้องใช้เงิน
    ที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายของเงินลงทุนในจำนวน 2% ผมต้องการที่จะ
    ใช้มัน
    เฉลี่ยแจ้งให้ทราบว่าเราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้มีการรักษาความปลอดภัยและ
    ข้อดีเช่นกัน
    คุณพร้อมที่จะให้ยืมเงินคุณ ดังนั้นติดต่อเราวันนี้
    โดยการส่งอีเมล์
    fredrickrichardloans@gmail.com
    การกู้คืนข้อมูล
    1) ชื่อเต็ม: .............................. ...............
    ..........
    2) ประเทศ: .............................. ................ .............
    3) ที่อยู่: ............... ............................... ...........
    4) .............................. ................ รัฐ ............ ..
    5) เพศ: .............................. ................ .............. ....
    6) จำหน่าย: .............................. ................ ...
    7) อาชีพ: .............................. ............... .......
    8) โทรศัพท์: .............................. ................ ..
    9) ตำแหน่งปัจจุบันในสถานที่ทำงาน: .....................
    10) รายได้: .............................. .. ........... ..
    11) วงเงินกู้ที่จำเป็น: .............................. .......
    12) เงินกู้ระยะเวลา: .............................. ..
    ........... ... ..
    13) วัตถุประสงค์ของเงินกู้: .............................. ............
    14) ศาสนา: .............................. ................ ..........
    15) คุณใช้ในการ .... .............................
    ขอบคุณ
    นายริชาร์ดเฟรดริก

    ตอบลบ
  2. สวัสดี
    ในการเผชิญกับปัญหาทางการเงินหรือไม่ คุณอยู่ในความต้องการของเงินกู้หรือไม่? หรือที่พวกเขาได้รับการปฏิเสธจากธนาคารในประเทศ? คุณจำเป็นต้องกู้เงินด้วยเหตุผลใด? ความช่วยเหลือของคุณเป็นที่สุดที่นี่เป็นมอริซการเงินมีเงินให้กู้ยืมทั้งหมดทั้งการจ้างงานและการว่างงานบุคคลและ บริษัท ที่เรามีเงินให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 2% ผู้กู้ที่สนใจจะติดต่อเราผ่านทาง e-mail มาที่ mauricefinance@hotmail.com และได้รับเงินกู้ยืมของพวกเขาในวันนี้ บริการของเราได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ดังนั้นโปรดติดต่อเราได้ที่ (mauricefinance@hotmail.com) และเพลิดเพลินกับข้อเสนอของเราให้บริการทางการเงิน
    อีเมล์: mauricefinance@hotmail.com
    Maurice Finance

    ตอบลบ